|
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ [ วันที่ 22/05/2561 ] |
|
|
|
|
แฉวัยผู้ใหญ่เสี่ยงป่วย-ตายไข้เลือดออก ระวัง โรคความดัน-เบาหวาน-อ้วน อันตราย แนะไข้สูงรีบพบแพทย์ |
|
|
|
|
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า หลายพื้นที่ของไทยมีฝนตกอย่างต่อเนื่องเสี่ยงเกิดน้ำขังและเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของลูกน้ำยุงลาย ซึ่งสถานการณ์โรคไข้เลือดออกล่าสุดวันที่ 16 พ.ค.พบว่ามีผู้ป่วย 10,446 ราย กลุ่มวัยเรียนและวัยรุ่นยังคงเป็นกลุ่มที่มีการป่วยมากที่สุดและมีผู้เสียชีวิต 15 ราย เป็นกลุ่มอายุ 15 ปีขึ้นไปในจำนวนผู้เสียชีวิตเป็นผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือภาวะเสี่ยง 14 ราย ได้แก่ ภาวะอ้วน 6 ราย เบาหวาน ความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจ 3 รายโรคเลือด 2 ราย โรคทางระบบประสาท 2 ราย และติดสุรา 1 ราย ปัจจุบันพบว่าผู้ป่วยที่เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่นและผู้ใหญ่อายุ 15 ปีขึ้นไป ซึ่งมักจะมีปัจจัยเสี่ยงจากปัญหาสุขภาพอื่นๆร่วม เช่น น้ำหนักเกินมาตรฐาน มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน เป็นต้น ส่งผลให้กลุ่มวัยรุ่นและผู้ใหญ่ป่วยและเสียชีวิตเพิ่มขึ้น
อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวต่อว่า คร.ขอแนะนำให้ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและผู้ใหญ่ป้องกันตนเองไม่ให้ถูกยุงกัด โดยยึดหลัก "3 เก็บป้องกัน 3 โรค" คือ 1.เก็บบ้านให้สะอาด ไม่ให้มีมุมอับทึบเป็นที่เกาะพักของยุง 2.เก็บขยะ เศษภาชนะไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และ 3.เก็บน้ำภาชนะใส่น้ำต้องปิดฝาให้มิดชิดป้องกันไม่ให้ยุงลายวางไข่ ทั้งนี้จะสามารถป้องกันได้ถึง 3 โรคในคราวเดียวกัน คือ 1.โรคไข้เลือดออก 2.โรคติดเชื้อไวรัสซิกา และ 3.ไข้ปวดข้อยุงลาย รวมถึงควรสังเกตอาการของตนเอง หากมีอาการไข้สูงมากโดยฉับพลัน ปวดเมื่อย หน้าตาแดง อาจมีผื่นขึ้นใต้ผิวหนังตามแขนขา ข้อพับดังนั้นถ้ามีไข้สูง 2-3 วัน ไม่หายหรือไม่ดีขึ้น ต้องรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลโดยเร็วเพื่อรับการวินิจฉัย เพราะหากเข้ามารับการวินิจฉัยช้า อาจเป็นเหตุสำคัญทำให้มีโรคแทรกซ้อนรักษายากขึ้นและเป็นปัจจัยที่ทำให้เสียชีวิตได้ส่วนพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลเป็นพื้นที่เสี่ยงที่จะพบผู้ป่วยได้ง่ายเพราะการกระจุกตัวของประชากร. |
| | |
|
|