มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดในผู้หญิงไทย โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 35-60 ปี โดยหากตรวจพบระยะแรกนั้นก็จะทำให้การรักษานั้นไม่ยุ่งยาก และมีโอกาสหายขาดได้ ซึ่งหากได้รับการตรวจภายในเป็นประจำอยู่แล้ว ก็จะช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งปากมดลูกได้
ทั้งนี้ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขได้เปิดเผยสถิติผู้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปากมดลูกในประเทศไทยประมาณ 4,500 รายต่อปี และพบผู้ป่วยรายใหม่ประมาณ 8,000 คนต่อปี โดยสาเหตุที่ผู้หญิงไทยไปตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูกน้อย เนื่องจากส่วนใหญ่เกิดความอายหมอ กลับเจ็บกลัวเครื่องมือแพทย์ ดังนั้นกรมอนามัยจึงเชิญชวนหญิงไทยตรวจคัดกรองด้วยวิธี VIA รู้ผลทันที่หากตรวจพบในระยะแรกสามารถรักษาได้ทันทีเช่นกัน
ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า โรคมะเร็งปากมดลูกพบมากเป็นอันดับ 2 ในสตรีไทยและทั่วโลก ซึ่งประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตประมาณ 4,500 รายต่อปี และพบผู้ป่วยรายใหม่ประมาณ 8,000 คนต่อปี ซึ่งความจริงแล้วหากตรวจพบในระยะแรกสามารถรักษาได้ทันที แต่ทางที่ดีที่สุดคือ การเข้ารับการตรวจคัดกรองเพื่อป้องกันมะเร็งปากมดลูกเมื่อมีเพศสัมพันธ์แล้ว หรือเมื่อมีอายุ 30 ปีขึ้นไป วิธีการคัดกรองของกระทรวงสาธารณสุข มี 2 วิธีคือ 1. Pap smear เป็นวิธีที่ใช้กันมากที่สุด เพราะใช้เวลา 2-5 นาที และรู้ผลภายใน 2-4 สัปดาห์
ส่วนวิธีที่2. VIA เป็นวิธีที่ง่าย ค่าใช้จ่ายต่ำ รู้ผลทันที และกำลังเป็นที่นิยมโดยการใช้น้ำส้มสายชูชนิดเจือจางป้ายบริเวณปากมดลูก ทิ้งไว้ 1 นาที น้ำส้มสายชูจะไปทำปฏิกิริยากับเนื้อเยื่อที่ผิดปกติของปากมดลูกให้เห็นเป็นฝ้าขาว ซึ่งสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าและรักษาได้ทันทีด้วยการจี้เย็น (Cryotherapy)
ดร.นพ.พรเทพ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมากรมอนามัยดำเนินการเพื่อป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกโดยเพิ่มความครอบคลุมของการคัดกรองเพื่อค้นหาสตรีที่ปากมดลูกมีความผิดปกติตั้งแต่ระยะเริ่มแรกหรือระยะก่อนเป็นมะเร็ง เพื่อเข้ารับการรักษาทันที จะได้ผลคุ้มค่ากว่าการรักษาเมื่อเป็นมะเร็ง โดยความร่วมมือกับราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย คณะแพทย์ศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยขอนแก่น และองค์การ JHPIEGO นำการตรวจคัดกรองด้วยวิธี VIA มาใช้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูกสำหรับสตรีไทย หรือการคัดกรองแบบผสมผสานคือ การตรวจกรองด้วยวิธี VIA ทุก 5 ปี สำหรับสตรีอายุ 30-45 ปี สำหรับสตรีอายุ 46-60 ปี ซึ่งเป็นวิธีที่คุ้มค่ามากที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับการคัดกรองด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งเพียงอย่างเดียว และมีความคุ้มค่ามากกว่าการฉีดวัคซีน HPV ซึ่งยังมีราคาแพง
สุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ ตรวจก่อน รู้ก่อน รักษาโรคได้ทันท่วงที หากสุขภาพสตรีท่านใดอยากมีสุขภาพที่ดีจากภายในสู่ภายนอก เลิกอายเลิกกลัวแล้วรีบไปเข้ารับการตรวจสุขภาพภายในกันเถอะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมนามัย