น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าวว่า ได้จัดทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤติน้ำท่วมจาก รพ.จิตเวช และศูนย์สุขภาพจิตทำงานร่วมกับทีม MCATT ในพื้นที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เพื่อประเมินผลกระทบ ดูแลช่วยเหลือฟื้นฟูจิตใจในกลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่ ผู้มีประวัติรักษาโรคจิตเวช ใช้สารเสพติด สูญเสียบุคคลที่รักทรัพย์สินอย่างมาก ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้พิการ ผู้สูงอายุและเด็ก สำหรับปฏิกิริยาด้านอารมณ์ เช่น ช็อก โกรธสิ้นหวัง หวาดกลัว เศร้าโศก หงุดหงิด ด้านความคิด เช่น ไม่มีสมาธิ สับสน ตำหนิตัวเอง วิตกกังวลด้านร่างกาย เช่น ปวดศีรษะ ปวดต้นคอ ท้ายทอย ใจสั่น นอนไม่หลับตกใจง่าย และ ด้านความสัมพันธ์กับผู้อื่น เช่น แยกตัว ขัดแย้งกับคนใกล้ชิด ถือเป็นการตอบสนองตามปกติและจะค่อยๆ ลดลง ขึ้นกับต้นทุนชีวิตเดิม
          หากพบผู้ประสบภัยเครียดสูง ซึมเศร้า เสี่ยงฆ่าตัวตาย จากเดิมเคยร่าเริง ซึมเศร้า บ่นถึงความตายบ่อยๆ จะรีบเข้าไปช่วยเหลือ พูดคุย ให้กำลังใจ ช่วยลดเครียด สำหรับรายที่นอนไม่หลับรุนแรง เครียดมากๆอาจต้องให้ยาคลายเศร้า-คลายเครียด โดยจะติดตามใกล้ชิดต่อเนื่อง 3 เดือนป้องกันเกิดปัญหาสุขภาพจิตรุนแรงระยะยาว ทั้งนี้ ทุกคนสามารถช่วยดูแลจิตใจกันได้ ด้วยหลัก 3 ส. "สอดส่องมองหา ใส่ใจรับฟังส่งต่อเชื่อมโยง" สอดส่องมองหา โดยสังเกตพฤติกรรมคนรอบข้าง-คนใกล้ชิด ใส่ใจรับฟัง ให้ระบายความในใจ หากไม่ดีขึ้น ควรส่งต่อเชื่อมโยงไปยังผู้มีความรู้เชี่ยวชาญ ที่สำคัญอย่าหมดกำลังใจ มีสติ ยิ้มสู้