ศาสตราจารย์นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ในการประชุมสมัชชาอนามัยโลก ครั้งที่ 68 ประจำปี 2558 ที่นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ระหว่างวันที่ 18-22 พฤษภาคม 2558 ในฐานะ ตัวแทนประเทศไทย ได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับ 6 ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ประกอบด้วย จีน พม่า ลาว ไทย กัมพูชา และ เวียดนาม เพื่อร่วมมือในการเฝ้าระวังโรคระบาด ซึ่งเป็นภัยคุกคามมีผลกระทบต่อประชาชน เศรษฐกิจและความมั่นคง ทั้งในประเทศ และระหว่างประเทศ ที่มีพรมแดนติดต่อกัน ปัญหาโรคระบาดที่ผ่านมาที่พบในภูมิภาคนี้ เช่น โรคซาร์ส โรคไข้หวัดนก เป็นต้น การลงนามครั้งนี้จึงเป็นการเสริมสร้างศักยภาพ ภายในประเทศและระดับภูมิภาค ในการป้องกันโรคระบาดที่มีอันตรายให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยจะให้ความสำคัญกับโรคที่มีปัญหามากในภูมิภาคนี้คือ เอดส์ กาฬโรค วัณโรค มาลาเรีย อหิวาตกโรค โรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน โรคพิษสุนัขบ้า รวมถึงโรค ระบาด โรคซาร์ส โรคไข้หวัดนก สายพันธุ์เอช 5 เอ็น 1 (H5N1) และสายพันธุ์เอช 1 เอ็น 1 (H1N1)
ตามข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้ จะเป็น กลไกประสานการทำงานระหว่างประเทศและในระดับท้องถิ่น ทั้งในด้านการส่งเสริมการทำงานด้านสุขภาพของอาเซียน การเฝ้าระวัง และเตรียมความพร้อมรับมือกับโรคระบาดใหม่ เช่น อีโบลา, โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่หรือ เมิร์ส โควี (MERS-CoV) และโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ รวมถึงการผสมผสานสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพแบบหนึ่งเดียว (One Health) ทั้งในคน สัตว์ และสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ เครือข่ายความร่วมมือเฝ้าระวังโรคลุ่มแม่น้ำโขงหรือเอ็มบีดีเอส (Mekong Basin Disease Surveillance : MBDS) เกิดขึ้นจากความเห็นพ้องร่วมกัน ในกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขงที่ตระหนักถึง ภัยคุกคามโรคระบาด และผลกระทบต่อประชาชน เศรษฐกิจและความมั่นคง โดยเฉพาะ ประเทศที่มีพรมแดนติดต่อกัน ซึ่งที่ผ่านมาขาดกลไกความร่วมมือ การพัฒนาที่ไปในทิศทางเดียวกัน ไทยจึงได้ร่วมกับ จีน และลาว ริเริ่มให้มีการจัดตั้งเครือข่ายเอ็มบีดีเอส ผ่านการหารือเวทีนานาชาติในที่ประชุมสมัชชาอนามัยโลก และที่สุดได้ก่อตั้งเป็นเครือข่ายแรกของโลกในการเฝ้าระวังโรค ระบาด โดยมีมติร่วมกัน 6 ประเทศตั้งแต่ ปี 2544 ที่ยูนนาน