เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ศ.นพ.ประกิต วาที สาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เปิดเผยว่า ขณะนี้องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (เอฟดีเอ) ได้ประกาศผลการวิจัยว่า บุหรี่รสเมนทอลมีอันตรายต่อสุขภาพมากยิ่งกว่าบุหรี่ทั่วไป จากการที่ทำให้ผู้สูบรู้สึกชาและเย็นในลำคอ ทำให้ลดการระคายเคืองเวลาสูบ ทำให้คนที่ทดลองสูบบุหรี่ประเภทนี้ติดง่ายและเลิกยากกว่าบุหรี่ทั่วไป จึงจะมีการพิจารณาแนวทางควบคุมไม่ให้มีการผสมเมนทอลในบุหรี่ด้วย
          "มาตรา 9 อนุสัญญาควบคุมยาสูบ องค์การอนามัยโลก ได้แนะนำให้ 177 ประเทศสมาชิก ออกกฎหมายห้ามบริษัทบุหรี่เติมสารปรุงแต่งที่ส่งผลให้การสูบบุหรี่ง่ายขึ้น ซึ่งรวมถึงการเติมสารเมนทอลด้วย ล่าสุด ประเทศบราซิลได้ห้ามใส่เมนทอลในบุหรี่แล้ว แต่ประเทศส่วนใหญ่ รวมถึงประเทศไทยยังไม่สามารถออกกฎหมายนี้ได้ เนื่องจากถูกบริษัทบุหรี่คัดค้าน" ศ.นพ.ประกิตกล่าว
          นอกจากนี้ ศ.นพ.ประกิตยังกล่าวถึงกรณีบริษัทบุหรี่ข้ามชาติฟ้องศาลปกครองให้คุ้มครองชั่วคราวและยกเลิกการออกกฎกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เรื่อง เพิ่มขนาดภาพคำเตือนพิษภัยบนซองบุหรี่ ซึ่งจะมีผลบังคับในวันที่ 2 ตุลาคม 2556 ว่า คาดว่าศาลปกครองชั้นต้นจะพิจารณาในต้นเดือนสิงหาคมนี้ และมั่นใจว่าบริษัทบุหรี่จะแพ้ เหมือนที่เคยฟ้องแล้วแพ้มาแล้วในหลายๆ ประเทศ และว่า การที่ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการ สธ.ลงนามในกฎกระทรวงขยายภาพคำเตือนดังกล่าว เป็นร้อยละ 85 ของพื้นที่ซองบุหรี่ ถือเป็นความกล้าหาญที่น่ายกย่อง เนื่องจากบริษัทบุหรี่มักจะใช้ทุกวิถีทางกดดันการออกกฎหมายที่ทำให้เสียผลประโยชน์ และกรณีฟ้องร้อง สธ.ก็เป็นหนึ่งในแนวทางดังกล่าว