Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ [ วันที่ 09/04/2558 ]
10เมนูอันตรายสธ.เตือนประชาชนส้มตำยำลาบช่วงหน้าร้อน3เดือนตาย3ป่วย2.4แสน
 กระทรวงสาธารณสุขเตือนอากาศร้อนเป็นเหตุ ระวัง 10 เมนูเด็ดช่วงสงกรานต์ มีทั้งลาบ ยำ ส้มตำ ผักสด ขนมจีน ข้าวผัดปู ข้าวมันไก่ น้ำแข็ง เสี่ยงโรคระบบทางเดินอาหาร โดย 3 เดือนแรกของปี 2558 พบป่วยโรคอาหารเป็นพิษ 3 หมื่นราย และป่วยโรคอุจจาระร่วง 2.4 แสนราย เสียชีวิต 3 ราย แนะยึดหลักกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ
          กระทรวงสาธารณสุขฝากเตือนระวังโรคทางเดินอาหารในช่วงหน้าร้อน โดยเมื่อวันที่ 8 เม.ย.นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่มีวันหยุดยาวหลายวัน ส่วนใหญ่ประชาชนจะเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัด และโดยทั่วไปแล้วผู้จำหน่ายอาหารจะเตรียมอาหารไว้ขายเพื่อรองรับคนจำนวนมาก และอาจมีอาหารที่ค้างจากการจำหน่ายในแต่ละครั้ง ประกอบกับขณะนี้สภาพอากาศร้อนอบอ้าว ทำให้อาหารบูดเสียได้ง่าย ประชาชนจึงมีความเสี่ยงเจ็บป่วยจากโรคระบบทางเดินอาหารสูงกว่าฤดูกาลอื่นๆ โดยข้อมูลรายงานการเฝ้าระวังโรคของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-29 มี.ค.2558 ทั่วประเทศพบผู้ป่วยอาหารเป็นพิษ 30,259 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต และพบผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วง 247,212 ราย เสียชีวิต 3 ราย ตลอดทั้งปี 2557 ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยอาหารเป็นพิษ 134,516 ราย เสียชีวิต 1 ราย และพบผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วง 1,106,900 ราย เสียชีวิต 8 ราย ดังนั้น ในช่วงหยุดฉลองเทศกาลสงกรานต์ 11-15 เม.ย.นี้ ขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการรับประทานอาหารและน้ำดื่ม ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่ปรุงเองที่บ้าน อาหารสั่งซื้อ หรือออกไปรับประทานอาหารตามร้านนอกบ้าน
          นพ.โสภณกล่าวต่อว่า สำหรับอาหารที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคระบบทางเดินอาหาร ที่ประชาชนควรเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ 10 เมนู ได้แก่ 1.ลาบ/ก้อยดิบ 2.ยำกุ้งเต้น 3.ยำหอยแครง 4.ข้าวผัดโรยเนื้อปู 5.อาหารหรือขนมที่มีส่วนประกอบของกะทิสด 6.ขนมจีน 7.ข้าวมันไก่ 8.ส้มตำ 9.สลัดผัก และ 10.น้ำแข็งที่ผลิตไม่ได้มาตรฐาน ควรรับประทานอาหารเฉพาะที่ปรุงสุกใหม่ อาหารทะเล ก็ขอให้ปรุงสุก หลีกเลี่ยงการปรุงโดยวิธีลวกหรือพล่าสุกๆดิบๆส่วนอาหารประเภทเนื้อสัตว์ หมู ไก่ และไข่ควรปรุงให้สุกก่อนรับประทานทุกครั้ง ไม่รับประทานแบบสุกๆดิบๆ นอกจากนี้อาหารถุง อาหารกล่อง ควรแยกกับข้าวออกจากข้าว และควรรับประทานภายใน 2-4 ชั่วโมงหลังจากปรุงเสร็จ เพื่อป้องกันโรคอาหารเป็นพิษและโรคอุจจาระร่วง สำหรับอาหารเหลือต้องเก็บในตู้เย็นและทำให้สุกก่อนมารับประทานใหม่ แต่หากมีกลิ่นผิดปกติไม่ควรรับประทานเด็ดขาด
          ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดีกรมควมคุมโรคกล่าวว่า การป้องกันทั้ง 2 โรคดังกล่าว ขอแนะนำให้ปฏิบัติดังนี้ ในกลุ่มผู้ประกอบการอาหาร ขอให้ปรุงอาหารให้สุกด้วยความร้อนทั่วถึงและสะอาด ล้างผัก/ผลไม้ด้วยน้ำสะอาดหลายๆ ครั้ง หลีกเลี่ยงการใช้มีด เขียง หั่นอาหารดิบและอาหารสุกแล้วร่วมกัน เพื่อไม่ให้เกิดการปนเปื้อนเชื้อโรค ดูแลครัวให้สะอาด ส่วนผู้บริโภคขอให้ยึดหลัก “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” ได้แก่ 1.กินร้อน คือ รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ ในกรณีข้าวกล่อง อาหารถุง ต้องนำมาอุ่นให้ร้อนก่อนรับประทาน 2.ใช้ช้อนกลาง คือ เมื่อรับประทานอาหารในหมู่มากร่วมกัน ควรใช้ช้อนกลางในการตักอาหาร และ 3.ล้างมือ คือต้องล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนรับประทานอาหาร ก่อนปรุงอาหาร หลังขับถ่าย และหลังสัมผัสสิ่งสกปรก ทั้งนี้ โรคอาหารเป็นพิษและโรคอุจจาระร่วงมีอาการคล้ายกัน คือ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายเหลวบ่อยครั้ง อาจมีไข้ ส่วนการดูแลเบื้องต้น ให้ดื่มน้ำละลายผงน้ำตาลเกลือแร่ (โออาร์เอส) เพื่อป้องกันการขาดน้ำ หากอาการไม่ดีขึ้น ยังถ่ายบ่อย รับประทานอาหารไม่ได้ กระหายน้ำมากกว่าปกติ หรืออุจจาระเป็นมูกปนเลือด ขอให้ไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้านทันที
 pageview  1205693    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved