Follow us      
  
  

กรุงเทพธุรกิจ [ วันที่ 08/05/2561 ]
ไทยร่วมวิจัยสำเร็จยา ไวรัสตับอักเสบซี รักษาหายเกือบ100%

 กรุงเทพธุรกิจ ไทยร่วมวิจัย สำเร็จ ยา"ไวรัสตับอักเสบซี"ใหม่สูตรผสม ประสิทธิภาพรักษาหายสูง96-100% ไม่มีฤทธิ์ต้านกับยาต้านไวรัสเอชไอวี ราคาลดลง เกือบ 4 หมื่นบาทต่อราย เชื่อช่วยผู้ป่วยไทยมีอัตราเข้าถึงยาเพิ่มขึ้น 10 เท่า
          วานนี้(7 พ.ค.) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) แถลงข่าว "ความสำเร็จโครงการวิจัยยาต้านไวรัส Sofosbuvir+Ravidasvir สำหรับรักษา "โรคไวรัสตับอักเสบ ซี" ว่า กรมควบคุมโรค ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และองค์กรเพื่อการริเริ่มจัดหายาสำหรับโรคที่ถูกละเลย (Drugs for Neglected Diseases initiative, DNDi) ศึกษาวิจัยยาคู่ใหม่ในการรักษาโรคไวรัสตับอักเสบ ซี ได้แก่ โซฟอสบูเวียร์+ราวิดาสเวียร์(Sofosbuvir+ Ravidasvir) เพื่อประเมินประสิทธิผล และความปลอดภัย ในผู้ป่วยผู้ใหญ่ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ ซี เรื้อรัง ในโรงพยาบาล 4 แห่ง คือ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ รพ.จุฬาลงกรณ์ รพ.นครพิงค์ และสถาบันบำราศนราดูร
          "ผลการศึกษาวิจัยยาคู่นี้มีประสิทธิภาพการรักษาไวรัสตับอักเสบซีหายถึง 96-100 % ถือเป็นความสำเร็จในการพัฒนายาต้านไวรัสตับอักเสบ ซี ประโยชน์ที่ไทยได้จากการเข้าร่วมวิจัยคือข้อตกลงในการเข้าถึงยาราวิดาสเวียร์ ในราคาถูกพิเศษ ไม่เกิน 10,000 บาทต่อการรักษา 1 ราย
          จากที่ยารักษาตัวอื่นที่มีอยู่เดิมเฉลี่ยต่อการรักษาผู้ป่วย 1 ราย เป็นเงิน 16,800-48,720 บาท เชื่อว่าจะช่วยทำให้ผู้ติดเชื้อไวรัสนี้ในไทยที่คาดว่ามีประมาณ 3-7 แสนรายเข้าถึงการรักษาได้เพิ่มขึ้นเป็น 1 หมื่นราย จากเดิมเพียง 3 พันรายคิดเป็น 1 % และอนาคตเพิ่มเป็น 3 หมื่นราย คิดเป็น 10 % จากที่มีงบประมาณของรัฐสนับสนุนปีละ 300-400 ล้านบาท" นพ.สุวรรณชัยกล่าว
          รศ.พญ.อัญชลี อวิหิงสานนท์ ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย (HIV-NAT) กล่าวว่า สำหรับโครงการวิจัยนี้มีอาสาสมัครที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ ซี เรื้อรังทั้งสิ้น 301 ราย เป็นคนไทย จำนวน 81 ราย  เพศชาย 70 % เป็นผู้ป่วยตับแข็ง ผู้ติดเชื้อเอชไอวี และได้รับยาไวรัสตับอักเสบ ซี แบบฉีด มาก่อนคิดเป็นกลุ่มละ 1 ใน 3 โดยผู้ป่วยตับแข็งจะให้ยาคู่นี้ 24 สัปดาห์ ผู้ป่วยที่ไม่มีตับแข็งให้ยา 12 สัปดาห์  จากการศึกษาพบว่ายาคู่ใหม่สามารถรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อสายพันธุ์ที่ 1 ได้ถึง 99-100 % เมื่อเปรียบเทียบกับยาสูตรเดิมที่ใช้ฉีด มีโอกาสรักษาหายเพียงแค่ 50 % ผู้ป่วยที่ติดเชื้อสายพันธุ์ที่ 3 สามารถรักษาให้หายขาดได้ถึง 97 % ส่วนผู้ป่วยที่ติดเชื้อสายพันธุ์ที่ 6 รักษาให้หายได้ 81 % และไม่มีความแตกต่างในผลการรักษาระหว่างผู้ป่วยตับแข็ง ผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยที่ได้รับยาฉีดมาก่อน
          รศ.พญ.อัญชลี กล่าวอีกว่า สิ่งที่จะต้องมีการวางแผนเพื่อวิจัยในขั้นตอนต่อไปในประเทศไทย คือ ศึกษาในอาสาสมัครผู้ป่วยไทยเพิ่มเติมเป็น 300 ราย เพื่อพิสูจน์ว่ายาสูตรผสมนี้สามารถรักษาไวรัสตับอักเสบ ซี ได้ทุกสายพันธุ์ เนื่องจากการวิจัยที่ผ่านมาในไทยมีอาสาสมัครที่ติดเชื้อสายพันธุ์ 6 เพียง 5 %ขณะที่คนไทยติดสายพันธุ์นี้ราว 15 % และติดสายพันธุ์ 3 ราว 50 %จึงต้องวิจัยในอาสาสมัครที่มากขึ้น
          ซึ่งหากสามารถวิจัยต่อยืนยันได้ว่ารักษาได้ทุกสายพันธุ์จะทำให้แพทย์ไม่ต้องตรวจหาสายพันธุ์ สามารถรักษาได้เลย ลดค่าใช้จ่ายในการตรวจยืนยันสายพันธุ์ รวมถึง ศึกษาเวลาที่ใช้ในการรักษา ว่าจะลดจาก 12-24 สัปดาห์เหลือ 8 สัปดาห์จะสามารถรักษาหายได้หรือไม่ เนื่องจากการวิจัยในขั้นตอนที่ผ่านมา มีผู้ป่วยที่เข้ารับยารักษาเพียง 8 สัปดาห์แต่หายได้เช่นเดียวกัน และในผู้ป่วยที่เป็นการกลับมาติดเชื้อซ้ำจะสามารถใช้ยาสูตรนี้รักษาหายได้หรือไม่
          อนึ่ง โรคไวรัสตับอักเสบ ซี เป็นสาเหตุสำคัญของโรคตับอักเสบเรื้อรัง ตับแข็ง และมะเร็งตับ ติดต่อทางเลือดและทางเพศสัมพันธ์ จากข้อมูลองค์การอนามัยโลก คาดประมาณผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ ซี เรื้อรัง ประมาณ 71 ล้านคนทั่วโลก จำแนกเป็น 6 สายพันธุ์ ในประเทศไทยมักตรวจพบสายพันธุ์ที่ 3, 1 และ 6 ตามลำดับ โรคไวรัสตับอักเสบ ซี สามารถรักษาให้หายขาดหากตรวจพบได้เร็ว

 pageview  1204857    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved