บุรีรัมย์ติดอีก277รายปราจีนบุรีป่วย202คนผู้ว่าประจวบฯสั่งปิดหมู่บ้านเชื้อโควิดลาม
          โควิดทั่วไทย ยังหนัก กทม.ติดเชื้อนำโด่ง สมุทรสาครป่วยพุ่ง 1,499 คน ชลบุรี พบรายใหม่ 1,092 คน บุรีรัมย์ ติดเชื้ออีก 277 คน ขณะที่ปราจีนบุรีป่วย 202 ราย ด้าน ผวจ.ประจวบฯ สั่งปิดหมู่บ้านป่าละอูบน สกัดแพร่ระบาด ส่วน อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เจ้าหน้าที่เร่งตัดวงจรโควิด กั้นจุดเสี่ยง- ตั้งคลังอาหารช่วยเหลือ
          เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว ว่าจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อในประเทศรายใหม่สูงสุด 10 อันดับ ได้แก่ 1.กรุงเทพมหานคร (กทม.) 4,399 ราย ยอดสะสม 243,341 ราย 2.สมุทรสาคร 1,499 ราย ยอดสะสม 64,763 ราย 3.ชลบุรี 1,092 ราย ยอดสะสม 54,412 ราย 4.สมุทรปราการ 749 ราย ยอดสะสม 66,673 ราย 5.นนทบุรี 690 ราย ยอดสะสม 39,604 ราย 6.นครปฐม 638 ราย ยอดสะสม 23,350 ราย 7.ราชบุรี 560 ราย ยอดสะสม 12,701 ราย 8.ฉะเชิงเทรา 488 ราย ยอดสะสม 20,167 ราย 9.นครราชสีมา 484 ราย ยอดสะสม 14,241 ราย และ 10.สระบุรี 390 ราย ยอดสะสม 15,991 ราย
          สมุทรสาครป่วยพุ่ง1,499คน
          ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ใน จ.สมุทรสาคร จากข้อมูลสำนักงานสาธารณสุข จ.สมุทรสาคร พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,499 ราย จำแนกเป็นผู้ติดเชื้อจากค้นหาเชิงรุก 180 ราย และผู้ที่เข้ารับการตรวจในโรงพยาบาล 1,319 ราย ซึ่งในจำนวนนี้เป็นผู้ที่อยู่ใน จ.สมุทรสาคร 1,157 ราย ที่เหลือเป็น ผู้ที่อยู่นอกจังหวัด 162 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อ สะสมรวม 82,651 ราย รักษาหายแล้วรวม 56,078 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัว 26,153 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 17 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 420 ราย
          นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผวจ.สมุทรสาคร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค ส่วนตัว ระบุว่า ถ้าตัวเลขผู้ติดเชื้อต่ำกว่า 1,000 รายต่อวัน จะขอให้เปิดร้านตัดผมก่อนเป็นอันดับแรก
          ชลบุรีติดเชื้อเพิ่มอีก1,092ราย
          ขณะเดียวกัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด จ.ชลบุรี รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 1,092 ราย ทำให้มียอดสะสม 54,421 ราย กำลังรักษาตัวอยู่ 19,929 ราย หายป่วยแล้ว 34,195 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย ยอดสะสมผู้เสียชีวิต 297 ราย พบผู้ติดเชื้อมากสุดที่ อ.ศรีราชา 381 ราย อ.เมือง 198 ราย อ.บางละมุง 180 ราย อ.บ้านบึง 49 ราย อ.พานทอง 55 ราย อ.สัตหีบ 60 ราย อ.พนัสนิคม 55 ราย อ.บ่อทอง 19 ราย อ.เกาะจันทร์ 19 ราย และ อ.หนองใหญ่ 10 ราย
          บุรีรัมย์พบผู้ป่วยใหม่277คน
          ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน สำนักงานสาธารณสุข จ.บุรีรัมย์ รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 277 ราย แยกเป็น ผู้ติดเชื้อพบในพื้นที่จังหวัด 15 ราย ติดเชื้อจากนอกพื้นที่ 262 ราย โดยแยกเป็นติดเชื้อจากจังหวัดเสี่ยง 100 ราย และติดเชื้อจากจังหวัดเสี่ยง(พบก่อนเข้าสถานกักกันตัว) LQ 162 ราย รวมยอดสะสม 11,940 ราย เสียชีวิตสะสม 23 ราย หายป่วยสะสม 7,641 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ 4,276 ราย กระจายอยู่ตามโรงพยาบาลต่างๆ ในจังหวัด
          สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้ง 277 ราย กระจายอยู่ใน 21 อำเภอ จากทั้งหมด 23 อำเภอ โดยอำเภอที่พบผู้ติดเชื้อสะสม มากที่สุดคือ อ.กระสัง 1,114 ราย รองลงมา อ.เมือง 1,043 ราย, อ.ประโคนชัย 1,050 ราย, อ.สตึก 1,022 ราย, อ.ลำปลายมาศ 826 ราย, อ.บ้านกรวด 598 ราย และ อ.คูเมือง 561 ราย ผู้ที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคทั้งหมด 2,637 ราย เป็น รายใหม่ 22 ราย และรายเก่า 2,615 ราย ส่วนการเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่สีแดงเข้ม/แดง/ส้ม สะสม 31,591 ราย กักตัวที่บ้าน 24,617 ราย และกักตัวในท้องถิ่น 6,974 ราย
          ปราจีนบุรีติดเพิ่มขึ้นอีก202ราย
          ส่วนที่ จ.ปราจีนบุรี มีรายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น 202 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสมรวม 6,620 ราย ทั้งหมดได้เข้ารับการรักษาตัวแล้ว โดยคลัสเตอร์ผู้ป่วยนอกจังหวัดเข้ามารับการตรวจรักษา 14 ราย คลัสเตอร์บริษัท ยูโรเปี้ยนฟู้ด จำกัด 16 ราย คลัสเตอร์โรงหลอมโลหะ ต.กรอกสมบูรณ์ 6 ราย คลัสเตอร์บริษัท เมโทร อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด 1 ราย เชื่อมโยงคลัสเตอร์ตลาดกองไทย 4 ราย เชื่อมโยงคลัสเตอร์เอกภาพ ซุปเปอร์ ปราจีนบุรี 9 ราย เชื่อมโยงคลัสเตอร์ไซต์งานก่อสร้างท่าตูม 17 ราย เชื่อมโยงคลัสเตอร์บริษัท LETA Stone 3 ราย เชื่อมโยงคลัสเตอร์บริษัท แอดแวนเทจฟุตแวร์ จำกัด 5 ราย เชื่อมโยงคลัสเตอร์บริษัท พูจิคูระ จำกัด 7 ราย เชื่อมโยงคลัสเตอร์บริษัท ไฮเออร์ จำกัด 1 ราย เชื่อมโยงคลัสเตอร์ไปรษณีย์ อ.นาดี 10 ราย เชื่อมโยง คลัสเตอร์ บริษัท เมโทร อินตัสเทรียล ปาร์ค จำกัด 1 ราย
          สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยยืนยันร้านล้างรถฟองโฟม 8 ราย ตรวจคัดกรองเชิงรุก บริษัทสุรพลฯ อ.กบินทร์บุรี 3 ราย ผู้ที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยยืนยัน 62 ราย บุคลากรทางการแพทย์ 2 ราย ผู้ที่มีประวัติการเดินทางไปกลับจากพื้นที่เสี่ยง 3 ราย ผู้ป่วยมีอาการตามเกณฑ์, ตรวจ ATK ผลเป็นบวกและอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 30 ราย ผู้ป่วยนอกจังหวัด 8 ราย อ.เมือง 36 ราย อ.กบินทร์บุรี 31 ราย อ.นาดี 30 ราย อ.บ้านสร้าง 1 ราย อ.ประจันตคาม 7 ราย อ.ศรีมหาโพธิ ย่านนิคมอุตสาหกรรม 84 ราย อ.ศรีมโหสถ 5 ราย
          ผวจ.ประจวบฯสั่งปิดหมู่บ้านเพิ่ม
          ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีรายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่าพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 75 ราย ส่งผลให้ มีผู้ติดเชื้อสะสม 7,069 ราย มีผู้เสียชีวิต เพิ่ม 3 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 44 ราย โดยนายพัลลภ สิงหเสนี ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับรายงานว่าเกิดคลัสเตอร์ใหม่กลุ่มชาติพันธุ์ ในพื้นที่หมู่ 3 บ้านป่าละอูบน ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน โดยมีแนวโน้มว่าจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ซึ่งขณะนี้พบชาวกะเหรี่ยงติดเชื้อแล้ว 46 ราย จึงออกคำสั่งประกาศปิด สถานที่ชั่วคราว และสนับสนุนภารกิจของโรงพยาบาลสนาม
          ทั้งนี้ จากคำสั่งปิดหมู่บ้านป่าละอูบน ได้ห้ามคนเข้า-ออกจากหมู่บ้าน พร้อมตั้งจุดตรวจสามแยกโค้งค่ายฤทธิ์ฤาชัยและเส้นทางไปอ่างเก็บน้ำป่าเลารวม 14 วัน ถึง วันที่ 4 กันยายนนี้ พร้อมกันนั้นได้แจ้ง โรงพยาบาลหัวหิน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม 60 เตียงรองรับผู้ติดเชื้อ ซึ่งเดิมให้กักตัวอยู่ในหมู่บ้าน
          เร่งตัดวงจรโควิดในอ.ท้ายเหมือง
          วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากประกาศคำสั่งเพิ่มเติมที่ 2507/2564 ลงวันที่ 20 สิงหาคม 2564 เรื่องปิดสถานที่ซอยหลังป้อม 1-2 หมู่ 9 ต.ท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ภายหลังพบการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทางนายสารัทธ์ เพชรรามวงศ์ ปลัด อบต.ท้ายเหมือง พร้อมด้วยนายถนัด ชาญเสนาะ ปลัดอำเภอ นำเจ้าหน้าที่ ส่งมอบสิ่งของเครื่องใช้ ถุงยังชีพ ตามโครงการ 1 ตำบล 1 คลังอาหาร ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ได้เร่งสอบสวนโรค และตรวจหาเชื้อกลุ่มเสี่ยง พบว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 13 ราย
          จากการสอบสวนโรคทราบว่าคลัสเตอร์ท้ายเหมือง เกิดจากผู้ติดเชื้อซึ่งทำงานที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ทำให้เกิดการแพร่ระบาดขยายวงกว้างโดยผู้จัดการห้างสรรพสินค้าดังกล่าวได้ปิดทำการเป็นเวลา 3 วัน พร้อมฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ ทำความสะอาด และเปลี่ยนพนักงานยกชุด นอกจากนี้ได้มอบสิ่งของ ให้กับอบต.ท้ายเหมือง เพื่อแจกจ่ายประชาชนทั่วไปที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ด้วย