ปัจจุบันโรควัณโรคยังคงมีการระบาดไปทั่วโลก ข้อมูลขององค์การอนามัยโลกในปี 2554 พบว่าทั่วโลกมีผู้ป่วยวัณโรครายใหม่ 8.4 ล้านคน และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของประชากรทั่วโลกกว่า 1.4 ล้านคนต่อปี เป็นสาเหตุอันดับ 2 ของการตายจากโรคติดเชื้อ โดยทุก ๆ นาที จะมีผู้เสียชีวิตจากวัณโรคถึง 3 คน ดังนั้นในวันที่ 24 มีนาคม ของทุก ๆ ปีจึงได้ถูกกำหนดให้เป็น "วันวัณโรคสากล"เพื่อย้ำเตือนให้ประชากรโลกตระหนักว่าวัณโรคยังคงระบาดทั่วโลกและเป็นโรคติดต่อร้ายแรงอีกชนิดหนึ่งที่คร่าชีวิตมนุษย์เป็นจำนวนมาก

          เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ จังหวัดสระบุรี ทางสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 2 จ.สระบุรได้ร่วมรณรงค์เนื่องในวัน "วัณโรคสากล" โดย ดร.นพ.โสภณ เอี่ยมสิริถาวร รักษาการ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่  2 จ.สระบุรี เปิดเผยว่า สคร.2 สระบุรี มีการจัดกิจกรรมเนื่องในวัน "วัณโรคสากล" ต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ในปีนี้ได้ใช้คำขวัญในการรณรงค์ว่า "เข้าถึงทุกราย รักษาหายทุกคน" ซึ่งจะใช้เหมือนกันทั้งประเทศ เพื่อส่งเสริมและสร้างกระแสให้ประชาชนเกิดการรับรู้ ตื่นตัว ตระหนัก และรู้จักในการดูแลสุขภาพ ตลอดจนสร้างความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ ในการดำเนินงานควบคุม ป้องกันและแก้ไขปัญหาวัณโรค อันจะนำไปสู่จุดมุ่งหมายสูงสุด คือ "เมืองไทยปลอดวัณโรค" เนื่องจากวัณโรคเป็นโรคติดต่อสำคัญที่ยังเป็นปัญหาทางการสาธารณสุขของประเทศไทย เป็นสาเหตุที่ทำให้ประชาชนป่วยกว่า 80,000 รายต่อปี และเสียชีวิตกว่า 10,000 รายต่อปี ดังนั้นจึงขอเชิญชวนให้เครือข่ายสุขภาพร่วมกันรณรงค์ให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยว กับวัณโรคที่ถูกต้องเพื่อที่ประชาชนจะได้มีพฤติกรรมที่ห่างไกลจากวัณโรคต่อไป

          ในขณะที่เรือนจำพิเศษธนบุรี นายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมนายแพทย์สมบัติ แทนประเสริฐสุข นายแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค และนายแพทย์สมภพ สังคุตแก้ว ผู้อำนวยการกองบริการทางการแพทย์ กรมราชทัณฑ์ ร่วมประชาสัมพันธ์งานวัณโรคสู่ประชาชน ในกิจกรรมการรณรงค์วันวัณโรคสากล ประจำปี 2558 (World TB day 2558)

          นพ.โสภณ กล่าวว่า ทั่วโลกกำหนดวันที่ 24 มีนาคม ของทุกปีเป็นวันวัณโรคสากล (World TB Day) เพื่อย้ำเตือนให้ทุกภาคส่วนตระหนักว่าวัณโรคยังคงระบาดทั่วโลก และเป็นโรคติดต่อร้ายแรงอีกชนิดหนึ่งที่คร่าชีวิตมนุษย์ทั่วโลกเป็นจำนวนมากถึงกว่า 1.5 ล้านคนต่อปี สำหรับประเทศไทยมีเป้าหมายให้รักษาหายทุกราย ตามคำขวัญที่ใช้ในการรณรงค์ ปี 2558 คือ "Reach, Treat, Cure Everyone"ภาษาไทย คือ "เข้าถึงทุกราย รักษาหายทุกคน" นายแพทย์โสภณ กล่าวต่อไปว่า ผู้ต้องขังเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่มีโอกาสเสี่ยงสูง ซึ่งผู้ที่ ได้รับเชื้อก่อนจำคุกสามารถแพร่เชื้อสู่ผู้ต้องขังรายอื่นได้ไม่ยาก และผู้ต้องขังที่ติดเชื้อ ไม่ว่าจะติดจากนอกหรือในเรือนจำ ก็สามารถกลับไปแพร่กระจายเชื้อให้กับชุมชนได้เมื่อพ้นโทษแล้ว ซึ่งความร่วมมือกันในการควบคุมป้องกันวัณโรคในเรือนจำระหว่างกรมควบคุมโรคกับกรมราชทัณฑ์ เพื่อที่จะค้นหา ผู้ป่วยและทำการรักษา ซึ่งการรักษาในเรือนจำไม่มีปัญหาคือมีการกินยาต่อหน้าผู้ช่วยฝ่าย การพยาบาลของเรือนจำและทำได้ดีมากสามารถรักษาหายขาดสูงมากถึงร้อยละ 86 แต่ก็มีพ้นโทษออกไปก่อนที่จะรักษาหายขาดร้อยละ 4 ซึ่งมีระบบส่งต่อไปรักษาในสถานพยาบาลใกล้บ้าน

          ด้าน นายแพทย์สมภพ สังคุตแก้ว ผู้อำนวยการกองบริการทางการแพทย์ กรมราชทัณฑ์กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์มีเป้าหมายคืนคนดีสู่สังคม ซึ่งหมายรวมถึงการคืนคนสุขภาพดีสู่สังคมด้วยจึงให้ความสำคัญกับ เรื่องนี้มาก และได้ร่วมดำเนินกิจกรรมควบคุมวัณโรคภายใต้บันทึกความเข้าใจระหว่างกรมราชทัณฑ์กับกรมควบคุมโรค พบว่า เรือนจำ 142 แห่งทั่วประเทศ มีผู้ต้องขังมากกว่า 230,000 ราย ในปี 2557 มีผู้ป่วยวัณโรคทั้งสิ้น 1,407 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 611/100,000 ประชากร ซึ่งมากกว่าประชาชนทั่วไปถึง 6 เท่า อัตราผลสำเร็จการรักษาร้อยละ 86 ปัจจุบันกรมราชทัณฑ์คัดกรองวัณโรค ให้การรักษาโดยมีพี่เลี้ยงกำกับการกินยา ได้ตามมาตรฐานการดูแลรักษาผู้ป่วยวัณโรค.