Follow us      
  
  

โลกวันนี้ [ วันที่ 13/12/2556 ]
'โง่หรือฉลาด'วัดได้หรือ?
  อภิวาท คมใส
          smgak208@hotmail.com
          เรื่องของความโง่ ความฉลาด ดูจะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับสังคมไทยเอาเรื่องเลยทีเดียว คนโง่มักจะถูกดูถูก เหยียดหยาม ถูกเอาไปเปรียบเทียบกับควาย ส่วน คนฉลาดมักจะถูกมองว่าดี น่าชื่นชม น่ายกย่อง ควรเอาอย่าง ว่ากันอย่างนั้น
          สังคมบ้านเรายึดเอาความโง่กับความฉลาดไว้เพื่อวัดค่าของคน ขนาดท่านนายกฯ ยังถูกยกว่าโง่!
          ผมเองก็ไม่ทราบว่าความโง่กับความฉลาดเขาวัดกันได้ด้วยหรือ? มันเป็นเพียงความรู้สึก วัดค่ากันไม่ได้
          ลองพิจารณาจากความรู้สึกในลักษณะที่ใกล้เคียงกัน เช่น ความร้อน เย็น สูง ต่ำ หนัก เบา
          ความร้อนหรือความเย็นที่เราเอาปรอทมาวัดได้ ก็ยังไม่อาจวัดและยืนยันได้ว่าขั้นไหนเรียกว่าร้อน ขั้นไหนเรียกว่าร้อนมาก ร้อนน้อย ขั้นไหนเรียกว่าเย็น เย็นมาก เย็นน้อย หรือความสูง ต่ำ ก็ไม่รู้ว่าขนาดไหนเรียกว่าสูง ขนาดไหนเรียกว่าต่ำ แม้จะเอาไม้บรรทัดมาวัดได้ก็ตาม
          กระทั่งความหนักหรือความเบาก็วัดกันไม่ได้ หลวงปู่ชาบอกว่า ก้อนหินก้อนหนึ่งเอาคนโตแข็งแรงมายกก็บอกว่าเบาหวิว เอาคนที่เป็นเด็กตัวเล็กมายกก็บอกว่ามันหนักมาก เรื่องอย่างนี้นักวิทยา ศาสตร์เอกของโลกอย่างไอน์ สไตน์บอกว่า มันเป็นความ "สัมพัทธ์" ไม่มีอยู่จริงโดย "สัมบูรณ์" เขาบอกว่าจักรวาลแห่งนี้เป็นไปด้วยความสัมพัทธ์ เวลาตามนาฬิกาแม้จะเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงเท่ากัน แต่ช้านานมันต่างกัน ขึ้นอยู่กับการสัมพัทธ์ของใคร มีคนถามว่าทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษที่เขาค้นพบนั้นหมายความว่าอย่างไร?
          ไอน์สไตน์ได้ให้คำอธิบายว่า "เวลาที่เรานั่งอยู่ที่เตาอบอันร้อนระอุเพียง 2 นาที เราจะรู้สึกราวกับเป็นเวลา 2 ชั่วโมง เวลาที่อยู่กับสาวสวยแม้จะผ่านไปถึง 2 ชั่วโมงแล้ว แต่รู้สึกราวกับเวลาผ่านไปเพียง 2 นาทีเท่านั้น นี่แหละสัมพัทธ
          ภาพ" เขาบอกอย่างนี้ ร้อน เย็น สูง ต่ำ โง่ ฉลาด หรืออีกมากมาย เป็นของคู่ตรงกันข้ามที่มนุษย์กำหนดขึ้นมาเอง จึงไม่มีใครสามารถยืน ยันตัดสินได้
          ปราชญ์เหลาจื๊อแห่งเต๋าบอกว่า "ความสุข ความทุกข์ ดนตรี ความงาม กลิ่น รส ถูก ผิด ไม่มีใครตัดสินยืนยันได้หรอก"
          นั่นเพราะว่าทั้งหมดเป็นเรื่องสมมุติ ไม่มีอยู่จริง
          เรื่องของ "ชื่อ" ก็เหมือนกัน มีไว้สำหรับเรียกสิ่งนั้นสิ่งนี้ เป็นเพียงสมมุติเรียก สมมุติว่านั่นนาย ก. นาย ข. นาย ค. หรือประเทศ ก. ประเทศ ข. เพื่อสื่อสารกันเท่านั้น ไม่ได้เป็นเครื่องตัดสินว่าใครเรียกไปอย่างอื่นที่ไม่เหมือนคนอื่นจะบอกว่าคนนั้นโง่
          นักวิทยาศาสตร์เอกของโลกอีกคนอย่างริชาร์ด ไฟยน์แมน รู้จักเรื่องสมมุติดี เขาบอกว่าเมื่อตอนเด็กๆพ่อเขาสอนให้มองโลกอย่างถูกต้อง
          มีอยู่ครั้งหนึ่งไปเข้าค่าย เขาบอกว่าเด็กคนอื่นๆถูกสอนมาว่านกชื่ออะไร แล้วก็มีเพื่อนคนหนึ่งมาถามเขาว่า "เห็นนกนั่นไหม นกอะไร?" เขาบอก ว่า "ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่านั่นนกอะไร" เพื่อนก็บอกว่า "นั่นมันนกทรัชคอสีน้ำตาล พ่อนายไม่เคยสอนนายล่ะสิ" โดนเพื่อนตัดสินแล้วว่าโง่ ประมาณนั้น
          จริงๆแล้วเขาบอกว่าพ่อเขาก็สอนเรื่องนกเหมือนกัน แต่ไม่ได้สอนให้จำชื่อนก เพราะว่าทั่วโลกต่างเรียกชื่อนกแตกต่างกันไป พ่อเขาบอกว่า จีนอาจจะเรียกนกตัวนั้นว่าชุงลองทาห์ หรืออิตาเลียนอาจจะเรียกว่านกสเปนเซอร์วาร์เบลอร์" เขาบอกว่าจริงๆแล้วพ่อไม่รู้ภาษาพวกนั้นหรอก แต่พูดเพียงยกตัว อย่างเท่านั้น พ่อเขาสอนว่า "ลูกเรียนรู้ชื่อนกในทุกภาษาทั่วโลกได้ แต่แล้วลูกจะไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับนกตัวนั้น ลูกจะรู้แต่เพียงว่าในที่ต่างๆเรียกชื่อนกอย่างไรเท่านั้น แต่เรามาดูกันว่ามันกำลังทำอะไรอยู่ นั่นต่างหากที่เป็นเรื่องสำคัญ" เขาบอก ว่านับแต่นั้นเขาก็ได้เรียนรู้ ความแตกต่างระหว่างการ "รู้ชื่อ" ของอะไรบางสิ่ง กับการ "รู้จัก" อะไรบางสิ่งจริงๆ นี่เองที่ทำให้เขากลายมาเป็นนักวิท ยาศาสตร์เอกของโลก เพราะเรียนรู้ของจริง ไม่ได้เรียนจำสมมุติ
          สังคมไทยเราวัดกันที่ความจำในสิ่งที่สมมุติ บังคับให้เด็กท่องจำตัวหนังสือแล้วมาสอบ ใครจำได้เยอะจำได้มาก ได้คะแนนมาก ก็เรียกว่าคนนี้ฉลาด ใครจำได้น้อย ทำคะแนนได้น้อย ก็ว่าคนนี้โง่ ขนาดไอน์สไตน์ตอนเด็กๆก็ถูกบังคับให้จำบทเรียนเหมือนกัน แต่เขาไม่เห็นด้วย เขาบอกว่าการเรียนอย่างนี้ไม่ใช่เรียนรู้จากความจริง แต่เป็นการเรียนรู้จากความจำ มันไม่มีประโยชน์อะไร เพราะไปเรียนความคิดของคนอื่น ไม่ใช่เรียนด้วยความคิดของตนเอง เวลานั้นไอน์สไตน์เลยถูกครูตัดสินว่าเป็นเด็กโง่ เขายอมโง่ในสายตาครู แต่สุดท้ายเขาก็กลายเป็นนักวิทยาศาสตร์เอกของโลก
          ความรู้ของเด็กไทยที่ยังสู้เขาไม่ได้ตอนนี้ก็เพราะสอนกันมาผิดๆ เพราะเรายังมัวแต่โง่ ค้นหาความโง่ ความฉลาด แต่ไม่เคยค้นหาความรู้ที่แท้จริง จึงล้าหลังอยู่ตลอดเวลา
          ผมว่านะ ตราบใดที่ทุกคนยังกินข้าวทางปาก โง่หรือฉลาดมันวัดกันไม่ได้
          เลิกเสียทีเถอะ
 pageview  1205837    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved