สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (ร.พ.เด็ก)
ด้วยอิทธิพลของสื่อ ขนมเด็กอาจจะเรียกเป็นปัจจัยที่ 5 หรือ 6 ของเด็กไปแล้ว ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของพ่อแม่เองก็นับขนมเป็นอาหารว่างชนิดหนึ่ง อาหารหลักก็ต้องตั้งหลักให้ดี อาหารหลักคืออาหารครบ 5 หมู่ และ 3 มื้อ ขณะนี้อาหารว่างในความหมายของมันก็คือ นอกเหนือจากอาหารหลัก ถ้าเป็นการเจริญเติบโตในเด็กแล้ว เด็กจะมีการใช้พลังงาน เช่น บางครั้งไปวิ่ง บางครั้งไปเล่น มีความจำเป็นต้องมีอาหารว่างต่างๆเหล่านี้เข้าไปชดเชยพลังงานที่สูญเสียไปอย่างรวดเร็ว
อาหารว่างที่ดีที่สุดก็คือ ผลไม้
ขนมในอดีต วิถีไทยเดิมจะออกมาในรูปของขนมที่มีประโยชน์ ยกตัวอย่างเช่น ข้าวต้มมัด 1 ชิ้น มีข้าวเหนียว กล้วย ถั่วดำ ทุกสิ่งที่ออกมาจะเป็นโมเลกุลเชิงซ้อนในลักษณะที่เมื่อกินเข้าไปแล้วจะต้องผ่านกระบวนการย่อยสลายก่อนถึงจะนำไปใช้ประโยชน์ ซึ่งผิดกับขนมในยุคปัจจุบันที่มีการเติมน้ำตาลเพิ่ม หรือความมันที่เพิ่มเติมเข้าไปแล้วออกมาในรูปของโมเลกุลเชิงเดี่ยว คือพลังงานที่กินเข้าไปสามารถดูดซึมได้เลย
ขนมในยุคปัจจุบันแบ่งออกได้เป็น 4-5 ประเภทใหญ่ๆคือ 1.ขนมธรรมดาที่ไม่เคลือบน้ำตาล 2.ขนมกรอบเคลือบน้ำตาล 3.ลูกอมน้ำตาลหรือขนมเหนียวติดฟัน 4.ขนมโปรตีนอบแห้ง และ 5.ขนมไทย
ขนมเด็กส่งผลต่อร่างกายคือ 1.กินขนมมากและกินอาหารหลัก 3 มื้อมาก จะทำให้เด็กอ้วน ซึ่งจะมีอันตรายตามมาอีกมากมาย 2.กินขนมมากแต่กินอาหารหลัก 3 มื้อน้อย จะทำให้เด็กผอม รวมทั้งอาจขาดวิตามิน เกลือแร่ ทำให้ซีด เลือดจาง หรือภาวะขาดสารอาหาร ความหวานทำให้อิ่มและกินอาหารมื้อหลักได้น้อยลง 3.ถ้ากินขนมแล้วไม่รู้จักดูแลฟันก็จะเกิดโรคฟันผุ ซึ่งส่งผลกระทบแง่ลบต่อสุขภาพตามมา 4.คนที่กินขนมรสหวานมันมักจะไม่ค่อยชอบกินผัก ผลไม้ ซึ่งมีกากใยอาหาร ทำให้เกิดปัญหาท้องผูก ปวดท้อง ถ่ายแข็ง ถ่ายยาก และ 5.อาจจะมีผลทางด้านจิตใจ มักจะมีบุคลิกลักษณะที่เสียไปด้วย เด็กมักจะมีความก้าวร้าว ถ้าเป็นเด็กที่มีการกินอาหารและฝึกวินัยในการกินที่ดีก็มักจะเป็นเด็กที่เติบโตอย่างมีอีคิวที่มีคุณภาพ
หลักการเลือกขนมให้เด็กคือ 1.ควรเลือกขนมที่มีพลังงานไม่สูงมาก โดยเฉพาะขนมกรุบกรอบทั้งหลายหรือพวกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่มีซองเครื่องปรุงอยู่ ซึ่งจะได้โซเดียมเป็นส่วนเกิน ทำให้ไตต้องทำงานหนัก เพราะถ้ามีส่วนเกินของพวกนี้ร่างกายก็พยายามขับทิ้ง 2.ควรเลือกซื้อขนมที่มีสีธรรมชาติ ไม่ควรเลือกซื้อขนมที่ใส่สีฉูดฉาด 3.สารช่วยให้กรุบกรอบ และสารกันหืน (สารเคมี) พ่อแม่และพี่เลี้ยงไม่ควรซื้อให้กิน 4.เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ไม่ควรให้กินขนมประเภทลูกอม ลูกกวาด หรือถั่วเป็นเม็ดๆ เพราะอาจเป็นอันตราย เด็กอาจจะกลืนทำให้ติดหลอดคอ 5.ไม่ควรเลือกซื้อขนมที่มีน้ำตาลสูงให้เด็ก และไม่ควรซื้อขนมเก็บไว้ในบ้านเป็นจำนวนมาก 6.อ่านฉลากอาหารให้ดีก่อนซื้อ และ 7.ควรปลูกฝังให้เด็กรับประทานผลไม้แทนขนมหวาน
ข้อควรปฏิบัติหลังจากกินขนมคือ 1.ดื่มน้ำเปล่า บ้วนปาก หรือแปรงฟันหลังจากกินขนม เพื่อกำจัดของหวาน ช่วยลดจำนวนแบคทีเรียในช่องปาก อันเป็นสาเหตุของโรคฟันผุ 2.ไม่กินขนมก่อนนอนโดยไม่แปรงฟัน 3.ไม่ควรกินขนมหวาน ทอฟฟี่ หรือช็อกโกแล็ตให้เด็กเห็น และ 4.ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ