ข้อมูลจากการประชุมวอร์รูมประเมินสถานการณ์โรคไข้เลือดออกเพื่อติดตามเฝ้าระวังแก้ไขปัญหาไข้เลือดออกของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ระบุว่าขณะนี้จำนวนผู้ป่วยทั่วประเทศมีแนวโน้มลดลง แต่มีบางพื้นที่ยังพบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น ผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดที่มีพื้นที่ใหญ่ๆ เช่น เชียงใหม่ เชียงราย กรุงเทพมหานคร สงขลา และนครราชสีมา
          สาเหตุที่ไข้เลือดออกระบาดมากในปีนี้เพราะฝนตกติดต่อกันมาก รวมทั้งวงจรโรคไข้เลือดออกมีการแพร่ระบาดทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้นสิ่งที่ประชาชนต้องร่วมมือกันควบคุมป้องกัน คือ 1.กำจัดยุงลาย กำจัดลูกน้ำยุงลาย จะต้องทำอย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่ทำครั้งเดียวแล้วเลิก 2.หากมีอาการป่วย สงสัยเป็นไข้เลือดออก อย่าซื้อยากินเอง โดยเฉพาะยากลุ่มแอสไพริน ขอให้รีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลทันที
          นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการ สธ.ย้ำเตือนประชาชนทุกเพศทุกวัยที่เป็นไข้ว่า ให้เช็ดตัวบ่อยๆ ด้วยน้ำธรรมดา ผู้ใหญ่ให้กินยาลดไข้พาราเซตามอล 1 เม็ด ทุก 6 ชั่วโมง หากเป็นเด็กให้กินยาพาราเซตามอลตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด หากเช็ดตัวและกินยาลดไข้แล้วไข้ไม่ลดลงภายใน 1-2 วัน ไม่มีอาการไอ ไม่มีน้ำมูก หรือมีอาการปวดท้อง อาเจียน หรือถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ ขอให้พาผู้ป่วยไปพบแพทย์ทันที
          ล่าสุดรัฐบาลได้ประกาศให้ปัญหาไข้เลือดออกเป็นวาระแห่งชาติ และเร่งให้ทุกหน่วยงานกำจัดลูกน้ำยุงลาย ผลการดำเนินงานพบว่า ได้ผลดี สามารถลดจำนวนผู้ป่วยไข้เลือดออกลงจากเดิมที่พบสัปดาห์ละ 7,000-8,000 ราย เหลือสัปดาห์ละ 3,000 ราย และตั้งเป้าจะให้เหลือต่ำกว่า 1,000 รายต่อสัปดาห์ภายในเดือนกันยายนนี้