น.ส.เสริมสุข สลักเพ็ชร์ ผู้อำนวยการ สำนักวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร กรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า สืบเนื่องจากสำนักงานที่ปรึกษาการ เกษตรต่างประเทศประจำกรุงโตเกียว รายงานว่า ญี่ปุ่นตรวจพบสารเคมีตกค้างเกินค่ามาตรฐานในสินค้าหน่อไม้ฝรั่งของผู้ส่งออกที่ขึ้นทะเบียนภายใต้มาตรการ Control Measure ของกรมวิชาการเกษตร
เบื้องต้นกรมวิชาการเกษตรได้ร่วมหารือกับผู้ส่งออกที่ขึ้นทะเบียนในโครงการ Control Measure กว่า 50-60 ราย และผู้ส่งออกสินค้าพืชผักและผลไม้ไปญี่ปุ่นที่อยู่นอกโครงการ เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์ระหว่างกัน พร้อมตรวจสอบ สาเหตุและแหล่งที่มาของปัญหา พบว่า การปนเปื้อนสารเคมีในสินค้าหน่อไม้ฝรั่งของ ผู้ส่งออกภายใต้มาตรการ Control Measure 1 ราย เกิดจากการที่แปลงเกษตรกรข้างเคียงซึ่งปลูกพืชไร่ใช้สารเคมีไม่ระมัดระวัง ไม่มีแนว ป้องกันระหว่างแปลง และลมได้พัดพาสารเคมี มายังแปลงเกษตรกรเครือข่ายผู้ส่งออกดังกล่าว ทำให้เกิดการปนเปื้อนในผลผลิต
"ผู้ส่งออกในโครงการ Control Measure ที่ถูกแจ้งเตือนจากญี่ปุ่นว่ามี สารเคมีปนเปื้อนสินค้าเกินค่ามาตรฐาน จะถูกกรมวิชาการเกษตรปลดจากทะเบียน Control Measure เป็นการชั่วคราว ซึ่งยังสามารถส่งออกสินค้าไปญี่ปุ่นได้ปกติ แต่ใช้สิทธิ์ในโครงการ Control Measure ไม่ได้ จนกว่าจะปรับปรุงแก้ไขระบบการผลิตให้ดีขึ้นและเป็นไปตามเงื่อนไขของ โครงการ เช่น จัดทำแนวป้องกันระหว่างแปลงข้างเคียง หรือตรวจสอบคุณภาพสินค้าในโรงคัดบรรจุอย่างเข้มงวดก่อนส่งออก และต้องยื่นสมัครเข้าร่วมโครงการใหม่ ซึ่งจะถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวด" ผอ.สำนักวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตรกล่าว
น.ส.เสริมสุข กล่าวอีกว่า โครงการ Control Measure ของกรมวิชาการเกษตรได้รับการยอมรับจากกระทรวงสาธารณสุขแรงงานและสวัสดิการของประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งเป็นที่ยอมรับของผู้ประกอบการและผู้ส่งออกของไทยด้วย เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการจัดการระบบผลิตสินค้าที่มีศักยภาพสูง ทั้งมะม่วง มังคุด กล้วยสด หน่อไม้ฝรั่ง กระเจี๊ยบเขียว ผักและสมุนไพร ที่สำคัญยังช่วยประหยัดต้นทุนให้กับผู้ส่งออกได้ค่อนข้างมาก เพราะสินค้าภายใต้โครงการ Control Measure จะได้รับการยกเว้นการกักตรวจที่ด่านนำเข้าปลายทาง ทำให้การค้าเกิดความคล่องตัวและสินค้าไปสู่ตลาดและ ผู้บริโภคในญี่ปุ่นเร็วด้วย
|