เมื่อวันที่ 11 ก.พ.55 นพ.วิโรจน์วีรชัย ผอ.สถาบันธัญญารักษ์ เปิดเผยว่า หลังจาก นายเสกสรร ศุขพิมาย หรือ"เสก โลโซ" ศิลปินนักร้องชื่อดัง สมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษายาเสพติดที่สถาบัน ส่งผลให้มีจำนวนผู้สมัครใจมาเข้ารับการบำบัดรักษาเพิ่มขึ้น เต็มทั้ง 200 เตียง และต้องเข้าคิวรอการบำบัดตั้งแต่เดือนธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งในจำนวนนี้มีกลุ่มไฮโซ หรือคนที่มีชื่อเสียงสมัครใจเข้ารับการบำบัดมากกว่า 10 คน ส่วนใหญ่ติดยาบ้าและยาไอซ์ โดยทางสถาบันได้รับตัวไว้และใช้ระบบปกปิดข้อมูลเพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิและชื่อเสียงของผู้ป่วย เชื่อว่าจะทำให้กลุ่มคนเหล่านี้กล้ารับการบำบัดมากขึ้น

          อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคืออยากให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งผลักดันแก้กฎหมายพ.ร.บ.ยาเสพติด พ.ศ.2522 ที่อยู่ในการควบคุมของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ให้ผู้เสพยาเสพติดอย่างเดียว ที่ไม่ใช่ผู้ค้า กรณีที่ถูกจับกุมให้ถือเป็นผู้ป่วย และลบออกจากประวัติอาชญากร ให้กลุ่มคนเหล่านี้สามารถมีชีวิตได้ตามปกติหลังเข้ารับการบำบัดมิเช่นนั้น ก็เท่ากับสังคมยังไม่ได้ให้โอกาส

          ขณะที่ พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัยอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยเกี่ยวกับความคืบหน้าการย้ายนักโทษค้ายาเสพติดรายใหญ่ 221 คน ไปเรือนจำกลางเขาบินจ.ราชบุรี ว่า ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ทำการย้ายนักโทษเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และยังไม่ได้รับรายงานว่ามีเหตุชุลมุนเกิดขึ้นแต่อย่างใด ส่วนกรณีที่มีการตรวจค้นเจออาวุธต่างๆ ภายในเรือนจำหลายแห่งนั้นการค้นเจอไม่ใช่เป็นการนำอาวุธเข้าไปจากด้านนอก แต่มาจากนักโทษทำการดัดแปลงสภาพสิ่งของที่อยู่ในเรือนจำให้เป็นอาวุธ จึงต้องมีการเพิ่มความถี่ในการตรวจค้นมากขึ้น

          นายนิมิต ทัพวนานต์ ผบ.เรือนจำอ่างทอง รับแจ้งว่ามีวัยรุ่นแอบเข้ามาทางด้านหลังเรือนจำอ่างทอง แล้วพยายามโยนสิ่งของเข้ามาภายในเรือนจำโดยยังไม่ทราบว่าสิ่งของดังกล่าวเป็นอะไร หลัง

          จากรับแจ้งจึงไปตรวจสอบ พบถุงพลาสติกห่ออย่างดีตกอยู่หน้าเรือนนอนชาย ตรวจสอบภายในถุงพบกล่องโฟมสีขาว พันด้วยผ้าเทปสีดำและมัดด้วยเชือกอีกชั้นหนึ่งเมื่อแกะออกดูก็พบโทรศัพท์มือถือพร้อมที่ชาร์จยี่ห้อโนเกียจำนวน 3 เครื่อง

          "ผมคาดอยู่แล้วว่าในช่วง 1-2 วันนี้อาจจะมีการแอบลักลอบขว้างปาสิ่งของต้องห้ามเข้ามาในเรือนจำ หลังจากเจ้าหน้าที่ก็ทำการจู่โจมค้นเรือนนอนผู้ต้องขังพร้อมยึดโทรศัพท์มือถือและยาเสพติดได้จำนวนหนึ่ง จึงต้องเร่งหาของเข้ามาใหม่ โดยเมื่อเวลา 02.10 น.วันเดียวกันนี้

          ขณะที่ผู้คุมกำลังนั่งดูจอวงจรปิดก็พบว่ามีวัยรุ่นสูงประมาณ 165 ซม. ใส่เสื้อคลุมสีดำ นุ่งกางเกงขาสั้น วิ่งบุกป่าหญ้าเข้ามาทางด้านหลังแล้วพยายามปาของเข้ามา จากนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงรีบวิทยุและนำกำลังออกตรวจสอบด้านหลังเรือนจำจุดที่มีคนแอบเข้ามาแต่ก็ไม่ทันที่จะจับกุมคนร้าย" ผบ.เรือนจำอ่างทอง กล่าว

          ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.ฉันทวิทย์รามสูตร ผบก.ภ.จ.นครสวรรค์ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ กว่า200 นาย เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดนครสวรรค์ และสารวัตรทหารจากมณฑลทหารบกที่ 31 ค่ายจิรประวัตินครสวรรค์ สนธิกำลังกันบุกเข้าค้น เรือนจำกลางจังหวัดนครสวรรค์ เพื่อตรวจค้นหายาเสพติด โทรศัพท์มือถือ และสิ่งของต้องห้าม รวมถึงตรวจสารเสพติดในปัสสาวะ

          ของผู้ต้องหาในเรือนจำ โดยมี นายธนสิทธิ์พาณิชวงษ์ ผบ.เรือนจำกลางนครสวรรค์คอยอำนวยความสะดวก

          สำหรับเรือนจำกลางนครสวรรค์เป็นเรือนจำแห่งแรกที่ได้รับรางวัลเรือนจำสีขาวของประเทศ ปัจจุบันมีผู้ต้องขังในคดีอุกฉกรรจ์และคดียาเสพติดอยู่ในความควบคุมทั้งหมด 3,200 ราย แยกเป็นชาย 2,600 ราย และหญิง 600 รายส่วนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ มีจำนวน 125 นายผลการตรวจค้นภายในเรือนจำ ปรากฏว่าไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายหรือของต้องห้ามแต่อย่างใด

          ด้าน ร.อ.สุรศักดิ์ พึ่งแย้ม ผบ.ร้อย.ร.2521 ชุดเฉพาะกิจกรมทหารที่ 25 กองกำลังเทพตรี จ.ระนอง พร้อมด้วย พ.ต.ต.ถาวร อัมพันธ์ หน.ชุด ปส.บก.ภ.จ.ระนองทำการจับกุม นายสมโภชน์ หลีใบ อายุ28 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 439 เม็ดรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า สีส้ม-ขาว ไม่ติดป้ายทะเบียน 1 คัน และนายวัลชัยภิญโย อายุ 36 ปี พร้อมยาไอซ์ 2 ถุง หนัก0.36 กรัม ปืนลูกซองสั้น 1 กระบอก เงินสด 15,000 บาท สมุดบัญชีเงินฝาก 1 เล่ม

          ร.อ.สุรศักดิ์ เปิดเผยว่า ได้สนธิกำลังกับตำรวจนำกำลังไปล่อซื้อยาบ้าจากนายสมโภชน์อดีตทหารเกณฑ์ลูกน้องของตนโดยจับกุมได้ภายในบ้านเลขที่ 62/1 หมู่ที่ 5 บ้านท่าฉาง ต.หงาว อ.เมือง จ.ระนองสอบสวนนายสมโภชน์รับสารภาพว่าทำมาแล้ว 4 ครั้ง ส่วนนายวัลชัยจับกุมได้ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 2 ต.บางหินอ.กะเปอร์ จากนั้นจึงคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

          ล่าสุด พ.ต.ท.ยุทธศิลป์ นามแสงสวป.สภ.เมืองอุดรธานี และหน.ชุด ปราบปรามยาเสพติดชุด "อัศวิน" ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด จำนวน 5 ราย ซึ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่เสพติดยาบ้า หนึ่งในจำนวนนั้นมี พ.อ.หญิงทราบชื่อคือ พ.อ.หญิงอัจฉราภรณ์ ติปยานนท์ อายุ56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 339/26 หมู่บ้านพลอยวิลล่า 1 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานีและลูกน้องอีก 4 คนคือนายราชันต์ ศรีสุขาอายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 130 หมู่ 5 บ้านดงพัฒนา ต.นางัว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี,นางสุดารัตน์ ณ หนองคาย อายุ 33 ปีอยู่บ้านเลขที่ 242/1 หมู่ 11 บ้านดงเจริญต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี,นายปัญญาเรืองแย้ม อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 226 หมู่ 4 บ้านหนองเหล็ก ต.หมากแข้ง อ.เมืองจ.อุดรธานี,นายพล แซ่คู อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่184/1 ถ.อุดรดุษฎี ต.หมากแข้งอ.เมือง จ.อุดรธานี,และนางวารุณี สาลีสังข์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 339/26 หมู่7 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งทั้งหมดเป็นลูกน้องของพ.อ.หญิงอัจฉราภรณ์ ที่มีหน้าที่จำหน่ายยาบ้าให้แก่วัยรุ่น ซึ่งการบุกจับกุมครั้งนี้ได้ของกลางจำนวน 490 เม็ด และถุงพลาสติกใสสำหรับห่อยาบ้าอีก 200 ถุง และเงินสดอีก 180,700 บาทเครื่องเพชร 1 ชุด แหวนเพชร 3 วง ต่างหูเพชร 1 คู่ กำไลทอง 1 อันและพระเลี่ยมทอง 3 องค์

          จากการสอบสวน พ.อ.หญิงอัจฉราภรณ์ ให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าดังกล่าวเป็นของตนที่เก็บเอาไว้เพื่อจำหน่าย และให้ลูกหลานที่เสพยาด้วย และบ้านเช่าหลังดังกล่าวตนเป็นคนเช่าเอาไว้พักอาศัยส่วนยาบ้ายอมรับว่า มีทหารยศจ่า ชื่อ

          จ่าเชษ เป็นทหารอู่ อยู่ที่ จ.ลพบุรี เป็นคนนำยามาให้ครั้งละ 2,000-3,000 เม็ดเพื่อมาจำหน่ายใน จ.อุดรธานี ส่วนตน ได้ออกจากราชการเมื่อเดือน ต.ค.54 ปีที่แล้ว