เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายแพทย์พิเชฏฐ ลีละพันธ์เมธา ผอ.สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 7 จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ผู้ป่วยที่เจ็บป่วยฉุกเฉินสามารถเข้ารับบริการได้ทุกโรงพยาบาลที่ตั้งอยู่ใกล้ที่สุดได้โดยไม่ต้องสอบถามสิทธิ และไม่ต้องสำรองจ่ายเงินก่อนด้วย ทั้งในโรงพยาบาลของรัฐ และเอกชนทั่วไป ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติ คือ บุคคลที่มีอาการป่วยหรือบาดเจ็บกะทันหันที่มีภาวะคุกคามต่อชีวิต หากไม่ได้รับการรักษาทันทีอาจมีโอกาสเสียชีวิตสูง หรือมีอาการรุนแรงมากขึ้น ได้แก่ ภาวะหัวใจหยุดเต้น หายใจไม่ออก หอบรุนแรง หยุดหายใจ ภาวะช็อก ชักตลอดเวลา หรือชักจนตัวเขียว เลือดออกมากอย่างรวดเร็วและตลอดเวลา
ผอ.สำนักงานหลักประกันสุขภาพฯ กล่าวต่อว่า ส่วนผู้ป่วยฉุกเฉินเร่งด่วน คือบุคคลที่มีอาการป่วยหรือบาดเจ็บเฉียบพลัน หากไม่ได้รับการรักษาอย่างรีบด่วนมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนจนพิการ หรือเสียชีวิตได้ เช่น ไม่รู้สึกตัว ชัก อัมพาต หรือตาบอดหูหนวกทันที ตกเลือดซีดมากจนเขียว เจ็บปวดมากหรือทุรนทุราย ถูกพิษหรือรับยาเกินขนาด ได้รับอุบัติเหตุ โดยเฉพาะมีบาดแผลที่ใหญ่มากหลายจุด
นายแพทย์พิเชฏฐ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ทั้งนี้ผู้ป่วยฉุกเฉินตามคำนิยามดังกล่าว สามารถเข้ารับการรักษาตามสถานพยาบาลต่างๆ ทั้งของรัฐ และเอกชนได้ทันที โดยไม่สามารถเรียกเก็บเงินใด ๆ กับผู้ป่วยกลุ่มนี้ ไม่ว่าสิทธิใดก็ตาม โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จะเป็นหน่วยงานกลางในการจ่ายเงินให้แก่สถานพยาบาลไปก่อนแล้วค่อยเรียกเก็บกับกองทุนที่ผู้ป่วยมีสิทธิอยู่ในภายหลัง อย่างไรก็ตามหากประชาชน มีข้อสงสัย สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์สายด่วนการแพทย์ฉุกเฉิน 1669 และสายด่วน สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 1330 ได้ตลอดเวลา.
|