Follow us      
  
  

ไทยโพสต์ [ วันที่ 18/09/2557 ]
'ตาแดง'โรคยอดฮิตที่มากับหน้าฝน
พญ.ชลธิชา จารุมาลัย จักษุแพทย์ รพ.ปิยะเวท กล่าวว่า โรคตาแดงเป็นอีกโรคยอดฮิตที่เป็นกันมากในหน้าฝน ถึงแม้เป็นโรคที่ไม่ร้ายแรงนักแต่ก็ทำให้ต้องหยุดงานหรือหยุดเรียนเป็นสัปดาห์ โรคตาแดงเกิดจากการอักเสบของเยื่อบุตาขาว มีทั้งแบบเฉียบพลันและแบบเรื้อรัง สาเหตุอาจจะเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือภูมิแพ้ แต่โรคตาแดงในช่วงนี้เกิดจากการติดเชื้อไวรัส มักจะติดต่อทางการสัมผัสน้ำตา ขี้ตา หรือการใช้ของร่วมกัน เช่น ผ้าเช็ดหน้า หรือผ้าเช็ดตัว ส่วนใหญ่มักจะหายภายใน 2 สัปดาห์ โรคตาแดงสามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัยตั้งแต่เด็กเล็ก วัยเรียน วัยทำงาน ผู้ใหญ่ ตลอดจนผู้สูงอายุ และมักเกิดในโรงเรียน โรงพยาบาล ที่ทำงาน สถานเลี้ยงเด็ก ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีผู้คนอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก มีระยะเวลาของโรคประมาณ 5-14 วัน ถ้าไม่มีโรคแทรกซ้อนอื่น ผู้ที่ได้รับเชื้อไวรัสจะมีอาการตาแดง เคืองตา น้ำตาไหล อาจมีจุดเลือดที่เยื่อบุตาขาว มักจะมีขี้ตาร่วมด้วย โดยอาจเป็นเมือกใสหรือสีเหลืองอ่อน เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ผู้ป่วยบางรายอาจมีการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจนำมาก่อน มีอาการต่อมน้ำเหลืองหลังหูเจ็บและบวม มักเป็นที่ตาข้างใดข้างหนึ่งก่อน แล้วจะติดต่อมายังตาอีกข้างได้ภายใน 1-2 วัน นอกจากนี้ผู้ป่วยบางรายอาจมีกระจกตาดำอักเสบร่วมด้วย ทำให้เคืองตามาก ส่วนผู้ที่มีอาการตาแดงจากเชื้อแบคทีเรีย จะมีอาการตาแดง เคืองตา เจ็บตา มีขี้ตามากสีเหลืองหลังตื่นนอนตอนเช้า มักมีขี้ตามากจนทำให้เปลือกตาติดกัน แต่อาการจะไม่เฉียบพลันและรวดเร็วเท่าโรคตาแดงจากเชื้อไวรัส
          คุณหมอแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการรักษาโรคตาแดงว่า ผู้ป่วยโรคตาแดงต้องพยายามรักษาสุขภาพ พักผ่อนมากๆ โดยเฉพาะในช่วงที่มีอาการตาแดงอย่างรุนแรง ไม่ควรทำงานดึก ควรนอนให้เพียงพอควรรักษาโดยวิธีการประคบเย็น หยดน้ำตาเทียม และอาจหยดยาปฏิชีวนะในกรณีที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย หมั่นล้างมือบ่อยๆ ควรงดการใช้ผ้าเช็ดหน้าร่วมกัน ทุกครั้งที่จับตาควรล้างมือให้สะอาด ผู้ป่วยไม่ควรลงเล่นน้ำในสระเพราะจะแพร่กระจายเชื้อไวรัสไปในน้ำได้ และควรทิ้งกระดาษทิชชูที่ใช้ซับน้ำตาหรือเช็ดขี้ตาลงถังขยะทุกครั้ง สำหรับผู้ที่อยู่ในวัยเรียนหรือทำงานในที่ชุมชน ที่สาธารณะหรือสถานพยาบาล ควรหยุดเรียน หยุดไปทำงาน จนกว่าจะพ้นระยะการแพร่เชื้อ ซึ่งสังเกตได้จากอาการตาแดงหายไปและไม่มีน้ำตาไหล หากรักษาด้วยยาป้ายตา หรือยาหยอดตานานเกิน 7 วัน แล้วอาการยังไม่ทุเลาหรือมีอาการอื่นร่วม เช่น ปวดตามาก ตามัว ขี้ตาเป็นหนอง ลืมตาไม่ขึ้น มีไข้สูง ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที เพราะหากทิ้งไว้นานอาจถึงขั้นตาบอดได้
          อย่างไรก็ตาม การหลีกเลี่ยง ป้องกัน ย่อมดีกว่าการรักษา ดวงตาสวยๆ ของเรามีเพียงคู่เดียวที่คอยทำหน้าที่ให้เรามองเห็น หากดูแลสุขภาพตาของเราไม่ดีพออาจทำให้เราเสียดวงตาสวยๆ คู่นี้ไปก็ได้ ใช้งานดวงตาหนักมาทั้งปีควรหมั่นดูแลตรวจสุขภาพดวงตาอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อให้ดวงตาคู่สวยอยู่กับเราไปนานๆ.
 pageview  1205007    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved