นายนที สรวารี เลขาธิการมูลนิธิอิสรชน เปิดเผยข้อมูลสถานการณ์คนที่ใช้ชีวิตในที่สาธารณะ หรือคนเร่ร่อนในประเทศไทยมีเพิ่มมากขึ้น ทุกปี โดยพบว่าในปี 2553 มีผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่ในที่สาธารณะ 2,451 คน ปี 2554 เพิ่มเป็น 2,561 คน และในปี 2555 เพิ่มเป็น 2,846 คน โดยในคนกลุ่มนี้กว่า 45% เป็นผู้ป่วยทางสมองและจิต และยังพบว่าคนที่ใช้พื้นที่สาธารณะมีการเคลื่อนย้ายที่อยู่ตลอดเวลา เนื่องจากรัฐบาลสนับสนุนเรื่องของรถไฟฟรี ทำให้คนกลุ่มนี้มีการเคลื่อนย้ายถิ่นที่อยู่ใหม่ตามที่อยากไปอยู่ โดยจะขอไปพักที่บ้านมิตรไมตรีในจังหวัดใหญ่ต่างๆ บางคนก็ไปนอนพักในที่สาธารณะที่มีคนอยู่มากๆ ตามสถานีรถไฟ รถโดยสาร เมื่อเบื่อไม่อยากอยู่ก็จะนั่งรถไฟฟรีกลับมายัง กทม.
          นายนทีกล่าวว่า อนาคตปัญหาคนเร่ร่อนจะกระจายตัวและมีการเคลื่อนย้ายไปอยู่ได้ทุกที และยังพบปัญหาใหม่ว่า จากที่มีการสำรวจของเจ้าหน้าที่ยังพบว่ามีชาวต่างชาติออกมาเร่ร่อนในเมืองท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นด้วย ทางมูลนิธิอิสรชนจึงร่วมกับบ้านมิตรไมตรี กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดทำโครงการท้องถิ่นไม่ทอดทิ้งคนไร้ที่พึ่ง โดยเป็นการอบรมเจ้าหน้าที่ที่ทำงานด้านนี้ และร่วมแชร์ปัญหาการทำงานระหว่างกัน เพื่อร่วมกันกำหนดรูปแบบการทำงานให้ชัดเจนมากขึ้น และสร้างรูปแบบการทำงานเป็นเครือข่าย โดยร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือและเตรียมพร้อมรองรับ พ.ร.บ.คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นให้รูปแบบการทำงานมีความชัดเจนมากขึ้น และรองรับกับปัญหาที่อาจจะเพิ่มขึ้นหลังประเทศไทยเป็นประชาคมอาเซียน โดยคาดว่า เมื่อเปิดเสรีอาเซียนจำนวนคนเร่ร่อนที่เป็นต่างชาติอาเซียนก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วย