เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ นายช่วงโชติพันธุเวช อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา (มร.สส.) เปิดเผยความคืบหน้าในการเตรียมความพร้อมเปลี่ยนสถานะเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับรัฐ หรือมหาวิทยาลัยนอกระบบ ของ มร.สส.ว่า เมื่อเร็วๆ นี้คณะกรรมการบริหาร มร.สส.เห็นชอบให้ใช้ชื่อร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยสวนสุนันทา ตามที่คณะกรรมการยกร่างเสนอ โดยหากเปลี่ยนสถานะไปเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับรัฐ จะเปลี่ยนชื่อเป็น "มหาวิทยาลัยสวนสุนันทา"ตัดคำว่า "ราชภัฏ" ออกเช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต (มสด.) เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในแง่กฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเนื่องจาก พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.)ที่ มรภ.ทั้ง 40 แห่งใช้กันในขณะนี้ เป็นพ.ร.บ.ที่ใช้ร่วมกัน ซึ่งข้อบังคับในการบริหารงานต่างๆ ของกลุ่ม มรภ.จะต้องเหมือนกันดังนั้น เพื่อให้การทำงานคล่องตัว และไม่เกิดความไม่ซ้ำซ้อนหากจะออกนอกระบบราชการ จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อมหาวิทยาลัยโดยชื่อ "สวนสุนันทา" ก็เป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานเช่นเดียวกัน

          "ที่ผ่านมาได้ทำความเข้าใจกับอาจารย์และบุคลากรภายในแล้ว ส่วนใหญ่เข้าใจดีแต่ยังมีบางส่วนที่ไม่เห็นด้วย เพราะคิดว่ามหาวิทยาลัยยังไม่พร้อม และดูแลตัวเองไม่ได้ทั้งที่มหาวิทยาลัยดูแลตัวเองมาพอสมควรแล้ว และขณะนี้บุคลากรกว่า 80% ที่ทำงานเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยเกือบทั้งหมด จึงต้องทำความเข้าใจต่อไป ส่วนนักศึกษาที่เคยคัดค้าน ก็จะต้องเร่งทำความเข้าใจว่าการออกนอกระบบไม่มีผลกระทบต่อการขึ้นค่าเทอมแน่นอน คิดว่าไม่เกิน 6 เดือน น่าจะยกร่างพ.ร.บ.เสร็จ จากนั้นทำประชาพิจารณ์ขอความเห็นจากบุคลากร และนักศึกษา แต่คงเสนอไม่ทันปีนี้ โดยตั้งเป้าว่าไม่ควรจะเกินปี 2556 เพราะเมื่อไทยเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี2558 แล้ว มหาวิทยาลัยต่างๆ จะแข่งขันสูงขึ้น จึงต้องเร่งปรับตัวให้พร้อมต่อการแข่งขันโดยเมื่อเปลี่ยนสถานภาพแล้ว จะเน้นการเรียนการสอนด้านงานบริการ ศิลปวัฒนธรรมและผลักดันหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น" นายช่วงโชติกล่าว

          นายมนูญ หมวดเอียด ตัวแทนพยาบาลมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) กล่าวว่าได้ยื่นหนังสือถึงนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อประสานงานไปยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกรัฐมนตรี เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพยาบาล โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ รวมถึง แพทย์ อาจารย์แพทย์ ที่มีผลกระทบจากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ช่วงที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีที่มีมติให้มหาวิทยาลัยออกนอกระบบราชการทำให้พยาบาล นายแพทย์ อาจารย์แพทย์ที่มีอยู่ประมาณ 60% ของ มอ.ไม่มีโอกาสบรรจุเป็นข้าราชการ ต้องอยู่ในฐานะลูกจ้างใช้ระเบียบประกันสังคม

          "ที่ยื่นหนังสือถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ผ่านนายณัฐวุฒินั้น ได้รับการประสานงานแล้ว โดยให้ตัวแทนไปพบ และยื่นหนังสือถึงนายกฯ ที่จ.ภูเก็ต ในวันที่ 20 มีนาคม ในการประชุมครม.สัญจร ซึ่งจะมีกลุ่มพยาบาล และแพทย์มอ.เดินทางไปประมาณ 100 คน จาก 6 คณะ ได้แก่ คณะแพทยศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ คณะเทคนิคการแพทย์ คณะกายภาพบำบัด คณะเภสัชกร โดยมีคณะพยาบาลศาสตร์เป็นแกนนำ โดยกลุ่มพยาบาลทั่วประเทศมีประมาณ 160,000 คน" นายมนูญกล่าว

          แหล่งข่าวคนหนึ่งกล่าวว่า ขณะนี้คณะต่างๆ อยู่ระหว่างยกร่างรายละเอียดหนังสือที่จะยื่นถึงนายกฯ กรณีมหาวิทยาลัยของรัฐต้องเปลี่ยนสถานภาพ เพราะส่งผลกระทบต่อมหาวิทยาลัย บุคลากร และนักศึกษา ซึ่งคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย เช่น อธิการบดีเป็นต้น ไม่มีผลกระทบจากการเปลี่ยนสถานภาพ เพราะทำให้มีอำนาจในการจัดการบริหารตนเอง

          "ขณะนี้เกิดความเหลื่อมล้ำสูงมากในมหาวิทยาลัย จนกระทบไปถึงนักศึกษา โดยบางแห่งอธิการบดีมีรายได้เป็นเงินเดือน240,000 บาท ยังไม่นับเงินโบนัสอีก ส่วนนักศึกษามหาวิทยาลัยรัฐบางแห่งค่าเทอมจาก3,000 บาท ขยับขึ้นเป็น 18,000-20,000 บาท" แหล่งข่าวคนเดิมกล่าว