กระทรวงสาธารณสุข เผย ประเทศไทยฮ่องกง  อยู่ในช่วง ระบาดไข้หวัดใหญ่ อย่างหนักชี้เกิดขึ้นตามฤดูกาล ระบุยังไม่พบการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ไม่ห้ามเดินทาง เผยไทยป่วยแล้ว 6.7 หมื่นคน ตาย 10 คน จากคาดการณ์ปี 60 จะมีผู้ป่วยถึง 3 แสนราย ยันไม่น่าห่วง ยกเว้นกลุ่มเสี่ยง ทั้งผู้สูงอายุ คนมีโรคประจำตัว และหญิงตั้งครรภ์
          เมื่อวันที่ 21 ส.ค. พญ.วรยา เหลืองอ่อน ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า ในช่วงฤดูฝน และฤดูหนาวจะเป็นช่วงที่มีการระบาดของโรคไข้หวัด ถือว่าเป็นการระบาดตามฤดูกาลเพียงแต่ที่ฮ่องกงปีนี้ค่อนข้างระบาดมาก และมีผู้เสียชีวิตเยอะ ส่วนประเทศไทยเมื่อต้นปีมีการพยากรณ์โรคเอาไว้ว่าปี 2560 จะมีผู้ป่วยสูงถึง 3 แสนราย ซึ่งพ้นครึ่งปีมาแล้วประเทศไทยมีผู้ป่วยแล้วประมาณ 6 หมื่นคน ถือว่าสถานการณ์ไม่น่าเป็นห่วงยกเว้นกลุ่มเสี่ยงคือเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว และหญิงตั้งครรภ์เป็นต้น เพราะคนเหล่านี้เมื่อติดเชื้อแล้วจะทำให้อาการรุนแรงขึ้นได้
          เมื่อถามว่าสายพันธุ์ ที่ระบาดในฮ่องกงกับไทยแตกต่างกันหรือไม่ พญ.วรยา กล่าวว่า แต่ละพื้นที่จะมีความแตกต่างกัน แต่ก็เป็นการระบาดตามฤดูกาลซึ่งไข้หวัดใหญ่หลักในไทยจะมีสายพันธุ์ เอช 1 เอ็น 1 (H1 N1) ซึ่งแยกย่อยเป็นสายพันธุ์ 2009 และอื่น ๆ ส่วนฮ่องกงจะเป็น สายพันธุ์เอช 3 เอ็น 2 (H3 N2) ก็จะมีสายพันธุ์แยกย่อยลงไปอีกรวมถึงไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์บี ทั้งนี้ยังไม่มีรายงานว่ามีการกลายพันธุ์ของสายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่แต่อย่างใดและขณะนี้องค์การอนามัยโลกก็ยังไม่มีการห้ามเดินทางเพราะโรคไข้หวัดใหญ่แต่อย่างใดเพียงแต่ว่าหากคนไทยเดินทางไปยังฮ่องกงช่วงนี้ ก็ขอให้สวมหน้ากากอนามัย และหลีกเลี่ยงการไปพื้นที่ที่มีคนอยู่เยอะ ๆ
          ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยากรมควบคุมโรค รายงานสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-15 ส.ค. 60 พบผู้ป่วย 67,233 ราย เสียชีวิต 10 รายกลุ่มอายุที่พบมากที่สุด คือ 15-24 ปี รองลงมา 10-14 ปี และ 25-34 ปี ตามลำดับ จังหวัดที่มีอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนสูงสุด 5 อันดับแรกคือระยอง กรุงเทพฯ เชียงใหม่ จันทบุรี และลำพูน ในสัปดาห์นี้ได้รับรายงานพบผู้ป่วยอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่เป็น กลุ่มก้อน 2 เหตุการณ์ในกรุงเทพฯ และ จ.ตาก มีผู้ป่วยสงสัยไข้หวัดใหญ่เสียชีวิต 2 ราย
          ขณะเดียวกัน กรมควบคุมโรคได้พยากรณ์โรคและภัยสุขภาพประจำสัปดาห์โดยคาดว่ามีโอกาสพบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้น จึงขอแนะนำให้ประชาชนดูแลตนเองโดยปิดปาก ปิดจมูกเมื่อมีอาการไอจาม หรือใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำและสบู่ เลี่ยงการอยู่ใกล้กับผู้ที่มีอาการป่วย มีไข้ ไอ จามและการอยู่ในพื้นที่แออัด หากป่วยควรหยุดเรียน หยุดงาน หยุดทำกิจกรรมเพื่อให้หายป่วยได้เร็วขึ้น และไม่ไปแพร่เชื้อให้กับบุคคลอื่น ถ้ามีอาการไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ไอ มีน้ำมูก โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงได้แก่ ผู้มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน หอบหืด โรคหัวใจ ผู้สูงอายุ เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปีหญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่มีภาวะอ้วน ให้รีบพบแพทย์ ส่วนบุคคลทั่วไป ควรรับประทานยาลดไข้ พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมาก ๆ หากอาการไม่ดีขึ้นให้รีบไปพบแพทย์หรือสายด่วน 1422.