Follow us      
  
  

ไทยโพสต์ [ วันที่ 29/01/2558 ]
กาแฟเย็น..เครื่องดื่มไม่เย็นสมชื่อ เตือนสาวระวังอ้วนแถมเป็นโรค
ดื่มกาแฟเย็นแล้วมันแสนจะสดชื่น ไม่ว่าจะเป็นกาแฟเย็นจากร้านชื่อดังราคาแพง หรือจากร้านรถเข็นข้างทางประเภทกาแฟโบราณ แต่สาวๆ รู้บ้างหรือไม่ว่า เครื่องดื่มยอดนิยมที่เรียกว่า "กาแฟเย็น" นั้น มีโทษมากกว่าประโยชน์ ถึงแม้คุณจะบอกว่ากาแฟเย็นของคุณเป็นแบบไม่หวาน ใส่นมนิดเดียว ใส่นมพร่องมันเนย หรือไม่ใส่น้ำตาลเลยก็ตาม
          จากผลการสำรวจของสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข พบว่า ในกาแฟเย็น 1 แก้วนั้นมีมากกว่าสารกาเฟอีน เพราะกาแฟเย็นขนาดแก้ว 20 ออนซ์ หรือ 600 มิลลิลิตร มีส่วนประกอบของไขมัน 22.1 กรัม โปรตีน 10.9 กรัม และคาร์โบไฮเดรต 49.4 กรัม ซึ่งให้พลังงานต่อร่างกายสูงกว่า 200 กิโลแคลอรี โดยพลังงานที่ร่างกายได้รับส่วนใหญ่ก็มาจากน้ำตาลที่มาจากนมข้น ครีมเทียม หรือไซรัปแต่งรสชาติในปริมาณที่มากถึง 38 กรัม หรือประมาณ 10 ช้อนชา ดังนั้นลองคิดเล่นๆ ดูว่า หากเรากินกาแฟเย็นเฉลี่ยวันละ 2 แก้ว นั่นหมายถึงร่างกายจะได้รับปริมาณน้ำตาลเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว!
          จากข้อมูลสามารถสรุปได้ว่า ไม่ว่ากาแฟเย็นแบบไหนก็ล้วนแล้วแต่ทำร้ายสุขภาพทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเมนูกาแฟยอดฮิตที่เขาขายกัน เช่น ลาเต้ มอคค่า เอสเปรสโซ และคาปูชิโน โดยกาแฟแต่ละสูตรนั้นมีปริมาณน้ำตาลไม่ต่างกันเท่าไรนัก ยกเว้นเมนูที่มีส่วนผสมของช็อกโกแลตและกาแฟที่ดื่มแล้วจะทำให้อ้วนมากกว่าเมนูอื่นๆ อย่างเช่น มอคค่าเย็น ที่ไม่ได้ให้แค่น้ำตาลอย่างเดียว ซึ่งหากลองเปรียบเทียบปริมาณน้ำตาลในกาแฟแต่ละสูตรจะพบว่า ลาเต้เย็นให้พลังงานสูงถึง 288 กิโลแคลอรี มีปริมาณน้ำตาลประมาณ 3-9 ช้อนชา คาปูชิโนเย็นให้พลังงานสูงถึง 303 กิโลแคลอรี มีปริมาณน้ำตาลประมาณ 6-9 ช้อนชา มอคค่าเย็นให้พลังงานสูงถึง 400 กิโลแคลอรี มีปริมาณน้ำตาลประมาณ 5-9 ช้อนชา แถมยังมีปริมาณน้ำตาลที่มาจากน้ำเชื่อมและผงช็อกโกแลตอีกด้วย แต่สำหรับกาแฟสูตรอื่นที่นอกเหนือไปจากนี้ เช่น เมนูแฟรปปูชิโน ทั้งแบบมีวิปครีมและไม่มีวิปครีมนั้นถือว่าเป็นเมนูกาแฟที่กินแล้วอ้วนที่สุด เพราะให้พลังงานสูงถึง 561 แคลอรี และ 457 แคลอรี ตามลำดับ
          จากการรวบรวมของกระปุกดอทคอมยังระบุว่า นอกจากปริมาณน้ำตาลในกาแฟเย็นที่ทำให้เราอ้วนขึ้น สุขภาพแย่ลงแล้ว ยังมีตัวการร้ายที่เราต้องระวังให้ดีก็คือ ครีมเทียม เพราะครีมเทียมมีส่วนประกอบหลักเป็นไขมัน โปรตีน และน้ำตาล โดยส่วนใหญ่ก็สกัดมาจากน้ำมันปาล์มและน้ำมันมะพร้าว จึงมีปริมาณกรดไขมันอิ่มตัวสูงประมาณร้อยละ 20-50 ถือเป็นไขมันทรานส์ที่มีผลให้คอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) ในเลือดเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ระบบการทำงานของตับผิดปกติ หากเราชงกาแฟด้วยครีมเทียมครั้งละ 2-3 ช้อนขึ้นไปเป็นประจำทุกวัน แน่นอนว่าเรามีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันอุดตันในเส้นเลือด
          ตามหลักโภชนาการที่ดีแล้ว ร่างกายของเราควรได้รับพลังงานโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 2,000 แคลอรีสำหรับผู้หญิง และ 2,500 แคลอรีสำหรับผู้ชาย ซึ่งการดื่มกาแฟเย็นแม้เพียงแค่แก้วเดียวก็ทำให้ร่างกายเราได้รับแคลอรีสูงกว่า 1 ใน 4 ของแคลอรีในอาหารรวม 3 มื้อเสียอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเราดื่มวันละหลายแก้ว แต่กลับไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกายมากนัก ก็ไม่แปลกที่น้ำหนักตัวจะเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการที่ร่างกายได้รับน้ำตาลในปริมาณที่สูงมากทุกวัน จนไม่สามารถเผาผลาญให้หมดในแต่ละวันได้ เกิดการแปรเปลี่ยนสภาพเป็นไขมัน กลายเป็นเซลลูไลต์ใต้ชั้นผิวหนังตามอวัยวะต่างๆ ในร่างกายเรา และยิ่งถ้าเราดื่มกาแฟเย็นเกินกว่า 1 แก้วต่อวันล่ะก็ร่างกายก็ยิ่งมีความเสี่ยงสูงในการโรคเสื่อมต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ได้แก่ โรคอ้วน โรคมะเร็งลำไส้ โรคหัวใจ โรคเบาหวานและความดันโลหิต สาเหตุเพราะน้ำตาลเป็นตัวทำลายความสมดุลของระบบไหลเวียนโลหิตในร่างกายนั่นเอง
          ดังนั้น ใครที่ติดกาแฟเย็นมาก ขอแนะนำให้ลองเปลี่ยนมาเป็นกาแฟร้อนดูนะคะ เพราะการกินแบบร้อนจะทำให้เราลดปริมาณน้ำตาลและไขมันได้มากกว่า อีกทั้งยังทำให้เรารับรสกาแฟได้มากขึ้นกว่าเดิมด้วย.
 pageview  1205139    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved