นพ.ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากการเก็บตัวอย่างน้ำบริโภคโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพตรวจทางห้องปฏิบัติการปี 58 พบมีคุณภาพไม่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 37.5 ซึ่งพบปนเปื้อนแบคทีเรียมากสุดปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมส่วนบุคคลของนักเรียน ครู หรือเจ้าหน้าที่โรงเรียน เช่น ใช้แก้วน้ำร่วมกัน ไม่ล้างแก้วน้ำก่อนดื่ม การเทน้ำคว่ำถัง โดยใช้มือปิดปากถัง รวมถึงไม่ดูแลบำรุงรักษาตู้น้ำเย็น หรือเครื่องกรองน้ำ ไม่ทำความสะอาด เปลี่ยนไส้กรอง หรือล้างย้อนตามคำแนะนำของผลิตภัณฑ์ การปนเปื้อนจากการขนส่งและการเก็บรักษา ถังน้ำดื่ม รวมถึงโรงเรียนใช้น้ำจากผู้ผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน ปัญหาไฟฟ้ารั่ว ไฟฟ้าชอร์ต ความเฉอะแฉะของจุดตั้งตู้น้ำดื่ม
"ก่อนเปิดเทอม ต้องทำความสะอาดให้พร้อมใช้งาน โดยคำนึงความปลอดภัยด้วยการปิดสวิตช์ ถอดปลั๊ก ระบายน้ำที่ค้างในตู้ออก นำถาดพลาสติกในช่องคว่ำน้ำออกไปทำความสะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เทน้ำร้อนลงในช่องคว่ำถัง ทิ้งไว้ 2-3 นาที ขัดด้วยฟองน้ำ ระบายน้ำทิ้ง เติมน้ำร้อนอีกครั้ง ทิ้งไว้ 2-3 นาที หรือใช้คลอรีน 60% ในอัตราส่วน 1 ช้อนชาต่อน้ำ20 ลิตร แช่ทิ้งไว้ 2-3 นาที แล้วล้างด้วยน้ำเปล่า ส่วนการคว่ำถังน้ำตู้น้ำดื่ม ต้องปิดสวิตช์ ถอดปลั๊ก ระบายน้ำที่ค้างในตู้ออก เช็ดถังน้ำในส่วนคอขวดด้วยผ้าสะอาดหรือแอลกอฮอล์ คว่ำถังลงบนตู้น้ำดื่มโดยไม่เอามือจับปากขวดและบริเวณที่จะสัมผัสน้ำในตู้น้ำดื่ม ทดสอบการไหลของน้ำ และเสียบปลั๊กเปิดสวิตช์ใช้งาน และควรล้างอย่างน้อยเดือนละครั้ง" |