|
สยามรัฐ [ วันที่ 31/08/2560 ] |
|
|
|
|
เตือน4อาการโรคSLE จาก11ข้อต้องรีบพบหมอเฉพาะทาง |
|
|
|
|
นพ.ธีรพล โตพันธานนท์ อธิบดีกรมการแพทย์เปิดเผยว่า โรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือโรค SLE (Sys temic Lupus Erythematosus, SLE) เป็นโรคภูมิต้านทานตนเองทำลายเนื้อเยื่อตัวเอง ทำให้อักเสบเรื้อรัง จะเป็นๆ หายๆ กำเริบและสงบเป็นระยะพบในหญิงมากกว่าชาย สาเหตุไม่ทราบแน่ชัด แต่มีปัจจัยทางพันธุกรรม และปัจจัยอื่น ได้แก่ ติดเชื้อยา แสงแดด สารเคมีในสิ่งแวดล้อม จะแสดงความผิดปกติในร่างกายหลายระบบร่วมกัน เช่น ผื่นโรคSLE ระบบผิวหนังประสาท หัวใจ-หลอดเลือด กล้ามเนื้อและข้อเม็ดเลือดไตระบบทางเดินหายใจผมร่วงเป็นต้น
ทั้งนี้ การวินิจฉัยโรคต้องอาศัยประวัติเจ็บป่วยและผลเลือด โดยมีเกณฑ์วินิจฉัยความผิดปกติอย่างน้อย 4 ใน 11 ข้อได้แก่ ผื่นที่ใบหน้าและกระจายเป็นรูปผีเสื้อ, ผื่นผิวหนัง-ผื่นดีสคอยด์ พบบ่อยที่หน้าหู ตัว แขน ขา, แพ้แดด, แผลในปาก, ข้ออักเสบ, ไตอักเสบ, ชักหรือ อาการทางระบบประสาทอื่นๆ, เยื่อหุ้มปอดหรือหัวใจหรือเยื่อหุ้มสมองอักเสบ, ซีด เม็ดเลือดขาวต่ำ หรือเกล็ดเลือดต่ำ, ตรวจพบแอนตินิวเคลียร์แอนติบอดีในเลือด, ตรวจพบแอนติบอดีต่อดีเอ็นเอ หรือพบแอนติฤอสโฟโลปิดแอนติบอดี หรือตรวจเลือดพบผลบวกปลอมต่อการตรวจซิฟิลิส หากพบความผิดปกติ 4 ใน 11 ข้อ ควรเข้ารักษาอย่างถูกต้อง
เนื่องจากการรักษาโรค SLE มีระยะการรักษาที่ยาวนาน ผู้ป่วยควรดูแลตนเอง โดยควรทำความเข้าใจธรรมชาติ และกลไกเกิดโรค เข้าใจเหตุผลการประเมิน ติดตามการรักษาอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง |
| | |
|
|