|
หนังสือพิมพ์แนวหน้า [ วันที่ 16/05/2560 ] |
|
|
|
|
'วิษณุ'แย้มมีทางออกแก้ปมพยาบาลขู่ไขก๊อก |
|
|
|
|
"วิษณุ" เผย มีทางออกในใจแล้วปมพยาบาลขอเป็นขรก. แต่ขอรอฟังการหารือของสธ.-ก.พ.ก่อน รับ ไม่งดงาม ข่มขู่ลาออกแบบนี้ ด้าน ปลัด สธ.พร้อมแจงข้อมูลหารือ รองนายกฯ กับ ก.พ. ยืนยันขาดพยาบาลอีก 8,532 ตำแหน่ง ยังคงเดินหน้า ขออัตรากำลังเดิม
เมื่อเวลา 09.00 น. ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการนัดหมายตัวแทนสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) สำนักงานกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)พูดคุย เพื่อหาทางออกกรณีพยาบาลวิชาชีพขู่ลาออกหากรัฐบาลไม่บรรจุให้เป็นข้าราชการว่า ได้มีการนัดหมายเพื่อพูดคุยกันแล้ว แต่ยังไม่ทราบว่า จะพูดคุยที่ใด โดยวันนี้ 3 ฝ่าย คือ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข, เลขาธิการ ก.พ. และ ก.พ.ร จะพูดคุยทำความเข้าใจกันเบื้องต้น ก่อนเชิญตัวแทนพยาบาลวิชาชีพเข้าหารือร่วมกัน จากนั้น ทั้งหมดจะเข้ามาร่วมหารือกับตน แต่จะได้ข้อสรุปหรือไม่ ยังไม่ทราบและยังไม่ทราบว่าต้องนำเรื่องนี้เข้ารายงานที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 16 พฤษภาคมหรือไม่ เพราะต้องดูก่อนว่าเกี่ยวข้องกับ ครม.หรือไม่
"ผมเห็นใจกระทรวงสาธารณสุขนะเพราะบุคลากรมีมากซึ่งคล้ายกับกระทรวงศึกษาธิการ แต่กระทรวงศึกษาฯนั้นมีระบบของเขาอีกระบบหนึ่ง ส่วนกระทรวงสาธารณสุขจะมีปัญหาทั้งหมอ พยาบาล เภสัช ทันตแพทย์ซึ่งแต่ละหน่วยพอไปเจอ มติครม.ตั้งแต่ 10-20 ปีก่อน ที่ให้ตรึงอัตรากำลังไว้ ไม่ให้เพิ่มจึงทำให้กระทบ ซึ่งรัฐบาลก็พยายามผ่องถ่ายให้เป็นพนักงานราชการก่อนแต่พอเป็นไปได้ ระยะหนึ่งก็จะร้องเรียนขอกลับมาเป็นข้าราชการอีกจึงทำให้กระทบ" นายวิษณุ กล่าว
นายวิษณุกล่าวอีกว่า ตั้งแต่ปี 2547 ประเทศไทย สามารถตรึงอัตรากำลังข้าราชการไว้ได้ที่ 4 แสนคนเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ หลักคิดของรัฐบาล คือ ไม่อยากให้เพิ่มไปมากกว่านี้เมื่อนำหลักคิดนี้ไปใช้กับกระทรวงสาธารณสุขทำให้มีปัญหาเพราะเวลาที่ขอเพิ่มนั้นจะขอจำนวนหลายหมื่นอัตรา รัฐบาลยอมรับว่าบุคลากรเหล่านี้ มีความจำเป็น แต่ไม่ได้มีแต่ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น ยังมีกระทรวงศึกษาฯ คณะแพทยศาสตร์และพยาบาล เมื่อจบมา ก็เป็นพนักงานราชการเหมือนกัน เวลาคิดระบบ จะต้องมองทั้งประเทศ หากให้หมอและพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขเป็น ข้าราชการแล้วหมอ พยาบาล เภสัช ทันตแพทย์ ในสังกัดกระทรวงศึกษาฯจะทำอย่างไร เรื่องนี้ ยังให้คำตอบไม่ได้ ต้องคิดหลายอย่าง เพราะระบบการแพทย์ของไทย มี 2 สังกัด คือ กระทรวงสาธารณสุขกับกระทรวงศึกษาฯ
บ่ายวันเดียวกัน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ก่อนไปเป็นประธานประชุม คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ถึงข้อเรียกร้องของกลุ่มพยาบาลที่ต้องการให้บรรจุเป็นข้าราชการว่า คงจะมีโอกาสพบกับเลขาธิการก.พ.คงได้พูดคุยถึงผลการหารือระหว่างก.พ. ก.พ.ร.และกระทรวงสาธารณสุข ได้ข้อสรุปหรือไม่ หากได้ข้อสรุป คงได้หารือกันเลย หากยังไม่ได้ข้อสรุปเบื้องต้น ได้นัดหน่วยงานดังกล่าวหารือ หลังประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 16 พฤษภาคม
"ผมจะไม่เป็นคนไปพูดคุยกับกลุ่มพยาบาลวิชาชีพ แต่จะให้เป็นหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุข ส่วนตัวมีทางออกอยู่ในใจ แล้ว พยายามคิดว่าทำอย่างไร ที่จะแก้ปัญหานี้ ให้ได้อย่างยั่งยืน และคิดว่าคงไม่งดงามนักที่จะมาขู่กันแบบนี้ ยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาจริง และเป็นมาทุกยุคทุกสมัย"นายวิษณุ กล่าว
วันเดียวกัน นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับตัวแทนจากสำนักการพยาบาล กลุ่มงานบริหารงานบุคคล สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาการบรรจุพยาบาลวิชาชีพ นานกว่า 1 ชั่วโมงว่า เบื้องต้นได้ข้อสรุปที่จะนำเสนอต่อการประชุมร่วมระหว่าง นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี โดยยืนยันว่า กระทรวงสาธารณสุขกำลังพยายามเร่งแก้ไขปัญหา หากปล่อยให้มีการลาออกของพยาบาลจริง ย่อมกระทบต่อระบบสาธารณสุขและการให้บริการ ซึ่งต้องยอมรับว่าพยาบาลทำงานหนัก รับผิดชอบหลายอย่าง การดึงคนให้อยู่ในระบบไว้ ยังคงต้องใช้ระบบข้าราชการ และสวัสดิการหรือการจ้างงานอย่างอื่นที่จูงใจ
"โดยการสำรวจอัตรากำลัง พบว่า ยังมี ตำแหน่งอัตราของพยาบาลวิชาชีพ ขาดอีกถึง 8,532 ตำแหน่ง ขณะเดียวกัน สัดส่วนของตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพที่สามารถบรรจุได้เลยทันทีภายใน 1-2 เดือน มีแค่ 1,200 อัตราและหากสามารถเกลี่ยขั้นตำแหน่ง (ซี) รวมถึง การสำรวจอัตราการแทนตำแหน่งว่างจากการลาออก ก็จะสามารถบรรจุเพิ่มอีก 1,000 ตำแหน่ง" ปลัดกระทรวง สธ.ย้ำ
พร้อมยืนยันว่าไม่สามารถทำได้ ตามแนวทาง ที่รองนายกรัฐมนตรีเสนอให้เกลี่ยตำแหน่งจากสายวิชาชีพอื่นเข้ามาเพื่อทดแทนตำแหน่งของพยาบาลวิชาชีพที่ขาด ยืนยัน เพราะเป็นคนละวิชาชีพกัน อีกทั้ง อัตราตำแหน่งก็ไม่เหมือนกัน เช่น ทันตภิบาล เภสัชกร แพทย์ ซึ่งกลุ่มวิชาชีพเหล่านี้ ไม่สามารถนำมาจัดสรรรวมได้
ทั้งนี้ อัตรากำลังที่กระทรวงสาธารณสุข ไปขอกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) และคณะกรรมการกำหนด เป้าหมายและกำลังพลภาครัฐ (คปร.)คงจะ ไม่พ้นตัวเลขเดิมที่ 10,992 อัตรา โดยการบรรจุนี้จะครอบคลุมอัตรากำลังยาวไปถึง ปี 2564 ไม่ต้องขอเพิ่มอัตรากำลังเพิ่มอีก |
| | |
|
|