เมื่อวันที่ 26 มี.ค. นายอภัย สุทธิสังข์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า  ช่วงนี้สภาวะอากาศแปรปรวนจากร้อนจัดสลับกับมีฝนตก ส่งผลต่อสุขภาพสัตว์ทำให้อ่อนแอเกิดโรคได้ง่าย กรมฯ ได้ออกประกาศเตือนไปทุกพื้นที่ให้เกษตรกรเฝ้าระวังดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างใกล้ชิด สร้างคอกให้อยู่ มีน้ำอาหารให้เพียงพอ หลายพื้นที่อากาศเปลี่ยนแปลงกระทบสุขภาพสัตว์มากกว่าช่วงปลายฝนต้นหนาว เพราะเมื่อฝนตกจะเปลี่ยนจากร้อนจัดมาเย็นเฉียบพลัน สัตว์จะเกิดความเครียดสูง โดยเฉพาะสัตว์ปีก สุกร โค-กระบือ จึงควรซ่อมแซมโรงเรือนไม่ให้โดนฝน ลมต่าง ๆ สัตว์ปีกให้นำเข้าเล้าช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง 3-4 สัปดาห์นี้จะเกิดโรคเสี่ยงประจำถิ่นได้ เช่น เชื้ออหิวาต์ มีในพื้นที่อยู่แล้วเป็นปกติ  หากสัตว์เครียด คนอ่อนแอ กินอาหารไม่สะอาดเสี่ยงเกิดโรคระบาดติดต่อคนได้ ยังมีโรคหลอดลมหากอากาศร้อนนาน ๆ ต้องฉีดวัคซีนป้องกัน จึงขอให้เกษตรกรไปใช้บริการอาสาปศุสัตว์หมู่บ้าน และอำเภอ ควรปรับระบบการเลี้ยงให้เป็นฟาร์มปิดเพราะขณะนี้โอกาสส่งออกสินค้าสัตว์ปีกของไทยมีค่อนข้างสูง เนื่องจากวิกฤติโรคระบาดไข้หวัดนก เป็นมาทั่วโลกไม่มีทีท่าจะหยุด
          นายอภัย กล่าวยืนยันว่า ไทยยังไม่พบโรคไข้หวัดนกสายพันธุ์รุนแรง  จึงสั่งการหน่วยกักสัตว์ตลอดแนวชายแดน ให้เฝ้าระวังคุมเข้มเพราะขณะนี้ ในประเทศเวียดนาม ลาว กัมพูชา เมียนมา พบการระบาดโรคไข้หวัดนก พร้อมประสานด่านศุลกากร ด่านกักพืช เพื่อป้องกันโรคและป้องกันลักลอบนำเข้าเนื้อสัตว์ชำแหละ ซึ่งจะเป็นตัวนำเชื้อโรคเข้ามาได้มาก  อย่างไรก็ตาม ปีนี้ไทยถือว่าโชคดีที่ไม่มีนกอพยพเข้ามาเหมือนทุกปีทำให้การควบคุมดีขึ้น หลังร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติฯ สุ่มตรวจเชื้อ 3 พันกว่าตัวอย่าง จากสัตว์ อาทิ นกป่า นกปากห่างยังไม่พบโรคไข้หวัดนกสายพันธุ์รุนแรง ทั้ง เอช 5 เอ็น 1 และเอช 5 เอ็น 6 ที่ติดต่อสู่คน  ล่าสุดเกิดโรคไข้หวัดนกในรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ผู้ป่วยต้องสงสัยส่งมารักษาที่ รพ.สุไหงโกลก ตรวจเชื้อพบเป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่ (เอ็นฟูบี) ไม่ใช่ไข้หวัดนก นอกจากนั้น ในโค-กระบือ ให้ระวังโรคปากเท้าเปื่อย คอบวมโดยตอนนี้ยังไม่พบโรค  จึงให้ปศุสัตว์ทุกจังหวัดรณรงค์ฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่องโดยจะฉีด 3 เดือนครั้ง.