สธ.ตรวจยารักษามะเร็งที่ระบุว่าเป็นสมุนไพรที่ จ.ปราจีนบุรี เบื้องต้นไม่พบสารปนเปื้อน แต่ต้องรอผลตรวจสอบอีกระยะจึงจะสามารถสรุปได้
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีประชาชนในจังหวัดปราจีนบุรีแห่รอคิวรับยาสมุนไพรที่มีการระบุว่าสามารถช่วยผู้ป่วยมะเร็งได้ และทางบ้านที่ผลิตและแจกแคปซูลยืนยันว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมาย เพราะไม่ได้อ้างการรักษา และไม่ได้ผลิตเป็นโรงงานขนาดใหญ่ ว่า เบื้องต้นตรวจไม่พบสิ่งปนเปื้อน หรือจุลินทรีย์ในตัวยา แต่ทั้งนี้ต้องตรวจหาสารในตัวแคปซูลว่ามีสเตียรอยด์หรือไม่ ซึ่งจะมีการตรวจสอบโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก อย่างไรก็ตาม การสรุปผลการพิสูจน์ต่างๆ จำเป็นต้องใช้เวลาอีกสักพัก ขณะนี้คงทำได้เพียงเตือนให้ประชาชนระวังในการใช้ และขอย้ำว่ามะเร็งมีหลายชนิด อย่าหยุดการรักษาแพทย์แผนปัจจุบัน
ด้าน นพ.วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า ต้องไปดูรายละเอียดการผลิต หากเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายก็ต้องแจ้งกับทาง อย. โดยผ่านทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ปราจีนบุรี
นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เปิดเผยว่า โรคมะเร็งเป็นโรคที่คนไทยป่วยกันเยอะและถือเป็นปัญหาสากล และการรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบันก็ต้องยอมรับว่ายังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ผู้ป่วยบางกลุ่มที่หวังจะหายหรือมีสุขภาพที่ดีขึ้น จึงแสวงหาการรักษาอื่นเพิ่มเติม โดยในตำราการแพทย์แผนไทยก็มีสมุนไพรหลายตัวที่มีสรรพคุณที่สามารถป้องกัน รักษาเซลล์มะเร็งได้ โดยหลักการจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ เป็นสมุนไพรเป็นยาเสริมการรักษาด้วยการแพทย์แผนปัจจุบัน เช่น การอาเจียน เพิ่มภูมิต้าน ทานโรคหลังการให้คีโม เป็นต้น
นพ.ปราโมทย์กล่าวอีกว่า มีการวิจัยสมุน ไพรที่ออกฤทธิ์ฆ่าเซลล์มะเร็งหลายชนิด เช่น สูตรตำรับเบญจอำมฤตอยู่ระหว่างทำการศึกษาวิจัยในกลุ่มผู้ป่วยโรคมะเร็งตับในระดับคลินิกเพื่อยืนยันผลตามมาตรฐานสากล ซึ่งกำลังเปิดรับอาสาสมัครที่ได้รับการยืนยันแล้วว่าป่วยเป็นมะเร็งตับไม่จำกัดจำนวน ตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นเดือน ธ.ค.2560 ซึ่งการวิจัยจะมีการใช้ยาตำรับเบญจอำมฤตร่วมกับการรักษาแผนปัจจุบัน คาดว่าจะใช้เวลาศึกษาในอีกประมาณ 2 ปี. |