'คาร์บอมบ์'ปัตตานีตาย1เจ็บ15

          เมื่อเวลา 08.05 น. วันที่ 9 กุมภาพันธ์พ.ต.อ.สมพร มีสุข ผกก.สภ.เมืองปัตตานี ได้รับแจ้งเกิดเหตุระเบิดคาร์บอมบ์จนเกิดเพลิงไหม้บริเวณหน้าสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปัตตานี(สสจ.ปัตตานี) ตั้งอยู่ที่ ถนนสฤษดิ์ ต.สะบารังอ.เมือง จ.ปัตตานี จึงรีบนำกำลังไปที่เกิดเหตุพร้อมสั่งปิดถนนสายดังกล่าวและประสานรถดับเพลิงเข้าดับไฟที่กำลังลุกไหม้รถยนต์ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ พร้อมลำเลียงผู้ได้รับบาดเจ็บส่ง รพ.ปัตตานี จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าทำการเคลียร์พื้นที่ เพื่อป้องกันเหตุซ้ำซ้อน

          ตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบรถยนต์ที่คนร้ายซุกระเบิด สภาพถูกแรงระเบิดจนขาดสองท่อนกลายเป็นซาก นอกจากนี้แรงระเบิดยังทำให้กำแพงพังเสียหายยาวประมาณ 5 เมตร และตัวอาคารด้านหน้าสำนักงานสาธารณสุข ขนาด 2 ชั้น ได้รับความเสียหาย กระจกประตู หน้าต่างแตกเสียหาย รวมทั้งรถยนต์ที่จอดริมถนนรถยนต์ชาวบ้านที่สัญจรไปมาและจักรยานยนต์เสียหายกว่า 10 คัน ในที่เกิดเหตุพบชิ้นส่วนระเบิดและชิ้นส่วนรถยนต์กระจายไปทั่วบริเวณ

          ทั้งนี้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และผู้บาดเจ็บ ถูกนำตัวส่ง รพ.ปัตตานี รวม 15 ราย แพทย์ให้รักษาตัวต่อ 7 ราย และกลับบ้านได้ 7 ราย

          จากการสอบสวนทราบว่า คนร้ายได้ขับปิกอัพอีซูซุ หมายเลขทะเบียน บง 8546 ภูเก็ตซุกระเบิดนำมาจอดไว้ตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์โดยที่ไม่มีใครเอะใจ ซึ่งเป้าหมายกลุ่มผู้ก่อเหตุคาดว่าต้องการกระทำในงานวันสถาปนาอาสาสมัครรักษาดินแดนที่จัดพิธีบริเวณหน้าลานพระรูป ถนนสายบุรี หน้าศาลากลางจังหวัดปัตตานี ห่างจากจุดเกิดเหตุระเบิดประมาณ 2 กิโลเมตร ก่อนเกิดเหตุมีประชาชนกำลังขับรถจำนวนมาก ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขก็เดินทางเข้ามาทำงานในตอนเช้า โดยนำรถยนต์มาจอดไว้ริมถนนหน้าสำนักงาน กระทั่งคนร้ายได้กดชนวนระเบิดแสวงเครื่อง น้ำหนักประมาณ 20 กก. จนเกิดเสียงดังสนั่น แรงระเบิดทำให้อาคารสาธารณสุขได้รับความเสียหาย รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ทั้งที่จอดอยู่ และรถที่ประชาชนขับผ่านไปมา ถูกแรงระเบิดเสียหายจำนวนมากจนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

          กดบึ้ม'บาเจาะ'ทหารเจ็บ2นาย

          ก่อนหน้านี้เวลา 07.45 น. คนร้ายได้นำระเบิดแสวงเครื่องชนิดแอมโมเนียมไนเตรต บรรจุในกล่องเหล็ก น้ำหนัก 5 กิโลกรัม ขุดหลุมฝังไว้ตรงริมถนนสายบ้านต้นไทร-บ้านตะโล๊ะดือรามันบริเวณบ้านบาตู หมู่ 6 ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เมื่อ ร.อ.มานพ สืบสายหัวหน้าชุดคุ้มครองครู ร้อยปืนเล็กที่ 1 ฉก.นราธิวาส 32 กองทัพเรือ นำกำลังพลจำนวน 8 นายขี่รถจักรยานยนต์ 4 คัน ลาดตระเวนผ่านมาคนร้ายได้กดชนวนระเบิดด้วยวิทยุสื่อสาร จนเกิดระเบิดขึ้น ทำให้ จ.อ.ฉัตรมงคล น้อยสงฆ์ และพลทหาร จักรกฤช ยอดคง ได้รับบาดเจ็บ 2 นายนำตัวส่ง รพ.บาเจาะ อาการยังไม่พ้นขีดอันตราย

          หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.นันทเดช ย้อยนวล รองผบก.ภ.จว.นราธิวาส, พ.ต.ท.วีระศักดิ์ ศิริจันทร์สารวัตรเวร สภ.ปะลุกาสาเมาะ และผู้เกี่ยวข้องตรวจจุดเกิดเหตุ พบหลุมระเบิดเป็นหลุมลึก10 นิ้ว กว้าง 12 นิ้ว คาดว่า เป็นฝีมือคนร้ายกลุ่มก่อเหตุความไม่สงบ

          จับ3ผู้ต้องสงสัยชาว'สายบุรี'

          เวลาต่อมา ขณะที่ ส.ต.อ.คณิตศาสตร์เทพธานี ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.ปะลุกาสาเมาะอ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ขับรถยนต์ออกติดตามเบาะแสของคนร้ายบนถนนสายเพชรเกษมบริเวณบ้านกอตอ หมู่ 1 ต.ปะลุกาสาเมาะ พบนายมะยะ แยนา อายุ 28 ปี นายอิสมาแอสะแม อายุ 27 ปี และนายกูเซ็ง สะแม อายุ 29 ปี พี่ชายของนายอิสมาแอ ทั้งหมดเป็นราษฎรต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี อยู่ในอาการเมายาเสพติดไม่ทราบชนิดอย่างหนัก ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีดำ ทะเบียนกรต 268 ปัตตานี ในลักษณะซ้อน 3 คน และมีถุงปุ๋ยสีขาวขนาดใหญ่มาด้วย 1 ใบ ผ่านมาอย่างมีพิรุธ จึงขอตรวจค้น พบในถุงปุ๋ยมีสายไฟฟ้าที่คาดว่าเป็นชนวนระเบิดซุกอยู่ภายในจำนวน 2 ม้วนใหญ่ ร.อ.นิรุจน์ สุขศรี นายทหารยุทธการทหาร ฉก.นราธิวาส 32 กองทัพเรือ   จึงคุมตัวผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 คน ไปสอบสวนขยายผลที่ฐานปฏิบัติการทหาร ฉก.นราธิวาส 32 ต่อไป

          'วิทยา'สั่งดูแลคนเจ็บ-ตาย

          ด้านนายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์คาร์บอมบ์ที่ จ.ปัตตานี ว่า นพ.บุญเรืองไตรเรืองวรวัฒน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข อยู่ในพื้นที่ ได้รับรายงานมีผู้บาดเจ็บเข้ารับการรักษาที่ รพ.ปัตตานี ทั้งหมด 15 รายแพทย์รักษาและให้กลับบ้าน 7 ราย อีก 8 รายแพทย์รับตัวไว้ในโรงพยาบาล ในจำนวนนี้ เสียชีวิตที่ห้องฉุกเฉิน 1 ราย ชื่อนายมานิต อุมา อายุ50 ปี ข้าราชการบำนาญของหน่วยมาลาเรีย ในสสจ.ปัตตานี โดยมีบาดแผลที่ศีรษะ มือซ้ายขาดและถูกแรงกระแทกที่หน้าอก ส่วนผู้บาดเจ็บสาหัส 2 ราย อยู่ในห้องไอซียู ได้แก่ นายซูเฟียนยูโซ๊ะ อายุ 17 ปี มีแผลไฟไหม้ที่แขน และนายมะรอเซะ เจ๊ะสอเฮาะ อายุ 37 ปี มีแผลไฟไหม้ที่ใบหน้า ที่เหลืออีก 5 ราย บาดเจ็บไม่รุนแรงส่วนใหญ่มีบาดแผลจากสะเก็ดระเบิด มีอาการหูอื้อ แน่นหน้าอก ได้แก่ 1.นายนิมะ หะยีอาแซอายุ 40 ปี 2.นางอัมรา สิงห์สวัสดิ์ อายุ 53 ปี3.นายโนรี มุซอ อายุ 24 ปี 4.นายอำนาจ เนียมทอง อายุ 46 ปี และ 5.นส.รอสีดาเจ๊ะแว อายุ 29 ปี มีแผลที่หน้าผาก

          "เหตุการณ์ส่วนใหญ่จะเปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อยๆ ปกติหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางการแพทย์ไม่น่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้น เพราะเป็นผู้ดูแลประชาชน ขอให้ผู้ที่กระทำการเหล่านี้คิดได้ว่าเป็นการกระทำที่ไม่สมควร ผมได้สั่งการให้สสจ.และทีมแพทย์ รพ.ปัตตานี ให้การดูแลช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ รักษาฟรีทุกราย ส่วนความเสียหายของ สสจ.ปัตตานีอยู่ระหว่างการประเมิน เบื้องต้นได้รับรายงานว่ารั้วหน้าสำนักงานพังเสียหาย กระจกหน้าต่างและประตูแตกทั้งหมด รวมทั้งอุปกรณ์สำนักงานอื่นๆเช่น คอมพิวเตอร์ ตู้สัญญาณโทรศัพท์ เครื่องปรับอากาศ และระบบวิทยุสื่อสารได้รับความเสียหาย" นายวิทยากล่าว

          กล้องวงจรปิดบันทึกภาพคนร้าย

          วันเดียวกัน นายธีระ มินทราศักดิ์ ผวจ.ปัตตานีพร้อมด้วยนายกเหล่ากาชาด เดินทางเข้ามอบกระเช้าและเงินเยียวยาเบื้องต้นให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ปัตตานี จำนวน 7 ราย

          นายธีระเปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่น่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทหารพรานยิงชาวบ้านตาย 4 ศพที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนในการก่อเหตุ คนร้ายจ้องหาโอกาสในการเตรียมก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ขอประณามการกระทำครั้งนี้ ซึ่งส่งผลเสียอย่างมาก มีประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บหลายราย ทรัพย์สินเสียหาย ที่ผ่านมามีมาตรการป้องมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันงานสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ แต่คนร้ายก็หาช่วงที่สบโอกาสก่อเหตุตรงไหนก็ได้ไม่มีเป้าที่ชัดเจน และปัตตานีได้จัดสวนสนามวันสถาปนาอาสาสมัครรักษาดินแดนขึ้น ก็ไม่ใช่เป้าหมายของกลุ่มผู้ก่อเหตุ เนื่องจากวันสถาปนาจริงคือวันที่ 10 กุมภาพันธ์

          "จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดคนร้ายได้ขับรถยนต์คันก่อเหตุ ติดป้ายทะเบียนปลอมมาจอดบริเวณดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ แล้วขับรถออกไป ก่อนขับนำมาจอดไว้อีกครั้งในช่วงเช้าวันเกิดเหตุ แล้วจุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร

          ซึ่งคนร้ายพยายามปิดบังใบหน้า" นายธีระกล่าว

          'สุกำพล'ชี้รับผิดชอบร่วมกัน

          พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงเหตุระเบิดที่จ.ปัตตานี ว่า ได้รับรายงานแล้ว ทราบว่าเป็นคาร์บอมบ์ในพื้นที่ ต้องเข้าใจว่าความรับผิดชอบในภาคใต้ไม่ใช่หน่วยเดียวที่รับผิดชอบ แต่ภาพที่เกิดขึ้นเหมือนเป็นความรับผิดชอบของกองทัพบกเพียงหน่วยงานเดียว ดังนั้น ต้องคุยกันให้รู้เรื่องว่าทุกหน่วยทำงานเต็มที่หรือยังทั้งในส่วนของทหารและตำรวจ ทั้งนี้ ผู้ปฏิบัติในสายของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ต้องดูว่าเป็นอย่างไร ซึ่งต้องทบทวนแต่ไม่ต้องสั่งการอะไร ตนเพียงมอนิเตอร์และถามไถ่ ถูกต้องหรือไม่ค่อยหารือกัน

          อีกครั้ง ผู้บังคับบัญชาระดับสูงไม่ต้องดิ้นมาก เมื่อเกิดเหตุการณ์ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาผู้บัญชาการทหารบก ก็ยุ่งแล้ว ตนไม่ต้องไปถามหรือไปเยี่ยมในเวลานี้ ทำให้หน่วยปฏิบัติในพื้นที่มาคุ้มกัน มันเสียเวลาถึงเวลาเหมาะสมแล้วค่อยเดินทางไป

          พบหลักฐานที่หนองจิกโยงตร.

          นายอนุกูล อาแวปูเต๊ะ ประธานมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมปัตตานี เป็นหนึ่งใน 13 คน ที่ถูกแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเกิดเหตุยิงชาวบ้านเสียชีวิต 4 ศพ ที่อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมาว่า คณะกรรมการทั้งหมดต้องประชุมหาข้อสรุปและวางกรอบกระบวนการหาข้อเท็จจริง เห็นว่าคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาเป็นส่วนหนึ่งที่เปิดพื้นที่ให้ภาคประชาชนมาตรวจสอบ ส่วนการดำเนินการต้องแยกก่อนระหว่างข้อเท็จจริงทางสังคมที่มีการกล่าวอ้างกัน และทางคดีที่ต้องเป็นไปตามพยานหลักฐาน สิ่งที่เป็นห่วงคือ หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวนไม่สามารถเข้าพื้นที่เกิดเหตุ ต้องรอหลายชั่วโมงพยานหลักฐานที่เกิดเหตุอาจมีการเปลี่ยนแปลง

          "การทำงานจะให้ทุกฝ่ายพอใจคงเป็นเรื่องลำบาก สิ่งที่เป็นห่วงคือเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่มีความจริงใจยอมรับข้อเท็จจริงตรงไปตรงมาหรือเปล่า เหตุการณ์เกิดขึ้นครั้งนี้ อย่าผูกขาดกระบวนการยุติธรรม ทุกกรณีที่เกิดขึ้นถ้ามีความแคลงใจต้องเปิดพื้นที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วมตรวจสอบ ทุกอย่างที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนทำเรียบร้อยแล้ว แต่ข้อเท็จจริงชายแดนใต้ต้องการมากกว่านั้นคือ ความไว้วางใจต่อเจ้าหน้าที่และความหวังความยุติธรรมจากเจ้าหน้าที่ ได้หรือไม่"

          นายอนุกูลกล่าวต่อว่า หลายชุดแล้วที่ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบแต่ไม่มีอำนาจ ครั้งนี้ต้องดูว่ามีอำนาจแค่ไหน เช่น การเกิดข้อสงสัยสามารถเรียกมาตรวจสอบสำนวน หรือให้เจ้าหน้าที่มาชี้แจงจะมาหรือไม่ และตามอำนาจหน้าที่จะสามารถปฏิบัติงานได้เต็มที่หรือเปล่า ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือคงยากที่จะแสวงหาข้อเท็จจริงได้

          รายงานข่าวเปิดเผยว่า จากแนวทางการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ทราบว่านอกจากหลักฐานที่พบที่เกิดเหตุ เป็นอาวุธปืนเอ็ม 16 และอาก้าแล้ว ยังพบกระสุนปืนลูกซองตกอยู่ด้วย ในเหตุการณ์ยิงกันตาย 4 ศพ ที่ อ.หนองจิก ซึ่งทหารไม่ได้ใช้อาวุธปืนลูกซอง มีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้นที่ใช้ ทำให้ต้องโยงเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ขณะนี้อยู่ในระหว่างการสอบสวนหาข้อเท็จจริง

          3จว.ชายแดนใต้ไม่พอใจรบ.

          ที่รัฐสภา นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่พอใจรัฐบาลจ่ายเงินเยียวยาให้กับกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบทางการเมือง7.7 ล้านบาท โดยมีกรอบตั้งแต่ปี 2549-2553 ว่าในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เกิดเหตุ

          การณ์กรือเซะ-ตากใบ ผู้คนล้มตายจำนวนมากจากนโยบายความรุนแรงที่เกิดขึ้นทำให้เกิดความเคียดแค้น ชิงชัง โดยกลุ่มคนที่ไม่พอใจในอำนาจรัฐก็ฆ่าตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหาร พระ และครูบุคคลเหล่านี้ตายเพราะนโยบายที่ผิดพลาดของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ แต่พอมาถึงรัฐบาลพรรคเพื่อไทยกลับไม่ได้คิดในเรื่องดังกล่าวประชาชนเสียใจที่ตีค่าคนเผาเมืองให้มีค่ากว่าสูงกว่าคนที่ตายเพราะการกระทำของรัฐ ส่วนกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาระบุว่าควรเอาเงินของพ.ต.ท. ทักษิณ มาจ่ายเงินเยียวยา จนเป็นเหตุให้แกนนำเสื้อแดงออกมาตอบโต้ ตนรู้สึกไม่สบายใจเพราะรู้ว่าการกระทำเช่นนี้ เป็นไปเพื่อความสะใจ

          'ปู'ชง'แผนดับไฟใต้'เข้าครม.

          ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม สมช. โดยมีพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสุรพงษ์โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาผู้บัญชากรทหารบก พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เลขาธิการ สมช. นายสุวพันธ์ตันยุวรรธนะ ผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ และพล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล เสธ.ทบ.  ใช้เวลาประชุม1 ชั่วโมงครึ่ง

          พล.ต.อ.วิเชียรแถลงผลการประชุมว่า สมช.เห็นชอบนโยบายการบริหารและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (พ.ศ.2555-2557) ตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้พ.ศ.2553 โดยนโยบายฉบับนี้จะเป็นกรอบทิศทางหลักในการแก้ไขปัญหา ที่กำหนดให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ต้องปรับปรุงแผนและแนวทางปฏิบัติ และกำหนดให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จัดทำยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาให้สอดคล้องกับนโยบาย รวมทั้งให้หน่วยงานรัฐใช้เป็นกรอบในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นระบบและต่อเนื่องโดยจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)พิจารณาอนุมัติในวันที่ 22 กุมภาพันธ์

          จับ'วิศวกร'ต้องคดีป่วนใต้

          เวลา 18.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 (บก.น.1) พ.ต.อ.พชร บุญญสิทธิ์ รรท.ผบก.น.1 และ พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชัยจันทร์รอง ผบก.น.1 แถลง พ.ต.ท.อนุรักษ์ พิมพาสว.สส. พร้อมฝ่ายสืบสวน สน.นางเลิ้ง ได้จับกุมนายมูฮามะดารี แยนา อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59/2 หมู่ 6 ต.มะนังดาลำ อ.สายบุรี จ.ปัตตานีผู้ต้องหาร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย สะสมกำลังพลหรืออาวุธ จัดหาหรือรวบรวมทรัพย์สินให้หรือรับการฝึกก่อการร้ายตระเตรียมการอื่นใด หรือสมคบกันเพื่อก่อการร้าย เป็นอั้งยี่ และสมคบกันเป็นซ่องโจร เพื่อการก่อการร้าย ตามหมายจับของศาลจังหวัดปัตตานี ที่ จ.22/2549 ลงวันที่ 14 มกราคม 2549 จับได้ที่ สน.นางเลิ้ง

          สอบสวนนายมูฮามะดารี ซึ่งเป็นวิศวกรบริษัท อคูสโตเมติก โซลูชันส์ จำกัด ย่านรามอินทรา ให้การว่า ไม่ทราบว่ามีหมายจับตนจบจากสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ก่อนไปเป็นครูสอนวิชาชีพที่หมู่บ้าน สอนซ่อมรถจักรยานยนต์ และมีร้านซ่อมรถจักรยานยนต์อาจเป็นไปได้ว่าบางครั้งก็ให้ลูกค้านำรถจักรยานยนต์ไปใช้หากซ่อมไม่เสร็จ ไม่ทราบว่านำไปก่อเหตุหรือไม่

          พ.ต.อ.พชรกล่าวว่า ผู้ต้องหามาเสียค่าปรับเรื่องขับรถผิดเลนที่โรงพัก แต่ฝ่ายสืบสวนพบว่าต้องสงสัยจึงตรวจสอบพบมีหมายจับศาลจังหวัดปัตตานี จึงนำตัวมาสอบสวนเบื้องต้น โดยผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ซึ่งจะนำส่ง สภ.สายบุรีดำเนินการต่อไป