Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์แนวหน้า [ วันที่ 05/10/2560 ]
พบคนไทยมีภาวะหัวใจล้มเหลวเพิ่มขึ้น แพทย์แนะลดพฤติกรรมเสี่ยง

เพื่อรณรงค์ให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญในการรับรู้ข้อมูล การสังเกตสัญญาณเตือน และการปฏิบัติตัวใน การดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจ บริษัท โนวาร์ตีส (ประเทศไทย) จำกัด จึงได้จัดกิจกรรมพิเศษ Heart Failure Awareness เนื่องในวันหัวใจโลก 2560 ซึ่งตรงกับวันที่ 29 กันยายนของทุกปี
          ภญ.ดร. อิษยา สุขารมณ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายส่งเสริมการเข้าถึงยา ฝ่ายนโยบายด้านรัฐกิจสัมพันธ์ และฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัทโนวาร์ตีส (ประเทศไทย) จำกัดเปิดเผยว่า ภาวะหัวใจล้มเหลวเป็นภัยเงียบ ที่คนไทยน้อยคนจะรู้ตัวและรักษาได้ทันท่วงที อีกทั้งยังมีแนวโน้มที่สูงขึ้นทั่วโลก ปัจจุบัน มีประชากรทั่วโลกป่วยด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวประมาณ 26 ล้านคน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 46% ภายในปี 2573 และมีข้อมูลว่าคน ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี 1 ใน 5 คนมีโอกาสเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต สำหรับประเทศไทยแม้จะยังไม่มีข้อมูลระบุความชุกสำหรับประชากรไทย แต่จากการเก็บข้อมูลผู้ป่วยที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ด้วยภาวะหัวใจล้มเหลว พบว่าผู้ป่วยชาวไทยมีอายุเฉลี่ยที่ต่ำกว่าและมากกว่าผู้ป่วยในยุโรปและอเมริกาตามลำดับ และจากข้อมูลในประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียพบว่าแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของภาวะหัวใจล้มเหลวเป็นไปในทิศทางเดียวกับโรคหัวใจและหลอดเลือดอื่นๆ
          ดังนั้นการให้ความรู้ต่อประชาชน เพื่อลดความเสี่ยง จึงมีความสำคัญอย่างมาก ภาวะหัวใจล้มเหลวทำให้ร่างกายอ่อนแอ ทำให้มีโอกาสเกิดอาการที่ทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ เนื่องจากหัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงทั่วร่างกายได้อย่างเพียงพอ สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการที่กล้ามเนื้อหัวใจซึ่งทำหน้าที่การสูบฉีดเลือดนั้นอ่อนแรงลงหรือมีการแข็งตัวของกล้ามเนื้อเป็นเวลานาน ภาวะหัวใจ ล้มเหลวมีผลกระทบโดยตรงต่อผู้ป่วยรวมทั้งยังทำให้เกิดภาระต่อผู้ที่ให้การดูแลผู้ป่วยอีกด้วย การรักษาภาวะหัวใจล้มเหลวในปัจจุบันยัง ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ จึงเป็นสาเหตุการตายประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยภายในเวลา 5 ปี หลังได้รับการวินิจฉัย ปัจจุบันการรักษาจะมุ่งเน้นไปที่การจัดการเพื่อไม่ให้อาการแย่ลง ทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลดอัตราการตายและภาวะแทรกซ้อน
          ทั้งนี้ ภาวะหัวใจล้มเหลวเป็นสาเหตุให้เกิดการตายได้มากถึง 2-3 เท่าของโรคมะเร็งระยะรุนแรง เช่น มะเร็งเต้านมและมะเร็งลำไส้ นับเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งที่ทำให้ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปีมีผลทำให้ค่าใช้จ่ายทางสุขภาพสูงขึ้นซึ่งส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกมากถึง 108 พันล้านเหรียญสหรัฐในทุกๆ ปี
          ทางบริษัทจึงได้จัดกิจกรรมพิเศษโครงการ Every Beat Matters ภายใต้แคมเปญ Heart Failure Awareness เนื่องในวันหัวใจโลก 2560 ซึ่งตรงกับวันที่ 29 กันยายนของทุกปี เพื่อจุดประกายร่วมรณรงค์ให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญในการรับรู้ข้อมูล การสังเกตสัญญาณเตือน และการปฏิบัติตัวในการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจ รวมถึงภาวะหัวใจ ล้มเหลว จึงเป็นที่มาของโครงการ Every Beat Matters สื่อสร้างสรรค์ ในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคหัวใจและภาวะหัวใจล้มเหลว ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็น Website, Facebook หรือ YouTube
          นอกจากการเปิดตัว สื่อในโครงการ Every Beat Matters แล้ว ภายในงานยังได้มี การแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นจากแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ ในเรื่องแนวทางการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจ และภาวะหัวใจ ล้มเหลว โดยได้รับเกียรติจาก รศ.นพ.ถาวร สุทธิไชยากุล นายกสมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์, ศ.นพ. รุ่งโรจน์ กฤตยพงษ์, ประธานชมรมหัวใจล้มเหลว แห่งประเทศไทย, ผศ.ศริญญา ภูวนันท์ อายุรศาสตร์ หัวใจ ศูนย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และอาจารย์ นพ.ธีรภัทร ยิ่งชนม์เจริญ หน่วยโรคหัวใจ ภาควิชาอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี
          โดย รศ.นพ.ถาวร สุทธิไชยากุลนายกสมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า ภาวะหัวใจ ล้มเหลวในปัจจุบันนั้น สาเหตุที่พบบ่อยเกิดจากโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน หรือโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด โรคหัวใจที่เกิดจากความดัน โลหิตสูง ทั้งนี้มาจากพฤติกรรมการบริโภค ที่ทำให้เกิดปัจจัยเสี่ยง เช่น การบริโภคไขมันในปริมาณมากเกินไป การไม่ออกกำลังกายส่งผลให้ระดับไขมันในเลือดสูง ทำให้ร่างกายอ่อนแอ และมีโอกาสเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ เนื่องจากหัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงทั่วร่างกายได้อย่างเพียงพอ กล้ามเนื้อหัวใจ ซึ่งทำหน้าที่ในการสูบฉีดเลือดนั้นอ่อนแรงลง หรือมีการแข็งตัวของกล้ามเนื้อเป็นเวลานาน ซึ่งจำนวนผู้ป่วยในประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นทุกปี ส่วนในเรื่องของการรักษานั้น ก็มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ส่วนสำคัญที่สุดนอกจากการเข้ารับการตรวจรักษากับแพทย์เป็นประจำ การรับประทานยาสม่ำเสมอแล้ว ผู้ป่วยและญาติคือผู้มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการที่จะทำให้อาการของผู้ป่วยจากภาวะหัวใจล้มเหลวดีขึ้นเป็นอย่างมาก และลดผลกระทบ ต่อตัวผู้ป่วยและครอบครัวในระยะยาว จึงจำเป็นต้องเพิ่มความตระหนักรู้เกี่ยวกับภาวะหัวใจล้มเหลวและอาการต่างๆ ซึ่งอาจจะช่วยผู้ป่วยจัดการกับอาการต่างๆได้ดีขึ้น และเพื่อลดภาวะหัวใจล้มเหลวซึ่งเป็นผลลัพธ์ระยะสุดท้ายของโรคหัวใจเกือบทุกชนิด
          ทั้งนี้ ทุกคนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Every Beat Matters ได้ โดยสามารถเข้าไปดูข้อมูลที่เว็บไซต์ของโครงการ www.everybeatmatters.in.th, เฟซบุ๊ค https://www.facebook.com.in.th และ ยูทูป https:// www.youtube.com/everybeatmatters

 pageview  1205016    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved