ข้อมูลล่าสุดของสำนักงานวิจัยมะเร็งนานาชาติ องค์การอนามัยโลก ระบุว่า
ในแต่ละปีจะมีผู้หญิงไทยเป็นมะเร็งปากมดลูกประมาณ 10,000 คน หรือวันละ
27 คน และในแต่ละปีมีผู้หญิงไทยเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกประมาณ
5,200 คน หรือเฉลี่ยวันละ 14 คน
นพ.วิสิทธิ์ สุภัครพงษ์กุล นายกสมาคมมะเร็งนรีเวชไทย เปิดเผยว่า
ปัจจุบันมีหลักฐานยืนยันว่า สาเหตุสำคัญของมะเร็งปากมดลูกเกิดจากการติด
เชื้อไวรัสที่ชื่อ ฮิวแมนแพปพิลโลมาไวรัส เรียกย่อๆ เอชพีวี (HPV) ซึ่งมี
หลายสายพันธุ์ แต่สายพันธุ์สำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่อง
คลอด มะเร็งปากช่องคลอด มะเร็งทวารหนัก และมะเร็งองคชาต คือ สายพันธุ์
16 กับ 18 ส่วนสายพันธุ์ 6 และ 11 เป็นสาเหตุกว่า 90% ของหูดหงอนไก่
ด้าน รศ.นพ.วิชัย เติมรุ่งเรืองเลิศ หัวหน้าหน่วยมะเร็งนรีเวชวิทยา ภาค
วิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
กล่าวเพิ่มเติมว่า เชื้อไวรัสเอชพีวี นอกจากจะก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูกแล้ว
ยังก่อให้เกิดมะเร็งทวารหนักและมะเร็งองคชาต ซึ่งในปัจจุบันพบว่ามีทั้ง
ผู้หญิงและผู้ชายเป็นมะเร็งทวารหนักมากขึ้น มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งชนิด
หนึ่งที่รักษาให้หายขาดได้สูงหากเป็นระยะแรกๆ อย่าหลงผิดไปรักษาผิดทาง
เช่น การไปรักษาโดยยาสมุนไพร หรือกลัวการรักษาจนเกินเหตุ ทำให้โรค
เป็นมากขึ้น จนโอกาสหายจากโรคน้อยลง
"มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่สามารถป้องกันได้ ไม่ว่าจะเป็นการมี
เพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย การตรวจคัดกรองเป็นระยะๆ และปัจจุบัน มะเร็ง
ปากมดลูก รวมทั้งมะเร็งอื่นๆ ที่เกิดจากการติดเชื้อ HPV มีวัคซีนที่สามารถ
ป้องกันได้ แนะนำให้ฉีดแก่เด็กผู้หญิงก่อนมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก หรือฉีด
ตั้งแต่ประมาณอายุ 11-12 ปี วัคซีนจะมีทั้งหมด 3 เข็ม เมื่อฉีดครบ 3 เข็ม
คาดการณ์ว่าจะสามารถป้องกันการติดเชื้อเอชพีวีได้อย่างน้อย 30 ปี โดยไม่
ต้องฉีดกระตุ้น ในบางประเทศมีการฉีดวัคซีนให้ในเด็กผู้ชายด้วย หรือบางคน
ที่มีเพศสัมพันธ์ไปแล้วแต่ยังไม่ได้รับเชื้อก็สามารถฉีดป้องกันได้ หรือบางคน
ฉีดเพื่อป้องกันการติดเชื้อครั้งใหม่ก็ได้"
เพื่อเป็นการรณรงค์ต่อต้านโรคมะเร็งในสตรี เชิญร่วมเดินรณรงค์ใน
โครงการ Globe-athon "เดินร่วมใจต้านภัยมะเร็งสตรี" ณ บริเวณสวนวชิร
เบญจทัศ (สวนรถไฟ) ในวันที่ 29 กันยายน เวลา 06.30-10.30 น.
www.globeathon.com หรือ www.tgcsthai.com หรือเฟซบุ๊ก:
Globeathonthailand
