เจ้าหน้าที่ส่งศพบุคลากร ด่านหน้า รพ.สต.บางคลาน ผ่าพิสูจน์ที่ รพ.สวรรค์ประชารักษ์ หาสาเหตุเสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนไฟเซอร์บูสต์เป็นเข็ม 3 ตามหลังซิโนแวค 2 เข็มที่ฉีดไปก่อนหน้านี้ เผยผู้ตายมีโรคประจำตัวเป็นหอบหืด หลังรับวัคซีนรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว-รุ่งเช้ามากลายเป็นศพ ขณะที่แพทย์ระบุ เสียชีวิตจากกล้ามเนื้อหัวใจเสื่อม
          จากกรณีนายรชต ปานศรี อายุ 44 ปี พนักงานสาธารณสุขชำนาญงาน กลุ่มงานส่งเสริมป้องกันควบคุมโรค โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร เสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาภายในสำนักงาน รพ.สต.บางคลาน เบื้องต้นพบว่าผู้ตายได้ฉีดวัคซีนซิโนแวคมาแล้ว 2 เข็ม จากนั้นเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 64 เวลาบ่ายโมงก็ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์เป็นการฉีดบูสต์เข็มที่ 3 ก่อนเป็นศพในเช้าของวันที่ 11 สิงหาคม สภาพมีเลือดออกจมูก
          ล่าสุด พ.ต.อ.วิสุทธิ์ คล้ายแสง ผกก.สภ.โพทะเล และ นพ.พนม ปทุมสูติ ผู้อำนวยการ แพทย์โรงพยาบาลโพทะเล พร้อมด้วยฝ่ายปกครองรวมถึงตัวแทนของสาธารณสุขจังหวัดพิจิตร ผู้นำท้องถิ่นและญาติพี่น้องของผู้ตายที่เกี่ยวข้องกับคดีได้เข้าร่วมสังเกตการณ์ การตรวจที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง
          ที่เกิดเหตุเป็นอาคารตึก 3 ชั้น ของที่ทำการ รพ.สต.บางคลาน บนชั้น 3 เป็นห้องพักของผู้ตาย พบว่าอยู่ในสภาพปกติ แต่พบสุราเหลืออยู่ครึ่งขวด ชั้น 2 เป็นที่ทำการด้านการแพทย์ ส่วนชั้นล่างที่พบร่างของผู้ตาย ไม่พบร่องรอยน่าสงสัยเกี่ยวกับการฆาตกรรม แต่บริเวณรอบจุดพบร่างผู้ตายมีสิ่งของกระจุยกระจาย ขณะที่ทรัพย์สิน-สิ่งของมีค่า โดยเฉพาะสร้อยคอทองคำและพระเลี่ยมทองที่ผู้ตายสวมใส่อยู่ครบ อีกทั้งทรัพย์สินภายในสำนักงานก็ไม่มีอะไรสูญหาย
          สอบสวน นางอัชราภรณ์ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานของผู้ตายและเป็นคนที่กลับจากที่ทำงานคนสุดท้ายในวันที่ 10 สิงหาคม 64 เล่าว่าผู้ตายบ่นกับเพื่อนร่วมงานหลังจากกลับมาจากการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ หรือบูสต์เข็มที่ 3 ซึ่งจัดให้มีการฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรด่านหน้าขึ้นที่โรงพยาบาลโพทะเล ว่ามีอาการครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจะเป็นไข้ โดยนางอัชราภรณ์อยู่กับผู้ตายจนถึงเวลา 18.00 น. ซึ่งเป็นคนสุดท้ายแล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ส่วนผู้ตายก็อยู่คนเดียวในสำนักงาน
          ต่อมาวันที่ 11 สิงหาคม  64 เวลาประมาณ 07.30 น. นางอัชราภรณ์มาทำงานพบประตูปิดล็อก ตะโกนเรียก ผู้ตาย แต่ไม่มีเสียงตอบ จึงให้ น.ส. สมพร โพธิ์เงิน แม่บ้าน รพ.สต.บางคลาน ช่วยกันเดินดูหน้าต่างโดยรอบ พบหน้าต่าง บานหนึ่งไม่ได้ล็อก จึงตะโกนเรียกนายพรชัย นามวงษ์ พนักงานเทศบาลตำบลบางคลาน ซึ่งอยู่บริเวณดังกล่าว มาช่วยปีนหน้าต่าง แต่เมื่อนายพรชัย ปีนเข้าไปเห็นผู้ตายนอนหมดสติอยู่บริเวณห้องโถง ชั้นล่าง จึงมาเปิดประตูให้นางอัชราภรณ์ และนางอัชราภรณ์ โทรศัพท์แจ้งตำรวจและหน่วยกู้ชีพให้มายังที่เกิดเหตุและพบผู้ตายดังกล่าว
          ด้าน น.ส.สมพร โพธิ์ศรี และนายพรชัย นามวงษ์ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงาน ได้ให้ถ้อยคำสอดคล้องกันในสาระสำคัญ เช่นเดียวกับนายประดิษฐ์ ปานศรี บิดาผู้ตาย รวมถึงนางวิมล บุญลา น้องสาวผู้ตาย ทำนองว่า ผู้ตายป่วยเป็นโรคหอบหืด หากขาดยาจะมีอาการหอบรุนแรง ประกอบกับผู้ตายเป็นคนชอบดื่มสุรา แต่ช่วงเทศกาลเข้าพรรษาก็จะหยุดดื่มอย่างสิ้นเชิง สถานะเป็นโสด
          พ.ต.อ.วิสุทธิ์ คล้ายแสง ผกก.สภ.โพทะเล กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่อง จากเป็นการตายผิดธรรมชาติ จึงต้องร่วมชันสูตรพลิกศพกับแพทย์และส่ง ให้แพทย์นิติเวชผ่าพิสูจน์หาสาเหตุอย่างละเอียดตามขั้นตอน ซึ่งเมื่อเวลา 08.00 น. วานนี้ (12 ส.ค.) หน่วยกู้ภัยชาละวัน ได้นำร่างของผู้เสียชีวิตออกจากโรงพยาบาลโพทะเล นำส่งไปยัง โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ เพื่อให้แผนกนิติเวชทำการชันสูตรเพื่อหาสาเหตุการตายที่แน่ชัดอีกครั้ง โดยจะทราบผลในช่วงเย็น
          ทั้งนี้ พ.ต.อ.วิสุทธิ์ คล้ายแสง ผกก.สภ.โพทะเล เปิดเผยว่า ผลจากการผ่าพิสูจน์ แพทย์ได้ระบุว่า สาเหตุการเสียชีวิตของ นายรชต ปานศรี มาจากกล้ามเนื้อหัวใจเสื่อม ขณะที่การชันสูตรพลิกศพ โรงพยาบาลจะส่งหนังสือแจ้งรายละเอียด มาที่พนักงานสอบสวนอีกครั้ง ประมาณ 2-3 วัน ซึ่งเจ้าหน้าที่พร้อมให้ญาติตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดอย่างละเอียด
          หลังจากทราบผล ทางญาติได้นำศพของผู้เสียชีวิตกลับมาบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านตาล หมู่ 1 ต.โพทะเล อ.โพทะเล จ.พิจิตร ซึ่งเป็นภูมิลำเนาของบิดาและญาติพี่น้อง.