นายกฯ มาแนวใหม่เปิดงานเด็กอาชีวะ โชว์กึ๋นเอาผลงานส่งสายการบินสร้างรายได้เตือนนักศึกษาหญิงระวังป่องวัยใส สั่ง อสศ.เฟ้นมาตรฐานใหม่ป้องกันปัญหาทะเลาะวิวาทขีดเส้น 3 เดือนต้องเห็นผล ยงยุทธหนุนใช้ ม.44 แก้ปัญหาเยาวชน เจ้ากระทรวง ยธ. รับลูกปราบแว้นซ่าให้สิ้นซากคุมเข้มสถานบันเทิง

          เมื่อวันที่ 27 ก.ค. ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงานตลาดอาชีวะ จัดโดยสำนักงานคณะกรรม การการอาชีวศึกษา (สอศ.) ในปลายปีนี้ ประเทศไทยจะรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนซึ่งแรงงานฝีมือจะมีความสำคัญมาก ดังนั้นนักเรียน นักศึกษา ที่เรียนในสายอาชีวะ สามารถหางานทำก่อนได้ถือเป็นโอกาสดี เท่าที่ดูงานฝีมือของนักเรียนอาชีวะ ที่นำมาจัดแสดงในครั้งนี้ถือว่าเป็นผลงานที่มีคุณภาพ สามารถนำไปขยายผลเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อยากให้ทุกคนตั้งใจ และเลิกยกพวกตีกัน หรือก่อปัญหาทะเลาะวิวาท รวมถึงนักเรียนหญิงก็ขอให้ดูแลตัวเองให้ดี ซึ่งปัญหาที่มักพบมากคือปัญหาคุณแม่วัยใส อยากให้ตั้งใจเรียน อย่าไปสนใจหลงเชื่อคารมผู้ชาย

          ดร.ชัยพฤกษ์  เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กล่าวว่า นายกฯ ชื่นชมว่าผลงานของนักศึกษาอาชีวะ เป็นผลงานที่มีคุณภาพ โดยแนะนำให้จัดทำแคตตาล็อกผลงานที่มีคุณภาพ อาทิ เครื่องประดับจาก กาญจนาภิเษกวิทยาลัย ช่างทองหลวงแล้วส่งให้สายการบินต่าง ๆ เพื่อสั่งซื้อได้ล่วงหน้ารวมถึงอยากให้เปิดเป็นตลาดนัดคลองถมอาชีวะ เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีตลาดในการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้านอกจากนั้นยังแนะให้มีการต่อยอดเพื่อขยายผลในเชิงพาณิชย์กระจายให้แก่ชุมชน สำหรับปัญหาทะเลาะวิวาท และคุณแม่วัยใส ที่นายกฯมีความห่วงใยนั้น ที่ผ่านมา สอศ. ได้ให้ความสำคัญ โดยเน้นสร้างทักษะชีวิตให้ความรู้ที่เหมาะกับวัยของเด็ก ส่วนการทะเลาะวิวาท นายกฯ ก็ได้ย้ำให้ลงไปพูดคุยสร้างความเข้าใจโดยจะต้องเป็นมาตรการที่เห็นผลภายใน 3 เดือน

          ด้าน นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประกาศใช้ ม.44 แก้ปัญหาเด็กแว้นว่าเป็นมาตรการที่รัฐบาลออกมาโดยทางกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้ผลักดันอย่างไรก็ตามเรามีมาตรการอื่นด้วย ไม่ใช่ใช้มาตรการเดียวเช่นมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ที่มีการดูแลควบคุมเรื่องเครื่องดื่มที่มีแอล กอฮอล์ และยังมีเรื่องต่าง ๆ ที่ไม่ใช่การใช้กฎหมายเพียงฝ่ายเดียวรวมถึงมาตรการอื่นที่ส่งเสริมเยาวชนให้มีกิจกรรมสร้างสรรค์เหมาะสมก็มีอยู่มากดังนั้นไม่ใช่มีแต่ห้ามแต่มีการส่งเสริมการทำกิจกรรมสร้างสรรค์ อย่างเช่นช่วงปิดภาคเรียน เป็นต้น ซึ่งสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ก็เข้ามีส่วนสนับสนุนอยู่มาก ตรงนี้คิดว่าการดำเนินการต้องมองในภาพรวมซึ่งมีทั้งไม่ให้ทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ และส่งเสริมการกระทำในสิ่งที่เหมาะสม

          ที่กระทรวงยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว เกี่ยวกับมาตรการแข่งรถยนต์และ รถจักรยานยนต์ในทางและการควบคุมสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการว่าซึ่งจะให้เวลาอีกประมาณ 2 เดือนจะมีการประเมินผล เพื่อจะได้ทบทวนและปรับปรุงให้เหมาะสมทำให้เกิดความเข้าใจผิดบางประเด็น กรณีกำหนดระยะห่าง 300 เมตร ระหว่างสถานบันเทิงกับสถานศึกษา ยืนยันว่ามติครม.และคำสั่ง คสช. ยังไม่ได้กำหนดระยะห่าง มอบหมายหน่วยงานที่รับผิดชอบไปทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการเพื่อยุติปัญหาขอเตือนไปยังผู้ประกอบการว่าหากทำผิดกฎหมายก็ต้องถูกลงโทษ

          รมว.ยุติธรรม กล่าวต่อว่า  ได้หารือกับกระทรวงมหาดไทย เพื่อจัดโซนนิ่งการกำหนดโซนนิ่งไว้ตั้งแต่ปี 2545 ควรจัดใหม่ให้เหมาะสม ซึ่งพบว่ามีผู้ประกอบการไม่น้อยที่ไม่มีเจตนากระทำผิด แต่เพราะติดขัดข้อกฎหมายจึงไม่สามารถขออนุญาตเปิดได้ ให้แล้วเสร็จใน 180 วัน จะมีการพิจารณาปรับทุก 2 ปี และได้ประสานให้กรมสรรพสามิตทบทวนการออกใบอนุญาตให้สถานประกอบการต่าง ๆ สำหรับมาตรการแก้ปัญหาเด็กแว้นแม้จะมีการกำหนดเอาผิดกับผู้ปกครองที่ปล่อยปละละเลยให้ลูกหลานออกมากระทำผิด ไม่ได้มีเป้าหมายเอาผิดกับผู้ปกครองโดยไม่จำเป็น ยกเว้นมีการกระทำผิดซ้ำเป็นครั้งที่ 2 ส่วนผู้ประกอบการร้านตกแต่งรถยนต์หากทำถูกต้องตามกฎหมายไม่ได้เปิดตกแต่งรถเพื่อสนับสนุน ให้นำไปแข่งขันก็สามารถประกอบกิจการได้ตามปกติ

          วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจ นครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น. ได้มีหนังสือคำสั่งตามวิทยุ ตร.ที่ 0001/126 ลงวันที่ 24 ก.ค. 58 อ้างถึงคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 22/2558 ลงวันที่ 22 ก.ค. 58 เรื่องมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ในทางและการควบคุมสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการเพื่อให้การดำเนินการในภาพรวมของ บช.น. เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพตามนโยบายจึงกำชับผู้บังคับบัญชาทุกระดับ  โดยเฉพาะ รอง ผบช.น. และ ผบก.น. และ หัวหน้าสน.

          ให้กวดขันป้องกันการแข่งรถในทาง รวมทั้งการกระทำความผิดของสถานบริการสถานที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษาอย่างเข้มข้น จริงจัง ต่อเนื่อง และถือปฏิบัติโดยให้ทุกหน่วยดำเนินการตามมาตรการที่ ตร. กำหนดกำชับให้ทุกหน่วยกวดขันการปฏิบัติอย่างจริงจัง และหากพบการเพิกเฉย ละเลยไม่กระทำการ หรืองดเว้นการกระทำตามกฎหมาย ให้ดำเนินการทันทีรวมทั้งทางแพ่งและทางอาญาอย่างเฉียบขาดและรวดเร็ว คำสั่ง ตร. ที่ 1212/2537 ลงวันที่ 1 ต.ค. 37 และคำสั่ง ตร. ที่ 234/2558 ลงวันที่ 27 เม.ย. 58 เพิ่มเติมอีกส่วนหนึ่งด้วย สยศ.ตร. อยู่ระหว่างการจัดทำแบบรายงานเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการผลการรวบรวมการปฏิบัติ รายงานให้ ตร. ทราบซึ่งจะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป.