"มท.1" ตั้งเป้าลดการสูญเสียบนท้องถนนช่วงปีใหม่ กำชับ "ตร." ดูแลถนนสายหลัก"ฝ่ายปกครอง" ดูถนนสายรอง หวัง ปชช.ปฏิบัติตามกฎจราจรเคร่งครัดยันห้ามนั่งขอบกระบะ-ดื่มสุรา ด้าน "ศปถ." จ่อเปิดศูนย์ปลอดภัยปีใหม่ 28 ธันวาฯ เน้นทำงานเชิงรุก ขณะที่ "ธปท." คาดประชาชนใช้จ่ายช่วงสิ้นปีสูง แบงก์พาณิชย์เบิกธนบัตรเตรียมพร้อมล่วงหน้า 1 สัปดาห์ 1.2 แสนล้านบาทเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 2.4%
          ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.60 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นประธานในการประชุมศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน "ร่วมกันสร้างการสัญจรที่ปลอดภัย ตามมาตรฐานสากล" ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
          โดย พล.อ.อนุพงษ์ ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้จะหารือถึงมาตรการต่างๆ และแผนความปลอดภัยทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่เพื่อให้ประชาชนเกิดความปลอดภัยและเกิดอุบัติเหตุน้อยที่สุด โดยทุกฝ่ายต้องมีคนรับผิดชอบในระดับพื้นที่ ทั้งผู้ว่าฯ และนายอำเภอ ส่วนตามอำนาจหน้าที่จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ บังคับใช้กฎหมาย ส่วนด่านชุมชนจะมีเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก ท้องถิ่น ท้องที่เป็นผู้ดูแล รวมทั้งจะมีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงสาธารณสุขเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงมูลนิธิต่างๆ ที่พร้อมแก้ปัญหาเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น ขณะที่การสัญจรในเส้นทางรองจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ท้องถิ่นทหารและขนส่งดูแล ส่วนถนนสายหลักจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารเป็นหลัก คอยดูแลและต้องมีเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ในการบังคับใช้ โดยเจตนาของการประชุมครั้งนี้ตั้งใจที่จะลดสถิติการสูญเสียบนท้องถนนหรือไม่ให้เกิดการเสียชีวิตของประชาชนให้มากที่สุด
          "ขอฝากความห่วงใยไปยังประชาชนที่กำลังเดินทางกลับว่าชีวิตเป็นสิ่งมีค่าฉะนั้นขอให้เดินทางด้วยความระมัดระวังและปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเข้มงวดและอยากให้ทุกคนช่วยตักเตือนคนรู้จักให้ปฏิบัติตามกฎหมายในช่วงเทศกาลปีใหม่อย่างเคร่งครัดเพื่อลดอุบัติเหตุ"
          เมื่อถามว่าจะมีการผ่อนผันให้ประชาชนสามารถนั่งท้ายรถกระบะกลับบ้านในช่วงเทศกาลปีใหม่ได้หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า อยากให้ประชาชนที่สัญจรโดยวิธีนี้ต้องระมัดระวังเพราะเสี่ยงต่อการอุบัติเหตุมาก และไม่ควรอย่างยิ่งที่จะนั่งบริเวณขอบกระบะ ส่วนการบังคับใช้กฎหมายเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงแล้วว่า เพื่อความปลอดภัย ของทุกคนจะต้องไม่นั่งที่ขอบกระบะ เพราะถือว่าเป็นความผิดและต้องไม่มีการดื่มสุราในรถ ซึ่งเรื่องนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ระบุแล้วว่านั่งกระบะได้ แต่ห้ามนั่งขอบกระบะและต้องไม่ดื่มสุรา"
          ด้านนายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ขับเคลื่อนมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่อย่างเข้มงวด โดยเน้นการใช้มาตรการเชิงรุก คุมเข้มพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ ที่ครอบคลุมทุกด้านทั้งคน รถ และสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการดูแลความปลอดภัยเส้นทางสัญจรทางน้ำ และความปลอดภัยในการท่องเที่ยวรวมถึงการจัดการหลังเกิดอุบัติเหตุ เพื่อสร้างการสัญจรที่ปลอดภัยในทุกเส้นทาง อย่างไรก็ตาม ทางศปถ.ได้กำหนดเปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 ในวันที่ 28 ธ.ค.นี้ ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
          ขณะที่ พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตรรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) กล่าวว่า ในวันที่ 31 ม.ค.60 ทางห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ จะจัดกิจกรรมเคานต์ดาวน์ 2018 ที่บริเวณลานหน้าห้างสรรพสินค้า ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนมาร่วมงานเฉลิมฉลองเข้าสู่ศักราชใหม่เป็นจำนวนมา เพื่อความสะดวกและปลอดภัยจึงจำเป็นต้องมีการปิดการจราจรบริเวณแยกราชประสงค์ ถนนราชดำริแยกประตูน้ำ ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 26-30 ธ.ค.60 จะเริ่มปิดการจราจรตั้งแต่เวลา24.00 น.ในถนนราชดำริ 1 ช่องทางชิดทางเท้าฝั่งขาออกฝั่งเซ็นทรัลเวิลด์มุ่งหน้าแยกประตูน้ำเพื่อทำการก่อสร้างเวทีและเตรียมพื้นที่ทำงาน และวันที่ 31 ธ.ค. 60 เริ่มตั้งแต่เวลา 06.00-12.00 น. จะปิดการจราจรถนนราชดำริ ตั้งแต่แยกประตูน้ำถึงแยกราชประสงค์ เปิดให้ใช้ 2 ช่องจราจรสวนกันเฉพาะรถโดยสารประจำทาง และตั้งแต่เวลา 14.00 น.เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 1 ม.ค. 61 เวลา 06.00 น. ห้ามรถทุกชนิดเดินในถนนดังต่อไปนี้ 1. ถนนราชดำริ ตั้งแต่แยกประตูน้ำ แยกราชประสงค์ ถึงแยกราชดำริ 2. ถนนเพลินจิต ตั้งแต่แยกชิดลม ถึงแยกราชประสงค์ 3.ถนนพระราม 1 ตั้งแต่ แยกราชประสงค์ ถึงแยกเฉลิมเผ่า และ 4.ถนนสารสิน ตั้งแต่แยกราชดำริ ถึงแยกสารสิน
          "ทาง บช.น.จึงขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนได้รับทราบหากจำเป็นจะต้องใช้เส้นทางดังกล่าวควรเตรียมความพร้อม และวางแผนในการเดินทาง หากต้องการสอบถามข้อมูลเส้นทางแจ้งอุบัติเหตุจราจร และข้อมูลสภาพจราจรเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) หมายเลขโทรศัพท์1197ได้ตลอด 24 ชั่วโมงหรือผ่านแอพพลิเคชั่น POLICEILERT U"
          ขณะที่ นายวรพร ตั้งสง่าศักดิ์ศรีผู้ช่วยผู้ว่าการสายออกบัตรธนาคาร กล่าวว่า ในช่วงสิ้นเดือน ธ.ค.60 และช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งประชาชนมีความต้องการใช้ธนบัตรในระดับสูงกว่าปกตินั้น ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประมาณการว่า ธนาคารพาณิชย์จะมีการเบิกจ่ายธนบัตรในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนเทศกาลปีใหม่ ประมาณ 120,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 2.4 โดยทาง ธปท.ได้เตรียมสำรองธนบัตรชนิดราคาต่างๆ เพื่อรองรับความต้องการไว้อย่างเพียงพอ