Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ [ วันที่ 08/03/2555 ]
พิษควันป่วย3หมื่นทางเดินหายใจ-หอบบางรายกระทบถึงตาการบินดีเลย์-ยกเลิก

8 จังหวัดภาคเหนือตอนบนยังวิกฤติ หมอกควันไฟจากการเผาป่าและพื้นที่เกษตรแผ่ปกคลุมหนาทึบ ปริมาณฝุ่นละอองในอากาศสูงเกินค่าเฉลี่ยอยู่ในขั้นอันตรายต่อสุขภาพ สธ. พบมีผู้ป่วยโรคหอบหืดและระบบทางเดินหายใจ เพิ่มมากขึ้นถึง 5 เท่า ขณะที่ทัศนวิสัยในการมองเห็นบางจังหวัดเหลือแค่ 1 กม. เท่านั้น เครื่องบินลงสนามบินแม่ฮ่องสอนต้องดีเลย์และยกเลิกทำการบินไม่มีกำหนด นักท่องเที่ยวเผ่นหนีเพราะหายไม่สะดวกและแสบตา
          ปัญหาหมอกควันไฟป่ายังคงแผ่ปกคลุมพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ส่งผลให้ทัศนวิสัยบางพื้นที่เลวร้ายหนัก มองเห็นได้ในระยะไม่เกิน 1 กม. และสายการบินต้องดีเลย์และเลื่อนบินไม่มีกำหนด โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน เมื่อช่วงเช้าวันที่ 6 มี.ค. พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน เฉลี่ย 24 ชั่วโมง อยู่ระหว่าง 117.7-188.4 ไมโครกรัม/ลบ.ม. ใน 8 จังหวัดภาคเหนือ ประกอบด้วย จ.แพร่ เชียงราย พะเยา ลำปาง แม่ฮ่องสอน น่าน เชียงใหม่ และลำพูน มีฝุ่นละอองสูงเกินมาตรฐาน 120 ไมโครกรัม/ลบ.ม. ทั้งสิ้น รวมถึงคุณภาพอากาศ (AQ1) ก็อยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ เกินมาตรฐานที่ 100 เช่นกัน
          ทั้งนี้ ผลการตรวจวัดระดับฝุ่นละอองรายชั่วโมง เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ วัดได้ 153.61 ไมโครกรัม/ลบ.ม. ร.ร.ยุพราชวิทยาลัย วัดได้ 130.39 ไมโครกรัม/ลบ.ม. ที่ศาลหลักเมืองลำปาง วัดได้ 167.1 ไมโครกรัม/ลบ.ม. และสถานีการประปาส่วนภูมิภาคแม่เมาะ วัดได้ 175.1 ไมโครกรัม/ลบ.ม. จ.พะเยา ที่สถานีอุทยานการเรียนรู้กว๊านพะเยา วัดได้ 157.1 ไมโครกรัม/ลบ.ม. จ.ลำพูน ที่สถานีสนามกีฬา อบจ.ลำพูน วัดได้ 125.7 ไมโครกรัม/ลบ.ม. และ จ.น่าน ที่สถานีตรวจวัดเทศบาลเมืองน่าน วัดได้ 148.4 ไมโครกรัม/ลบ.ม. จ.แม่ฮ่องสอน ที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดแม่ฮ่องสอน วัดได้ 177.3 ไมโครกรัม/ลบ.ม. 
          จ.เชียงราย ค่าเฉลี่ยฝุ่นละออง 24 ชั่วโมง ลดระดับความรุนแรงลงมา หลังจากที่เคยพุ่งขึ้นสูงสุดกว่า 356 ไมโครกรัม/ลบ.ม. เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยลดลงมาอยู่ที่ 156.1 ไมโครกรัม/ลบ.ม. ในเขต เมืองเชียงราย ส่วนที่ อ.แม่สาย วัดได้ 180.3 ไมโครกรัม/ลบ.ม. ขณะที่ในพื้นที่ จ.แพร่ กลายเป็นจังหวัดที่มีค่าฝุ่นละอองในอากาศสูงที่สุดใน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน โดยที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแพร่ วัดได้ 188.4 ไมโครกรัม/ลบ.ม. ซึ่งสถานการณ์หมอกควันไฟที่ยังคงปกคลุมพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบนอยู่นั้น ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำทุกจังหวัด ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ ระบุเมื่อเวลา 07.00 น. วันนี้ว่า 8 จังหวัด ภาคเหนือตอนบนมีทัศนวิสัยอยู่ในระดับ 1-4 กม. โดยเฉพาะ จ.ลำพูน แม่ฮ่องสอน แพร่ และน่าน มีทัศนวิสัยเพียง 1 กม.เท่านั้น
          สำหรับสถานการณ์หมอกควันไฟในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน ส่งผลต่อการท่องเที่ยวอย่างหนัก นักท่องเที่ยวพากันระงับการเดินทางเข้ามาในพื้นที่เนื่องจากหายใจไม่สะดวกและแสบตา และยังส่งผลให้สายการบินกานต์แอร์ ที่บินออกจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ เวลา 08.25 น. กำหนดลงสนามบินแม่ฮ่องสอน เวลา 09.00 น. ไม่สามารถทำการบินได้เนื่องจากควันไฟปกคลุมในพื้นที่ ต้องรอจนถึงเวลา 12.15 น. จึงบินได้ ส่วนสายการบินนกแอร์ เที่ยวบินในเวลา 11.35 น. ต้องเลื่อนเวลาทำการบินออกไปอย่างไม่มีกำหนด
          นายธานินทร์ สุภาแสน ผวจ.เชียงราย กล่าวว่า ขณะนี้กำลังทดลองวิธีผ่อนคลายปัญหาหมอกควันไฟๆ โดยให้บ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ชุมชนต่อท่อประปาพีวีซีขึ้นสูงกว่าหลังคาบ้าน และติดหัวสปริงเกอร์พ่นน้ำออกมาเพื่อเพิ่มความชื้นสู่อากาศ ซึ่งทางจังหวัดจะช่วยเหลือค่าติดตั้งจุดละ 800 บาท และขณะนี้ได้ประสานกับทางการประปาส่วนภูมิภาคเชียงรายให้ลดราคาค่าน้ำประปาบ้านผู้เข้าร่วมโครงการ 50 เปอร์เซ็นต์ทันทีในรอบบิลปัจจุบันและทางการประปาส่วนภูมิภาคเชียงรายได้ตอบรับมาแล้วเช่นกัน เชื่อว่าจะบรรเทาผลกระทบจากปัญหาหมอกควัน และสามารถเพิ่มปริมาณความชื้นในอากาศในชุมชนที่หนาแน่นๆได้ โดยจะทำต่อเนื่องไปจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
          วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รมช.สาธารณสุข เปิดเผยถึงมาตรการรับมือปัญหาหมอกควันไฟในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือตอนบนว่า นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้แต่ละหน่วยงานลงพื้นที่เพื่อดูแลตามหน้าที่ความรับผิดชอบ โดยให้กระทรวงสาธารณสุขดูแลเรื่องสุขภาพอนามัย กระทรวงมหาดไทยดูและประสานงบประมาณท้องถิ่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้มงวดกับประชาชนที่เผาป่ามากขึ้น โดยขอความร่วมมือให้หลักเลี่ยงไปก่อน นอกจากนี้ให้ดูแลรวมไปถึงปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อช่วยสลายหมอกควันในพื้นที่ ขณะนี้ทุกหน่วยงานเร่งมืออย่างเต็มที่ แต่สถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติเมื่อใดคงตอบได้ยาก
          นพ.สุรวิทย์กล่าวต่อว่า สำหรับการประกาศใน 8 จังหวัดภาคเหนือเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัตินั้นยังประกาศไม่ได้เพราะเกรงจะกระทบต่อการท่องเที่ยวในพื้นที่ ยกเว้นเพียง จ.ลำพูน แก่งเดียวเท่านั้นที่ยินดีให้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ ส่วนจังหวัดอื่นๆ คงต้องติดตามประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยในช่วงที่นายกรัฐมนตรีมีภารกิจในต่างประเทศก็ได้ฝากไว้ว่า หากมีความจำเป็นก็สามารถประกาศได้ทันที เพื่อที่จะได้นำงบประมาณฉุกเฉินออกมาใช้ในการแก้ปัญหา เช่นเดียวกับในส่วนของศูนย์อพยพที่มีการเตรียมการไว้ในหลายพื้นที่ โดยปรับใช้ห้องปรับอากาศ หรือศูนย์ประชุมที่อยู่ในพื้นที่ไว้รองรับประชาชนที่ประสบภัย แต่ยังไม่มีประชาชนย้ายเข้าไปอยู่เลย ทั้งที่อยู่ไม่ห่างจากบ้าน
          รมช.สาธารณสุขกล่าวอีกว่า สำหรับรายงานของกรมควบคุมมลพิษพบว่า ค่ามลพิษในอากาศหรือค่า PM 10 เกินมาตรฐาน 120 ไมโครกรัม/ลบ.ม. หลายจุด ที่หนักที่สุดคือที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย วัดได้เกิน 300 ไมโครกรัม/ลบ.ม. ซึ่งถือเป็นอันตรายมากเพราะจากการศึกษาพบว่า หากค่ามลพิษเกิน 120 ไมโครกรัม/ลบ.ม. จะมีผลกระทบกับเด็กเล็ก ผู้สูงอายุผู้ป่วยโรคหัวใจ และผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ หากเกิน 200 ไมโครกรัม/ลบ.ม. จะเป็นอันตรายกับคนธรรมดา ด้วยหรือหากเกิน 300 ไมโครกรัม/ลบ.ม. ต้องเคลื่อนย้ายอพยพออกจากพื้นที่
          "ล่าสุดรายงานด้านสุขภาพของประชาชนพบว่า มีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นถึง 5 เท่า แบ่งเป็นผู้ป่วยหอบหืดที่เพิ่มมากกว่า 14,000 ราย ผู้ป่วยเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจอีกกว่า 13,000 ราย และที่มีผลกระทบที่ตาและการมองเห็นราว 1,400 ราย โดยในส่วนนี้ก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลอย่างทั่วถึงแล้ว" นพ.สุรวิทย์กล่าว
          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ให้สัมภาษณ์ถึงการดูแลปัญหาหมอกควันไฟในภาคเหนือว่า สั่งกำชับให้กองทัพภาคที่ 3 เพิ่มมาตรการต่างๆ พร้อมให้ความร่วมมือกับส่วนราชการเพื่อแก้ไขปัญหาให้เสร็จโดยเร็ว แต่ปัญหาคือประชาชนไม่ให้ความร่วมมือ โดยเฉพาะในเรื่องของการเตรียมการเพาะปลูกจึงต้องพยายามทำความเข้าใจ ซึ่งหากมีการละเมิดเผาป่าจะต้องมีดำเนินคดี ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นอยู่อย่างนี้และควันไฟส่วนหนึ่งมาจากประเทศเพื่อนบ้านกองทัพบกได้ประสานไปยังผู้ช่วยทูตประเทศเพื่อนบ้านให้ช่วยกันดูแลเรื่องนี้ เพราะผลกระทบทั้ง 3 ประเทศ และส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยรวมการท่องเที่ยวก็มีปัญหา การขนส่งทางอากาศยานก็ทำไม่ได้ ซึ่งประชาชนที่อยู่ตามป่าเขาในพื้นที่สูงๆ เขาไม่ทราบถึงปัญหาเราก็จะต้องมีการแก้ไขปัญหาให้ได้และสิ่งสำคัญเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอและอากาศยานของเราก็มีอยู่อย่างจำกัด เพราะจุดไฟครั้งหนึ่งเป็น 100 จุด
          ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม.ว่าในเรื่องปัญหาหมอกควันนายกรัฐมนตรีสั่งให้นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว.ทรัพยากรฯ ไปประชุมร่วมกับ ผวจ. 9 จังหวัดภาคเหนือและให้ไปดูกฎหมายที่เกี่ยวเนื่องว่าจะแก้ไขที่ต้นตอได้อย่างไรบ้างเพราะการเชิญชวนประชาชนไม่ให้เผาป่าไม่เพียงพอ แต่ต้องมีกฎหมายอะไรที่บังคับใช้ได้บ้าง ขณะที่ รมว.ทรัพยากรฯ ระบุว่า อาจใช้ พ.ร.บ.สาธารณสุข เนื่องจากความรำคาญจากการเผา พ.ร.บ.จราจรทางบก ที่ห้ามเผาข้างทาง หรือ ป.อาญา มาตรา 220 ผู้ใดก่อเพลิงไหม้จะต้องได้รับโทษและ ขณะนี้ได้มอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทำงานและรายงานถึงนายกรัฐมนตรีโดยตรงแต่อันดับแรกต้องยุติการเผาป่าและหากพบผู้ที่เผาป่า ไม่ว่าจะเป็นใครรัฐบาลจะบังคับใช้กฎหมายเต็มที่ และขอประสานกระทรวงต่างประเทศขอความร่วมมือเพื่อนบ้านอย่าเผาป่า
          วันเดียวกัน นายสมควร พรมมา หัวหน้าหน่วยป้องกันปราบปรามและรักษาป่าไม้ที่ ตก.5 ห้วยไม้แป้น อ.แม่สอด จ.ตาก นำกำลังเข้าจับกุมนายอาหน่าย อายุ 20 ปี ชาวกะเหรี่ยง ขณะลักลอบจุดไฟเผาป่าท้ายหมู่บ้านปางวัว เขตป่าสงวนแห่งชาติแม่สอดหมู่ 10 บ้านปางวัว ต.มหาวัน อ.แม่สอด มีพื้นที่ถูกเผาไปแล้วกว่า 1 ไร่ สอบสวนทราบว่า นายอาหน่ายเป็นแรงงานเถื่อนไม่มีใบอนุญาตทำงาน แอบบุกรุกเผาป่าเพื่อทำไร่ปลูกพริกและมะเขือเทศ โดยนายอาหน่าย ยังยอมรับว่าเคยจุดไฟเผาป่ามาแล้วหลายครั้ง ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีการบุกรุกป่าและลอบเผาทำไร่ มีพื้นที่ป่าไม้ถูกเผาไปแล้วกว่า 20 ไร่ จึงนำตัวนายอาหน่ายส่งดำเนินคดีข้อหากระทำให้เกิดเพลิงไหม้ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 14,000 บาท.
 

 pageview  1204989    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved