Follow us      
  
  

ไทยโพสต์ [ วันที่ 13/09/2560 ]
พ.ร.บ.นมผง..ปลุกพลังสังคมนมแม่
ในวาระสัปดาห์นมแม่โลก 2560 เพื่อส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และสร้างการมีส่วนร่วมให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของการปกป้อง ส่งเสริม และสนับสนุนให้แม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้นานที่สุด ในปีนี้ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน องค์กร Alive and Thrive องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดงาน "รวมพลังสร้างสังคมนมแม่ให้ยั่งยืน" ตอกย้ำให้เข้าใจถึง "พ.ร.บ.นมผง" ที่มีผลบังคับใช้ 9 กันยายนที่ผ่านมา หลังจากผลักดันอย่างยาวนานถึง 36 ปี
          ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า พระราชบัญญัติควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก พ.ศ.2560 มีไว้เพื่อปกป้องหญิงตั้งครรภ์ แม่และครอบครัวที่มีทารกและเด็กเล็กจากการส่งเสริมการตลาดที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจในการเลือกอาหารให้ทารกและเด็กเล็ก ซึ่งเป็นช่วงวัยที่เปราะบางที่ควรได้รับอาหารที่เหมาะสม คือ นมแม่เพียงอย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิต และนมแม่พร้อมอาหารตามวัยจนถึงอายุ 2 ปีหรือนานกว่านั้น กฎหมายฉบับนี้จะช่วยให้แม่และครอบครัวได้รับข้อมูลเกี่ยวกับอาหารสำหรับทารก หรืออาหารเสริมทารกในแง่มุมที่ถูกต้อง ดังนั้นจึงอยากขอการสนับสนุนจากสื่อมวลชน รวมถึงทุกๆ หน่วยงานให้ความสนใจและช่วยกันผลักดันให้กฎหมายมีผลบังคับใช้อย่างมีประสิทธิภาพ และร่วมกันรณรงค์ให้สังคมไทยเป็นสังคมนมแม่ที่ยั่งยืน
          นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัยอยากสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจเรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
          ด้วยหลักง่ายๆ คือ "นมแม่ 1-6-2" เลข 1 หมายถึง การให้ทารกได้กินนมแม่ภายใน 1 ชั่วโมงแรกหลังคลอด เลข 6 หมายถึง การให้ทารกได้กินนมแม่เพียงอย่างเดียว 6 เดือนแรก และเลข 2 หมายถึง การให้ทารกและเด็กเล็กได้กินนมแม่ต่อเนื่อง 2 ปี หรือนานกว่านั้นตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก ปัจจุบันทารกที่ได้กินนมแม่ภายใน 1 ชั่วโมงแรกหลังคลอดมีร้อยละ 39.9 และกินนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน มีเพียงร้อยละ 23 ส่วนแม่ที่ให้นมลูกได้นานถึง 2 ปีมีเพียงร้อยละ 16 ซึ่งยังเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก จากสถานการณ์ดังกล่าว กรมอนามัยพร้อมภาคีเครือข่าย จึงร่วมกันผลักดันนโยบายภาครัฐให้สนับสนุนแม่และครอบครัวได้เข้าใจข้อเท็จจริงว่า นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก ที่จะช่วยสร้างต้นทุนให้กับลูก ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง พัฒนาการสมวัย จิตใจ อารมณ์ และมีทักษะเชาว์ปัญญา (Executive Function) ที่ดี นอกจากนั้นยังต้องร่วมกันปกป้องแม่และครอบครัวจากกลยุทธ์การส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็กต่างๆ และช่วยกันสื่อสารไปยังสถานที่ทำงานให้เอื้อเฟื้อการจัดตั้งมุมนมแม่ มีผู้บริหารและเพื่อนร่วมงานให้เข้าใจต่อการบีบเก็บน้ำนม เพื่อให้แม่ทำงานสามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ตามเป้าหมาย
          แพทย์หญิงศิริพร กัญชนะ ประธานมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในวันที่ 1-7 สิงหาคมของทุกปีเป็นสัปดาห์นมแม่โลก การจัดงานครั้งนี้ภาคียังคงผนึกกำลังอย่างเหนียวแน่น เพื่อขับเคลื่อนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้ยั่งยืนในสังคมไทย เริ่มจากโรงพยาบาลไปสู่ชุมชน และครอบครัวให้การสนับสนุน ส่งเสริม และปกป้องให้แม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้อย่างเต็มที่ และทำให้เรื่องนมแม่เป็นเหมือนเรื่องปกติในวิถีชีวิตให้ได้ โดยการสนับสนุน "เส้นทางเพื่อช่วยให้แม่ให้นมแม่ได้สำเร็จ" (Breaking the Barrier to Successful Breastfeeding) ซึ่งประกอบด้วย 6 ประเด็น ได้แก่ 1.การลงทุน 9 เดือน กำไรตลอดชีวิต 2.รู้ว่ามีน้อง ฝากท้องทันที 3.โฟเลต ไอโอดีน ธาตุเหล็ก สำคัญต่อลูกในท้อง 4.ชั่วโมงแรกที่ลูกเกิด บอกหมอ พยาบาล ช่วยนำลูกมาวางบนอกแม่ตั้งแต่ในห้องคลอด 5.วันแรกที่ลูกเกิดแยกแม่แยกลูกหลังคลอดไม่ดีนะ และ  6.น้ำนมมาแน่ถ้าแม่รู้และทำถูกวิธี.
          "กรมอนามัยอยากสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจเรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่  ด้วยหลักง่ายๆ คือ "นมแม่ 1-6-2" เลข 1 หมายถึง การให้ทารกได้กินนมแม่ภายใน 1 ชั่วโมงแรกหลังคลอด เลข 6 หมายถึง การให้ทารกได้กินนมแม่เพียงอย่างเดียว 6 เดือนแรก และเลข 2 หมายถึง การให้ทารกและเด็กเล็กได้กินนมแม่ต่อเนื่อง 2 ปี หรือนานกว่านั้นตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก"

 

 pageview  1205100    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved