Follow us      
  
  

ไทยโพสต์ [ วันที่ 24/07/2560 ]
อยู่เป็นลืมป่วย-ช่วยผู้สูงวัยเจริญอาหารด้วยเมนูจาก'ผักผลไม้โครงการหลวง'

 "กินอาหารให้เป็นยา" ถือได้ว่าเป็นเทรนด์การดูแลสุขภาพให้กับผู้สูงอายุที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะลดปัญหาการรักษาโรคด้วยยาปฏิชีวนะ ที่สุ่มเสี่ยงต่อสารเคมีตกค้างในร่างกายแล้ว ยังช่วยให้ระบบขับถ่ายของคุณตาคุณยายทำงานได้ดีขึ้น โดยเฉพาะ "ผักผลไม้จากโครงการหลวง" ที่สดสะอาด ปลอดสารเคมี เพียงแค่ล้างน้ำให้สะอาด บางชนิดก็สามารถรับประทานกันสดๆ  หรือจะดัดแปลงเป็นเมนูที่มีสีสันน่ารับประทาน และเหมาะกับผู้สูงวัยที่ป่วย ให้เจริญอาหารได้อย่างไม่น่าเชื่อ. สุทธิพงษ์ สุริยะ ฟู้ดสไตลิสต์ชื่อดัง ได้มาแนะนำการมีสุขภาพดีจาก "อาหารบำบัดโรค" ไว้น่าสนใจ
          สุทธิพงษ์ ฟู้ดสไตลิสต์ แนะนำว่า "เทรนด์กินอาหารเป็นยา ถือเป็นการรักษาโรคโดยใช้วิธีธรรมชาติบำบัด  โดยเฉพาะคนสูงวัย ที่จำเป็นต้องพึงระวังเรื่องการรับประทานอาหาร เพราะบางคนมีโรคอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเบาหวานและโรคความดัน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเลี่ยงการกินอะไรก็แล้วแต่ที่ไปเพิ่มโรค กล่าวให้ถูกคือ ถ้าสิ่งไหนดีก็ให้เลือกกินอย่างนั้น อาทิ "พืชผักผลไม้จากโครงการหลวง" ที่ค่อนข้างดีต่อสุขภาพผู้สูงอายุ เพราะผักและผลไม้ก็ช่วยเรื่องระบบย่อยอยู่แล้ว เพราะมีวิตามินเกลือแร่ รวมถึงกากใยอาหาร แต่ทั้งนี้ก็รู้จักวิธีที่จะปรุงให้มีสีสันน่ารับประทาน อีกทั้งเคี้ยวง่าย ย่อยง่าย และทำให้ผู้สูงวัยได้รับโปรตีนที่ไม่มากจนเกินไป อย่าง "เมนูเปาะเปี๊ยะสด" ที่รวมไว้ซึ่งสารพัดผักสดจากโครงการหลวง อาทิ ผักเรดโอ๊ก, ไก่ดำต้มแล้วฉีก รับประทานกับน้ำจิ้มพริกเผา ที่ไม่เผ็ดมากสำหรับผู้สูงวัย นอกจากนี้เมนูนี้ยังปราศจากน้ำมัน เพราะเป็นเปาะเปี๊ยะสด เหมาะกับคุณตาคุณยายที่เบื่ออาหาร เพื่อรับประทานเป็นของว่าง
          ถ้าผู้สูงอายุที่ป่วย ลูกหลานสามารถสร้างสรรค์เมนูที่ปรุงจาก "ข้าวกล้องดอย" โดยการนำมาทำเป็น "เมนูข้าวต้มปลา" ทดแทนการรับประทานเมนูโจ๊ก ซึ่งจะทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกเบื่อไม่อยากรับประทานอาหาร ที่สามารถใส่เนื้อปลาเรนโบว์เทราต์ (โครงการหลวง) หรือเนื้อปลาช่อนที่หาได้ทั่วไปลงไป ถ้าจะให้ดีควรเพิ่มสารพัดผักที่มีสีสันซึ่งช่วยทำให้ผู้ป่วยเจริญอาหารได้ เช่น ใส่แครอตหั่นฝอย หรือฟักทองหั่นชิ้น ซึ่งเมนูนี้ทั้งช่วยย่อยจากเนื้อปลา และคุณตาคุณยายยังได้รับวิตามินซีจากแครอตและฟักทอง ในการป้องกันโรคหวัด และต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยป้องกันความเสื่อมในร่างกายอีกด้วย
          กลับมาที่การดูแลสุขภาพผู้สูงวัย โดยการเลี่ยงการบริโภคอาหารที่เป็นสาเหตุของอาการท้องอืดท้องเฟ้อ เช่น อาหารที่มีไขมันสูง เช่น แกงกะทิ, ช็อกโกแลต, เนย, ชา, กาแฟ หรือแม้แต่ผักบางชนิด ที่ไม่ควรบริโภคดิบๆ อย่าง กะหล่ำปลี, ดอกกะหล่ำ, หน่อไม้ฝรั่ง เป็นต้น แต่ทั้งนี้หากต้องการให้ระบบ
          ขับถ่ายของผู้สูงวัยทำงานได้นั้น แนะนำว่าควรจะรับประทาน "น้ำผักผลไม้ปั่น" ซึ่งถือเป็นการล้างลำไส้ โดยเอาทุกอย่างที่เข้าไปในลำไส้ออกมา ก็จะช่วยให้ท้องโล่งสบาย โดยสามารถเลือกใช้ผักของโครงการหลวง อาทิ เซเลอรี่ (ขึ้นฉ่าย), พริกหวาน, แครอต, มะเดื่อฝรั่ง (ฟิก) ซึ่งมีไฟเบอร์, แคลเซียมสูง ซึ่งจะช่วยบำรุงกระดูกและฟัน และวิตามินเอสูงช่วยบำรุงสายตา นอกจากนี้ยังมีพลังงานจากคาร์โบไฮเดรต ที่ปราศจากไขมันและคอเลสเตอรอล หรือโซเดียม จึงไม่มีปัญหากับผู้สูงอายุที่โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง และโรคตับ หรือผู้สูงอายุที่ป่วยโรคเรื้อรังกลุ่มนี้สามารถรับประทานได้ เพียงแค่หั่นส่วนผสมที่บอกมาให้ละเอียด และนำใส่เครื่องปั่น แต่ถ้าหากต้องการความหวานเล็กน้อย เพื่อไม่ให้ไปกระทบสุขภาพของผู้สูงอายุที่ป่วยโรคเบาหวาน ก็ให้ใส่น้ำผึ้งธรรมชาติลงไป ซึ่งเมนูนี้เป็นยาระบายที่ปราศจากสารเคมีตกค้างในร่างกาย ซึ่งถือเป็นการรักษาโรคด้วยธรรมชาติบำบัดนั่นเอง".

 pageview  1205090    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved