เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่โรงแรมวิวโขงจังหวัดนครพนม นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคติดต่อชายแดนลุ่มแม่น้ำโขงว่า คร.มีการเตรียมพร้อมสำหรับการที่ประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 ซึ่งจากข้อตกลงการจัดทำเขตการค้าเสรีอาเซียน(ASEAN Free Trade Area : AFTA) จะส่งผลให้มีการเคลื่อนย้ายของประชากรและสินค้าเพิ่มมากขึ้น และเกิดผลกระทบต่อระบบสาธารณสุขของประเทศ
"โดยเฉพาะการแพร่โรคติดต่อที่เป็นปัญหาสำคัญ เช่น มาลาเรีย ไข้เลือดออก ไข้หวัดนกอหิวาตกโรค เอดส์ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และวัณโรค เป็นต้น โดยการประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือของด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศและหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ ในการบริหารจัดการ และพัฒนาระบบการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศชายแดนลุ่มแม่น้ำโขง ให้สอดคล้องกับมาตรฐานอย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม" นพ.สุวรรณชัยกล่าว
นพ.สุวรรณชัยกล่าวว่า สถานการณ์ของโรคติดต่อบริเวณชายแดนลุ่มแม่น้ำโขงในพื้นที่สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดอุบลราชธานีพบว่าโรคที่ต้องเฝ้าระวัง เช่น โรคไข้เลือดออก
(Dengue Hemorrhagic Fever) ในปี 2554 มีรายงานโรคไข้เลือดออก จำนวน 4,186 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 65.99 ต่อแสนประชากร มีผู้เสียชีวิต 2 ราย อัตราตายเท่ากับ 0.03 อัตราป่วยตายเท่ากับร้อยละ 0.05 โรคไข้มาลาเรีย (Malaria) มีรายงานโรคไข้มาลาเรีย จำนวน 772 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 12.17 ต่อแสนประชากร มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และโรคเลปโตสไปโรซิส (Leptospirosis) มีรายงานโรคเลปโตสไปโรซิส จำนวน 643 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 10.1 ต่อแสนประชากร มีผู้เสียชีวิต1 ราย
นพ.สุวรรณชัยกล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้จึงมีความคาดหวังให้เกิดผล 5 ประการ คือ 1.มีระบบการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคในพื้นที่ชายแดนที่เข้มแข็ง และมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างเครือข่าย 2.มีทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว (SRRT) ที่มีประสิทธิผล รวมถึงมีการสอบสวนโรคร่วมกันระหว่างประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ในกรณีที่มีการระบาดของโรคเกิดขึ้น 3.ด่านป้องกันควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎอนามัยระหว่างประเทศ 4.มีแผนงานการป้องกันควบคุมโรคติดต่อที่เป็นปัญหาสำคัญในบริเวณชายแดนเช่น วัณโรค โรคเอดส์ หรือโรคอุบัติใหม่ที่มีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ เช่น ไข้หวัดนก เป็นต้นและ 5.มีการผลักดันให้เกิดการประสานความร่วมมือระหว่างจังหวัดชายแดน เพื่อการเตือนภัยและเฝ้าระวังโรคติดต่อที่สำคัญ ซึ่งจะสามารถควบคุมการระบาดของโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ