สุขอนามัยที่ดีคือพื้นฐานสุขภาพดีทว่าถ้าอนามัยจัดเกินเหตุก็อาจส่ง
ผลเสียต่อร่างกายได้เช่นกัน โดยผลการวิจัยล่าสุดของทีมแพทย์จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ พบว่าบุคคลที่รักษาความสะอาดมากๆ มีแนวโน้มจะกลายเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้ยามชรา
มอลลี ฟอกซ์ หัวหน้าทีมแพทย์ผู้ดำเนินการวิจัยครั้งนี้ กล่าวว่า มีปัจจัยบ่งชี้สำคัญที่ทำให้เชื่อได้ว่าความสะอาดมีส่วนสัมพันธ์กับการเกิดโรคเรื้อรังในร่างกายมนุษย์ โดยการศึกษาข้อมูลด้านสุขภาพใน 192 ประเทศทั่วโลกพบว่าประเทศที่มีอัตราการติดเชื้อค่อนข้างต่ำ หรือประเทศพัฒนาแล้ว จะมีแนวโน้มพบผู้ป่วยที่เป็นโรคอัลไซเมอร์เพิ่มสูงขึ้น
พูดให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือ ชาวอังกฤษหรือประชากรในชาติพัฒนาแล้ว จะมีแนวโน้มเป็นอัลไซเมอร์มากกว่าประชากรที่อาศัยอยู่ในประเทศเคนยา หรือกัมพูชาถึง 10%
ทั้งนี้ ทีมผู้วิจัยให้เหตุผลว่าการรักษาความสะอาดที่มากเกินไป ทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายไม่ได้ใช้งานอย่างเต็มที่ร่างกายจึงอ่อนแอและเกิดอาการภูมิแพ้ต่างๆ ได้ง่าย ซึ่งผลการวิจัยพบว่าประชาชนในประเทศพัฒนาแล้วเป็นโรคหอบและภูมิแพ้ผิวหนังมากกว่าประชากรในประเทศกำลังพัฒนาหรือด้อยพัฒนาซึ่งความสะอาดด้อยกว่า แต่ร่างกายกลับมีภูมิต้านทานเชื้อโรคได้ดีกว่า |