สังเกตว่าคนไทยเป็นโรคภูมิแพ้กันเยอะเหลือเกิน ไม่รู้ว่าสาเหตุจริงๆ ที่เกิดโรคเพราะอะไร สภาพแวดล้อมอันเลวร้ายก็มักถูกอ้างว่าเป็นหนึ่งในสาเหตุพฤติกรรมการใช้ชีวิตก็ทางหนึ่ง เป็นมากเป็นน้อยแตกต่างกันไปแต่ดูเหมือนการรักษาให้หายขาดยากเย็นเหลือเกินที่สุดแล้ว กลายเป็นโรคเรื้อรังไป
ด้วยความห่วงใยในสุขภาพของคนไทยด้วยกัน ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส. จึงจัดกิจกรรม'เอาชนะภูมิแพ้' สำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้และผู้ที่สนใจ ด้วยวิธีดูแลตัวเองง่ายๆ โดยเริ่มต้นจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและสร้างสมดุลให้กับร่างกาย
นางชินริณี วีระวุฒิวงศ์ หรืออาจารย์ณีผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมอธิบายว่า ภูมิแพ้เป็นภาวะเรื้อรังที่พบมากที่สุดในไทย และเกิดขึ้นได้กับวัยเด็กจนถึงวัยชราโรคภูมิแพ้ที่คนไทยเป็นมากที่สุด 4 อันดับ คือภูมิแพ้อากาศ ผิวหนัง อาหาร และยา ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ อาจเกิดทั้งจากพันธุกรรมสิ่งแวดล้อม การได้รับสารก่อภูมิแพ้ในอากาศไรฝุ่น ขนสุนัข ขนแมว เกสรดอกไม้หรือหญ้าเชื้อรา รวมทั้งสารก่อภูมิแพ้ในอาหาร อย่างเช่นนมวัว นมถั่วเหลือง ไข่ อาหารทะเล และแป้งสาลีด้วย
"ภาวะภูมิแพ้มักเกิดจากการสะสมของพิษในกระแสเลือด หากร่างกายอ่อนแอก็อาจมีอาการภูมิแพ้แสดงออกมา การรักษาจึงต้องเริ่มจากการล้างพิษในร่างกายก่อน ซึ่งการบำบัดด้วยวิธีธรรมชาติจะเริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน หันมากินอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระมากขึ้น อย่างเช่นผัก ผลไม้ ที่อุดมไปด้วยวิตามินต่างๆ ทั้งวิตามินเอ ซี อีและควรงดอาหารรสหวานหลีกเลี่ยงสารที่ทำให้เกิดภูมิแพ้"อาจารย์ณี อธิบายเพิ่ม
มีเคล็ดลับในการปรับสมดุลและล้างพิษให้กับร่างกายที่อาจารย์ณีแนะนำ นั่นคือ การดื่มน้ำสมุนไพรที่เรียกว่า 'ชาเบญจรส'ซึ่งเป็นชาที่มีส่วนผสมของน้ำผึ้งและสมุนไพรไทย 6 ชนิด คือ กะเพรา ลูกกระวาน โหระพาขิง ตะไคร้ และลูกผักชี
สมุนไพรดังกล่าวอาจารย์ณีบอกถึงสรรพคุณให้รู้จักชัดๆ กะเพรา ช่วยขับลมบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียน ลูกกระวานขับโลหิต บำรุงธาตุ โหระพา ช่วยบรรเทาท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยย่อยอาหาร ขิง บรรเทาอาการจุกเสียด ขับลม แก้คลื่นไส้อาเจียน ตะไคร้ช่วยบำรุงประสาท บำรุงร่างกาย และลูกผักชีช่วยขับเหงื่อขับลม ส่วนน้ำผึ้งช่วยให้ระบบการย่อยและการขับถ่ายดีขึ้น
ยังมีอีกหนึ่งเคล็ดลับที่อาจารย์ณีบอก คือการนวดฝ่ามือด้วยน้ำมันงา ซึ่งต้องมีการจับคู่นวดให้แก่กัน โดยผู้นวดต้องถูฝ่ามือให้ร้อนและใช้นิ้วโป้งทั้งสองมือกดบนฝ่ามือของผู้ถูกนวด แล้วไล่จากข้อมือลงมาถึงโคนนิ้ว หลังจากนั้นนวดคลึงที่ง่ามนิ้วโป้งเบาๆนวดตามข้อนิ้วเรื่อยไปจนถึงปลายนิ้ว โดยเริ่มจากนิ้วชี้จนถึงนิ้วก้อย ตามลำดับขั้นตอนสุดท้ายคือ ถูฝ่ามือให้ร้อนและนวดจากต้นแขนลงมาถึงข้อมือ ทำแบบนี้ซ้ำ 3 ครั้งการนวดลักษณะนี้ เป็นการนวดเพื่อกระตุ้นและสร้างระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย
ด้านผู้เข้าร่วมกิจกรรมอย่าง น.ส.ฝนทิพย์วัชราภรณ์ นักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล บอกว่า ตนเป็นโรคภูมิแพ้อากาศ เมื่อทราบว่ามีกิจกรรมนี้จึงสนใจเข้าร่วม และเห็นว่าเป็นประโยชน์มาก เพราะทำให้เรารู้จักเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง อย่างนวดมือ เพื่อปรับสมดุลภายในร่างกายเพื่อลดอาการภูมิแพ้ ซึ่งถือว่าเป็นความรู้ใหม่ที่สามารถนำไปลองทำได้เองที่บ้าน
สรุปความได้ในเบื้องต้นว่าคนเป็นภูมิแพ้ต้องรู้จักปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต ทั้งการกินอาหารที่มีผลต่อการช่วยเรื่องภูมิแพ้ได้อย่างน้อยก็ต้องเน้นผัก ผลไม้ และหรืออาหารที่มีวิตามินเอ อี ซี แล้วก็ใส่ใจพืชสมุนไพรเป็นต้นเรียกว่าต้องหันมาใส่ใจสุขภาพร่างกายด้วยวิธีธรรมชาติ
'เอาชนะภูมิแพ้' ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด