|
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ [ วันที่ 28/05/2561 ] |
|
|
|
|
แนะ7กลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนฯฟรี1มิ.ย. |
|
|
|
|
เมื่อวันที่ 27 พ.ค.นพ.ศักดิ์ชัย กาญจน วัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกัน สุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า โรคไข้หวัด ใหญ่เป็นโรคพบบ่อยในทุกกลุ่มอายุ เกิดได้ตลอดปี แต่ระบาดมากในฤดูฝน ในกลุ่มเสี่ยงมีภูมิต้านทานน้อยอาจมีอาการแทรกซ้อน บาง รายถึงขั้นเสียชีวิตได้ จากรายงานเฝ้าระวังโรค โดยสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรคปี 2560 พบผู้ป่วย 196,765 ราย คิดเป็นอัตรา ป่วย 300.74 ต่อแสนประชากร เสียชีวิต 55 ราย สูงกว่าสถิติ 5 ปีย้อนหลัง และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น และในปี 2561 ตั้งแต่ 1 ม.ค. - 31 มี.ค.พบผู้ป่วยจำนวน 29,324 ราย เสียชีวิต 1 ราย ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ A (H1N1), A (H3N2) และสายพันธุ์ B ทั้งนี้เพื่อ ป้องกันการแพร่ระบาด สปสช.ร่วมกับกรมควบคุมโรคจึงจัดเตรียมวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฤดูกาลใหม่ 3.5 ล้านโด๊ส เพื่อฉีดให้กับประชาชนทุกสิทธิที่เป็นกลุ่มเสี่ยง 7 กลุ่ม ตามที่คณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติกำหนด คือ 1. หญิงมีครรภ์อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป 2. เด็กอายุ 6 เดือนถึง 2 ขวบ 3. ผู้มีโรค เรื้อรังประจำตัว ได้แก่ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หัวใจ หืด ไตวาย หลอดเลือดสมอง ผู้ป่วยมะเร็ง ที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน 4. ผู้สูงอายุที่อายุ 65 ปีขึ้นไป 5. ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ 6. โรคธาลัสซีเมียและผู้ที่ภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ และ 7. โรคอ้วน หรือผู้ที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 100 กิโลกรัม หรือดัชนีมวลกายตั้งแต่ 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร
นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวต่อว่า วัคซีนดังกล่าวเป็นวัคซีนผลิตจากเชื้อตาย 3 สายพันธุ์ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก ทั้งนี้ วัคซีนที่เตรียมไว้นี้ถือว่าที่ได้ผลดี ไม่มีปัญหากลายพันธุ์และมีความปลอดภัย ใช้ในประเทศไทยมากว่า 10 ปีแล้ว ทั้งคุ้มค่ากว่าวัคซีน 4 สายพันธุ์ ที่เพิ่งมีการให้บริการฉีดในภาคเอกชน โดยเพิ่มสายพันธุ์ชนิด B/วิคตอเรีย ซึ่งองค์การอนามัยโลกระบุว่าพบน้อยที่สุด มีความชุกเพียงร้อยละ 5 ดังนั้นในด้านประสิทธิภาพความครอบคลุมระหว่างวัคซีน 3 สายพันธุ์และ 4 สายพันธุ์ ทางการแพทย์ถือว่ามีความใกล้เคียง ไม่จำเป็นต้องใช้วัคซีน 4 สายพันธุ์ที่มีราคาสูงกว่า 2-3 เท่า จึงขอให้กลุ่มเสี่ยงมารับวัคซีนฟรีที่สถานบริการใกล้บ้านได้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.นี้เป็นต้นไป. |
| | |
|
|