Follow us      
  
  

บ้านเมือง [ วันที่ 19/11/2556 ]
ประโยชน์ 'นมแม่' เสริมสร้างไอคิว-อีคิว-ประหยัดค่าใช้จ่าย
  "จากการจัดเก็บข้อมูลในกลุ่มหญิงหลังคลอดจำนวน 830 รายใน 5 จังหวัด พบว่าการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวเป็นเวลา 6 เดือน ช่วยให้ครัวเรือนประหยัดค่าใช้จ่าย 6,616.24 บาท หรือราว 1,100 บาทต่อเดือน และเมื่อคำนวณค่าใช้จ่ายในภาพรวมของประเทศ ซึ่งตัวเลขล่าสุดจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ เมื่อปี 2555 ประเทศไทยมีเด็กเกิดใหม่ 7.6 แสนคนต่อปี มีร้อยละ 71 ของเด็กทารกเกิดใหม่ได้รับนมแม่อย่างเดียวเป็นระยะเวลา 3 เดือน และร้อยละ 38 ของทารกได้รับนมแม่อย่างเดียวจนถึง 6 เดือน ซึ่งเท่ากับว่า ครัวเรือนไทยจะสามารถประหยัดรายจ่ายได้มากกว่า 1.8 พันล้านบาทต่อปี หากมีการสนับสนุนให้เด็กทุกคน ยกเว้นมารดาที่ติดเชื้อเอชไอวีให้ได้รับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวครบ 6 เดือน"
          "นพ.ภูษิต ประคองสาย" ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ปัจจุบันสำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศกำลังอยู่ในระหว่างการศึกษา ข้อมูลความเกี่ยวข้องของประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่ได้รับจากการเลี้ยงลูกด้วยนม แม่ในประเทศไทย เพื่อเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ให้กับผู้กำหนดนโยบายและผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคาดว่าผลการวิจัยจะดำเนินการแล้วเสร็จ ภายในต้นปี 2557 โดยผลของการวิจัยจะช่วยให้เกิดความชัดเจนในระดับมหภาคซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อ การกำหนดทิศทางเชิงนโยบายในการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ต่อไปในอนาคต
          แม้หญิงไทยหลังคลอดส่วนใหญ่จะเห็นความสำคัญและประโยชน์ของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และถึงจะมี พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2521 ที่กำหนดสิทธิ์การลาคลอดไว้ถึง 90 วัน แต่ในทางปฏิบัติแล้วมารดาจะใช้สิทธิ์ลาคลอดน้อยกว่าระยะเวลาดังกล่าวเนื่อง จากเหตุผลทางเศรษฐกิจและความจำเป็นด้านการทำงาน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าสังคมไทยได้ผลักภาระให้แม่และครอบครัวเป็นผู้รับผิดชอบ ทั้งที่ประโยชน์จากการกินนมแม่ไม่ได้เกิดเฉพาะกับเด็กและครอบครัว แต่สังคมและประเทศชาติก็จะได้รับประโยชน์จากการมีทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ
          ดังนั้นทุกภาคส่วนในสังคมไทยทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมควรร่วมสนับสนุนให้เกิดการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเหมาะสม ผ่านการส่งเสริมมุมนมแม่ในสถานที่ทำงาน ให้แม่ทำงานสามารถเก็บน้ำนมกลับไปให้ลูกที่บ้านได้ รวมถึงการขยายระยะเวลาลาคลอดจาก 90 วันเป็น 180 วัน ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี พ.ศ.2554 ที่พบว่าการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ช่วยให้ประเทศสหรัฐประหยัดงบประมาณด้านสาธารณสุขที่ต้องใช้เพื่อการรักษาอาการเจ็บป่วยของเด็กในแต่ละปีได้ถึง 1.1 แสนล้านบาท ลดความสูญเสียจากการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรของเด็กที่คิดเป็นมูลค่ากว่า 30.3 พันล้านบาท ลดค่าใช่จ่ายเพื่อการซื้อนมผง 1.17 แสนล้านบาท รวมทั้งค่าใช้จ่ายด้านอาหารเสริมสำหรับแม่หลังคลอด 4.8-6.3 หมื่นล้านบาท ที่สำคัญยังช่วยแก้ปัญหาโรคอ้วนในเด็กซึ่งจะส่งผลไปจนโต โดยในปัจจุบันสหรัฐ ใช้งบประมาณเพื่อดูแลพลเมืองที่เจ็บป่วยจากโรคอ้วนสูงถึง 4.4 ล้านล้านบาทต่อปี
          ในขณะที่ประเทศออสเตรเลีย พบว่าเมื่อมีการรณรงค์ให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่มากขึ้น ทำให้ประเทศประหยัดค่าใช้จ่ายประมาณ 6.6 หมื่นล้านบาท และในประเทศอังกฤษ ทารกที่กินผลิตภัณฑ์นมผสมอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มมากกว่าทารกที่กินนมแม่ เนื่องจากทารกที่กินนมผสมต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลมากกว่าทารกที่กินนมแม่อย่างเดียวอย่างน้อย 3 เดือน ถึง 2 เท่า
          "จากข้อมูลของสหรัฐอเมริกาแสดงให้เห็นว่า การกินนมแม่ทำให้เด็กเจ็บป่วยด้วยโรคที่ป้องกันได้ลดลง เช่น การติดเชื้อทางเดินหายใจ ภาวะน้ำหนักเกิน และแม่เองก็มีสุขภาพที่ดีกว่าด้วย
          ดังนั้นการกินนมแม่นอกจากช่วยสร้างภูมิคุ้มกันทำให้เด็กมีสุขภาพดี มีการเจ็บป่วยน้อยลงซึ่งจะส่งผลจนถึงวัยผู้ใหญ่แล้ว ยังทำให้เด็กเติบโตมีไอคิวและอีคิวสูง ประเทศชาติจะได้ประโยชน์จากการมีประชากรที่มีสติปัญญาดี และสุขภาพแข็งแรง" น.พ.ภูษิต กล่าวสรุป
 pageview  1205867    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved