Follow us      
  
  

บ้านเมือง [ วันที่ 30/09/2557 ]
สู่วิถีอดีต...ชีวิตปลอดโรค
  กิตติ บุษปวนิช
          เนื้อหาที่กำลังจะพูดถึง คงไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรเพียงแต่ว่า น่าเป็นเรื่องที่จะทำความเข้าใจกันมากกว่าในจินตนาการหวนคืนสู่อดีต หากเป็นภาพยนตร์ คงต้องมีเนื้อเรื่องชวนให้ตามติดไม่น้อย ต้องเน้นกันที่อารมณ์ กดดันผู้ชมไม่ให้ลุกจากที่นั่งไปไหน
          การหวนคืนสู่อดีตของหมอใบไม้ ไม่ใช่อะไรที่ใช้จินตนาการ หนังหรือละครไม่ใช่เรื่องจริง แม้บางครั้งคราในละครหรือภาพยนตร์อาจมีเค้าโครงเรื่องจริง หรือบอกว่านำเรื่องจริงมาสร้าง ครั้นเมื่อเข้าสู่กระบวนการนี้ อะไรที่ว่าจริงก็อาจผิดเพี้ยนเบี่ยงเบนไปได้
          แต่กับเนื้อหาที่กำลังจะกล่าวถึง มิใช่จินตนาการ...ทุกถ้อยวลีคือความจริงด้วยความจริงในปัจจุบัน...ผู้ป่วยทั้งหมดที่มาพบหมอใบไม้ ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ป่วยซึ่งมีวิถีชีวิตดำเนินไปอย่างคนเมือง แม้หลายรายเข้าใจว่า เขาก็เป็นคนในต่างจังหวัด ทำไร่ ทำนา ทว่าก็ยังดูเป็นคนเมืองไปแล้ว จึงต้องหันมาทำความเข้าใจเพื่อให้หมดข้อกังขาว่าในยุคปัจจุบัน เราท่านต่างเปลี่ยนการดำเนินวิถีไปโดยไม่รู้ตัว
          มีคนไทยสักเท่าไรที่ไม่รู้จักกรุงเทพฯ ไม่เคยย่างเหยียบกรุงเทพฯ ครัวเรือนใดบ้างยังไม่มีทีวีดูใครบ้างไม่เคยเปิบส้มตำ หรือผัดกะเพราโลกเปลี่ยน สังคมไทยก็เปิด การเคลื่อนย้ายถ่ายเททางวัฒนธรรม และทุกสิ่งทุกอย่างมันวิ่งจากที่หนึ่งไปที่หนึ่งอย่างรวดเร็ว แม้แต่ไอ้ที่อยู่ไกลสุดฟ้าจากอีกโพ้นทะเล ยังมาถึงเมืองไทยดังลัดนิ้วมือ ส้มตำไทยหรือสลัดมะละกอ ก็หากินได้ทั่วทุกมุมโลกเช่นกัน
          เมื่ออะไรก็เปลี่ยน คนต้องปรับตัวเพื่อการอยู่รอด...ใช่ไหมเป็นการถามที่ไม่ต้องการคำตอบ เพราะคำตอบที่ได้คงไม่ต่างกัน...ใช่เลย คุณคงเชย คงเฉิ่ม ถ้าวันนี้ใช้คอมพิวเตอร์ไม่เป็น การเดินทาง ใครยังย่ำเท้าไปทำงาน หากบ้านคุณมิได้อยู่แค่สามเสาไฟ ก็คงเป็นมนุษย์ในโลกที่ล้นด้วยเทคโนโลยีไม่ได้...ขออีกสักหนึ่งคำถาม...ว่า...
          เราต่างสุขสบายดี มีสุขถ้วนทั่วกระนั้นหรือเปล่าเลย...ความสุขอยู่ที่ไหน ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครพอ ต่างตักตวงความสุขที่ได้มาโดยภาคอุตสาหกรรม จากการได้ซื้อ หลงในวังวนวัตถุนิยม เด็กเล็กมีมือถือ มีไอแพด ทั้งเด็ก-ผู้ใหญ่ไร้อีคิว ต่างเป็นพวกสังคมก้มหน้า อยู่ตรงไหนไม่ต้องไปสนใจผู้คนรอบข้าง ช้างม้าจะตื่นกูยืนกดปุ่มอย่างเดียว โจรมันจ้องมองกระเป๋า คิดจะฉกชิง หรือภยันตรายใดๆ ที่ใกล้ตัว คนกลุ่มนี้ย่อมไม่รับรู้
          สังคมไทยไม่ป่วย จะให้สรรเสริญว่ากระไรล่ะ?คงไม่มีใครยอมรับ หรือคิดว่าตนเองป่วย...หมอใบไม้ไม่ได้กล่าวหาใคร แต่งานวิจัยจากต่างแดน มองเห็นภาวะสังคมไทยเยี่ยงนั้นจริงๆ เด็กไทย สาวไทย หนุ่มไทย หรือแม้แต่แก่ๆ แต่เป็นคนไทย ใช้เทคโนโลยี ใช้คอมพิวเตอร์ไปในทางบันเทิง ไร้สาระเสียส่วนใหญ่ ไอ้ที่จะนั่งกดปุ่มเรื่องค้าๆ ขายๆ ดูอะไรที่เป็นประโยชน์จริงๆ ใช้อยู่นิดเดียว
          ชี้ชัด...คนไทยอยู่ในภาวะทางจิต ที่ยังไม่เชื่อว่าตนเองอยู่ในอาการนี้ช่างมัน ปล่อยมันไป ใครรู้ตัว บุญยังมีโรคนี้ก็ไม่เป็น เห็นพวกสังคมก้มหน้า ก็ช่วยกันปลง แล้วท่องคาถาไว้...กูไม่เอา...กูไม่เป็น...กูไม่อยากเห็น...กูไม่อยากได้
          แล้วใจกล้าเดินตามหมอใบไม้มา...วันนี้ผมมีเพื่อนร่วมอุดมการณ์เดียวกันมากขึ้นทุกวัน ก็ยังใช้คอมพิวเตอร์ มีโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกคน ต่างยอมรับถึงการเปลี่ยนไป แต่ทุกอย่างต้องอยู่กับความเหมาะสม คอมพิวเตอร์ไม่ได้มีไว้เพื่อดูหนังฟังเพลง เล่นเกมอย่างพร่ำเพรื่อ
          เราต้องมองสังคมไทยให้เห็นในเชิงสังเคราะห์แล้ว แค่วิเคราะห์ยังมองไม่ออก ถ้าพึ่งเครื่องจักรก็ต้องว่าถึงขั้นเอกซเรย์กันเลยทีเดียว...ใครว่าสังคมไทยไม่ป่วย มาเปิดเวทีเถียงกันให้พังไปข้างหนึ่งก็ได้
          ไม่อยากแรงในเรื่องนี้ แต่คงเลือกทางอื่นไม่ได้แล้ว ความเจ็บป่วยเป็นเงื่อนไขชีวิตที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่การเจ็บป่วยควรมีในภาวะเมื่อสูงวัย ไม่ควรป่วยก่อนวัยอันควร เทคโนโลยีเป็นสาเหตุความเจ็บป่วยหนึ่ง เมื่อเกือบ 70 ปี คนไทยเริ่มมีทีวีดู นี่คือจุดเริ่มต้นหายนะสุขภาพที่ไม่มีใครรู้ตัว เราเป็นสังคมเกษตรกรรม เสร็จจากไร่นา ต้องพักผ่อนนอนหลับเพราะต้องตื่นแต่เช้า เมื่อมีทีวีให้ดูใครๆ ก็นอนดึก
          การนอนดึกทำให้ระบบนาฬิกาชีวิตผิดเพี้ยน ถุงน้ำดีไม่ได้ย่อยไขมัน ตับไม่ได้ย่อยน้ำตาล...คนไทยจึงเป็นเบาหวานและความดัน รวมกันแล้ว ไม่น้อยกว่า 5 ล้านคน นี่คือหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต ที่เดินตามสังคมเมือง
          ยังมี...มะเร็ง หัวใจ โรคทางสมองอีก...ฯลฯ คนบ้านนอกท้องนาไกลปืนเที่ยงแต่ก่อน วันนี้ คนเมืองเป็นอะไร เขาเป็นด้วย ร่วมด้วยช่วยกันป่วยทั้งประเทศ เพราะเสพเทคโนโลยีเหมือนกัน กินอาหารไม่ต่างกัน ร้ายเหลือยิ่งกว่านั้น...คนไทยโดนรุกรานทางวัฒนธรรมการกิน เด็กรุ่นใหม่แทบสิ้นภูมิปัญญาในเรื่องนี้แล้ว
          เด็กไม่ยอมกินผักทั้งผัก และอาหารอื่นๆ ล้วนปนเปื้อนคนรักสุขภาพจริงจัง อาจอยู่ในภาวะอดตาย ถ้าอะไรก็กินไม่ได้เพราะมันไม่สะอาดทางออกยังมี...คงไม่ถึงกับหลังพิงฝา ยืนเผชิญหน้ามีหมาบ้าแยกเขี้ยวใส่ให้ขาสั่น หมอใบไม้...กับเพื่อนร่วมน้ำสาบาน อุดมการณ์เดียวกัน เจอหนทางรอดแล้ว พวกกินผัก รักสุขภาพคงไม่ต้องเครียดกับปัญหานี้ หนทางนี้ไปไม่ยากหากต้องการเดิน
          ต้อง...ย้อน หวนทวนกระแส สู่อดีตให้ได้มากที่สุดเรา...เพื่อนร่วมน้ำสาบาน ในอุดมการณ์เดียวกัน กำลังเดินหน้าเรื่องนี้จริงจังเรา...ได้รังสรรค์นิคมสร้างเสริมสุขภาพตนเอง...ขึ้นมาแล้วอยู่จังหวัดราชบุรี ที่นี่จะเป็นศูนย์การเรียนรู้ในภูมิปัญญาไทยดั้งเดิม อาจจะได้ไม่หมดทุกเม็ด แต่ขอโม้หน่อยว่า มันสมบูรณ์แบบที่สุดในประเทศไทย หรือในโลกนี้แน่นอน
          เพราะรู้ดีว่า การกลับสู่อ้อมอกธรรมชาติ ได้มากเท่าไร...ความเจ็บป่วยยิ่งห่างเราเท่านั้นนิคมสร้างเสริมสุขภาพตนเองของเรา มีหน้าตาเป็นชุมชนที่คนโบราณอยู่ ย้อนกลับไปเกือบ 100 ปี มีบางอย่างในส่วนที่น้อยนิดมากของปัจจุบันที่ถูกนำมาเสริมเติมเต็ม เพื่อให้มีความคล่องตัวและความปลอดภัย
          แนวความคิดนั้นชัดเจน ต้องสร้างคลังอาหาร คลังยา...เป้าหมายไม่เบี่ยงเบน คือชีวิตที่พอเพียงอย่างเพียงพอ ไม่รอความช่วยเหลือจากใคร ต้องยืนอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี พึ่งพาอดีตวิถี มีภูมิปัญญาบรรพชนเป็นแนวทางปฏิบัติ...เราทำนา ปลูกผักกินเอง จึงไม่ต้องหวั่นเกรงว่าวันหน้าจะอดหรือหิว
          อาหารและยาที่มาจากธรรมชาติด้วยสองมือเรา มั่นใจได้ในความสะอาด ปราศจากการปนเปื้อนใดๆ ตักเข้าปาก กลืนลงท้องได้อย่างสนิทใจ
          ที่นี่ถูกออกแบบให้เป็นแหล่งเรียนรู้ เพื่อพาท่านกลับสู่โลกแห่งอดีตอย่างสร้างสรรค์และเข้าใจ...ไม่สร้างภาพ ที่เห็นล้วนแล้วคือความจริง เราคงไม่ต้องการให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว หรือหากจะเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ขอให้มีคุณค่า มีมรดกทางภูมิปัญญาไทย เพื่อการอนุรักษ์ไว้อย่างยั่งยืน...เราก่อร่างสร้างที่นี่เป็นงานบุญ ให้ช่วยกันบริจาค มากน้อยตามกำลัง หากต้องการแทนคุณแผ่นดิน เชิญ...หากท่านพร้อม...คิดอะไรเหมือนกัน...อาจจะบ้าเหมือนกันก็ได้
          ฉบับหน้ายังมีต่อ ทั้งเชิงลึก เชิงลับ...ทำไมต้องกินอาหารไทย อาหารไทยเป็นยาได้อย่างไร...ลักษณะของเรือนไทย มีพลังชีวิต ที่คนจีนเรียกว่าชี่ และฝรั่งเรียกออร่า...จริงหรือ เหล่านี้มันมีผลต่อการดำเนินชีวิต ให้เราดี หรือทำให้เราป่วยได้...? หมอใบไม้มีคำตอบ (อย่างเป็นวิทยาศาสตร์)...08-5151-8844
 pageview  1205016    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved