นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในฐานะประธานคณะทำงานป้องกัน ปราบปราม ฟื้นฟู และเยียวยาด้านยาเสพติด กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงผลการจับกุมปราบปราม ตรวจสอบร้านขายยาและผู้กระทำผิดกฎหมาย ว่า กระทรวงสาธารณสุขมีมาตรการป้องกันและควบคุมยาเสพติด 4 มาตรการ ทั้งมาตรการกำกับและควบคุมสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ โดยเฉพาะยาที่มีซูโดอีเฟดรีนเป็นส่วนประกอบอย่างเข้มงวดและทันสถานการณ์ โดยให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เร่งดำเนินการตรวจสอบร้านขายยาทั่วประเทศให้ปฏิบัติตามกฎหมาย
"ทั้งนี้ ได้รับรายงานผลการดำเนินงานดังนี้ 1.ระหว่างวันที่ 16 มกราคม 2555-9 กุมภาพันธ์ 2555 ได้ตรวจสอบร้านขายยาจำนวน 587 ร้าน พบร้านขายยาที่ทำผิดทั้งหมด 40 ร้าน โดยอยู่ในต่างจังหวัด 33 ร้าน และใน กทม. 7 ร้าน ที่ยังมียาสูตรซูโดอีเฟดรีนไว้จำหน่ายในร้านซึ่งขณะนี้ไม่อนุญาตแล้ว นอกจากนี้ ยังพบกระทำผิดตามกฎหมายยาพ.ศ.2522 อีก 3 รายการ ได้แก่ 1.ไม่มีการจัดทำบัญชีซื้อ-ขายยา 2.ขายยาควบคุมพิเศษโดยไม่มีใบสั่งแพทย์ และ 3.เภสัชกรผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการไม่ควบคุมการขายยา ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะเอาผิดให้ถึงที่สุด 2.ได้ตรวจสอบสถานที่ที่มีวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 ไว้ในครอบครองเพื่อผลิตและสถานที่ผลิตยาสูตรซูโดอีเฟดรีนแผนปัจจุบัน ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2554-9 กุมภาพันธ์ 2555 จำนวน 37 ราย ไม่พบการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย" นายพสิษฐ์กล่าว
นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่าสำหรับความผิดกรณีไม่มีการจัดทำบัญชีซื้อ-ขายยา ขายยาควบคุมพิเศษโดยไม่มีใบสั่งแพทย์ และเภสัชกรผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการไม่ควบคุมการขายยา มีโทษปรับผู้รับอนุญาต 3,000-10,000 บาท และปรับผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการไม่เกิน 2,000 บาท ส่วนร้านขายยาที่จำหน่ายยาสูตรซูโดอีเฟดรีนมีโทษปรับ 2,000-10,000 บาท