ฉาวทั่วเมืองเกินร้อย โครงการรับผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ในพื้นที่เสี่ยงสูงกลับรักษาตัวภูมิลำเนาถูกเหลือบไรนำไปหากินเรียกรับเงินจากญาติผู้ป่วย ล่าสุดชาวเมือง สรวงป่วยโควิดอยู่สมุทรปราการถูกเรียกเก็บสูงถึง 10,000 บาท คนป่วยไม่มีเงิน ต่อรองเหลือ 3,000 บาท แต่โอนให้เสร็จกลับเบี้ยวไม่ไปรับ สุดทนเข้าร้องทุกข์ผู้ว่าฯ
          มีเรื่องฉาวกรณีหากินกับคนป่วยโควิด-19 เกิดขึ้นอีก คราวนี้เกิดขึ้นที่ จ.ร้อยเอ็ด ญาติของผู้ติดเชื้อ นายสมชาย ไชยเสนา ชาวบ้านกกกุง อ.เมืองสรวง อายุ 58 ปี ซึ่งทำงานอยู่ที่ จ.สมุทรปราการ ได้ติดต่อไปยังสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ดขอรับการช่วยเหลือให้พากลับมารักษาอาการป่วยที่ภูมิลำเนา โรงพยาบาลสนามเมืองสรวง เพราะไม่สามารถหาเตียงหาโรงพยาบาลที่สมุทรปราการได้เนื่องจากมีผู้ป่วยจำนวนมาก
          หลังรับเรื่อง วันที่ 3 สิงหาคม 64 ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขร้อยเอ็ดก็ได้ประสานกับหน่วยกู้ภัยอโสกร้อยเอ็ดรับเป็นผู้ติดเชื้ออีกรายที่ต้องเดินทางไปรับกลับมารักษาตามโครงการฯ ของจังหวัดร้อยเอ็ด แต่ปรากฏว่าในขั้นตอนโทรศัพท์ประสานงานเพื่อนัดหมายวันเวลาและจุดที่จะไปรับผู้ป่วย เจ้าหน้าที่กู้ภัยอโสกฯ กลับขอเงินจากฝ่ายผู้ป่วยเป็นเงินมากถึง 10,000 บาท
          แต่ทางญาตินายสมชาย ผู้ป่วย ไม่มีเงิน ขอต่อรองราคาต่ำที่สุดจนเกิดการโต้เถียงกันไปมา เพราะทางฝ่ายผู้ป่วยบอกว่าเป็นโครงการรับผู้ติดเชื้อกลับภูมิลำเนาของจังหวัดฟรีไม่ใช่หรือ ฝ่ายกู้ภัยอโสกก็แย้งด้วยอารมณ์ไม่พอใจ อ้างว่าอยู่ไกลเกินไปและไม่ได้มีหน้าที่รับคนคนเดียว ต้องรับคนจำนวนมาก หากอยากกลับบ้านจริงๆ ก็แนะนำให้ไปหาคนป่วยอีก 5 คนขึ้นรถมาด้วย จะคิดแค่คนละ 2,000 บาทถึงจะไปรับ
          ญาติผู้ป่วยก็บอกว่าหาให้ไม่ได้หรอกคนติดเชื้ออีก 5 คน ทางฝ่ายกู้ภัยอโสกร้อยเอ็ดก็เลยเสนอว่าถ้าเช่นนั้นขอค่าใช้จ่าย 3,000 บาท การต่อรองจึงได้ข้อยุติ ฝ่ายผู้ป่วยไม่มีทางเลือกและอยากกลับบ้านนำผู้ป่วยไปรักษาให้เร็วที่สุดเพราะเป็นผู้ป่วยที่มีอาการภูมิคุ้มกันบกพร่องอยู่ด้วย ถือว่าอันตรายมาก
          อย่างไรก็ตาม ก่อนโอนเงินให้ทางหลานของผู้ป่วยจึงได้ขอแอดไลน์กับเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ เพื่อให้แจ้งหมายเลขบัญชีมาทางไลน์ แต่ปัญหาไม่ได้จบแค่นั้น หลังจากฝ่ายผู้ป่วย โอนเงิน 3,000 บาทให้ทางกู้ภัยอโสกร้อยเอ็ดเสร็จแล้ว (6 ส.ค.) เจ้าหน้าที่กู้ภัยอโสกฯ กลับอ้างว่าไกลเกินไป ขอไม่ไปรับ ทำให้ทางญาติผู้ป่วยเสียใจมากเพราะอาการคนป่วยก็ทรุดลง จึงไปติดต่อกู้ภัยในสมุทรปราการให้ช่วยส่งกลับบ้านร้อยเอ็ด ทางกู้ภัยท้องถิ่นขอเก็บค่าใช้จ่าย 6,500 บาทเพราะเป็นงานวิ่งนอกพื้นที่ ทางผู้ป่วยจึงไปกู้ยืมเงินมาจ่ายเป็นค่าจ้าง
          ทั้งนี้ ภายหลังนายสมชาย ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เดินทางกลับถึงภูมิลำเนาและเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสนามเมืองสรวงในกลางดึกคืนวันที่ 7 สิงหาคม ที่ผ่านมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางญาติจึงได้ติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ประสานงานผู้หญิงของสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ดอีกรอบ แจ้งว่าคนป่วยถูกหน่วยกู้ภัยทอดทิ้ง ซ้ำยังถูกหลอกให้จ่ายเงินค่าจ้างตั้ง 3,000 บาท แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่หญิงรายนี้กลับบอกญาติคนป่วยให้ไปขอโทษเจ้าหน้าที่กู้ภัยอโสกร้อยเอ็ด เพราะอำนาจตัดสินใจว่าจะไปรับใครหรือไม่อยู่ที่กู้ภัยฯ
          ในที่สุดญาติผู้ป่วยฯ จึงตัดสินใจร้องเรียนต่อ นายชยันต์ ศิริมาส ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อขอความเป็นธรรม ซึ่งทางจังหวัดเองได้ป่าวประกาศมาตลอดว่าโครงการรับผู้ติดเชื้อชาวร้อยเอ็ดที่อยู่ต่างจังหวัดกลับมารักษายังภูมิลำเนาไม่มีค่าใช้จ่าย ทุกอย่างฟรี แต่เหตุใดหน่วยกู้ภัยอโสกร้อยเอ็ดถึงเรียกรับเงินจากผู้ป่วย
          ภายหลังนายชยันต์ทราบเรื่องก็ได้แนะนำให้รวบรวมหลักฐาน บทสนทนาต่อรองทางไลน์ เลขที่บัญชีธนาคาร ชื่อสกุลผู้รับโอนเงินเข้าร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงธรรมเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป เพราะกรณีนี้ไม่ใช่รายแรก ก่อนหน้านี้ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดในอำเภอโพนทองที่ไปทำงานในกรุงเทพฯ และปริมณฑลก็ถูกเรียกเก็บ เงินค่ารับกลับรักษาตัวยังภูมิลำเนาหลายรายจากกู้ภัยรายนี้เช่นกัน.