เคยสงสัยกันบ้างไหมว่า ทำไมครีมบำรุงผิวที่มีสารสกัดของเมือกหอยทากเป็นส่วนประกอบจึงได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน เพื่อมอบความรู้เป็นวิทยาทานก่อนตัดสินใจครั้งต่อไป ดร.ธีรศักดิ์ เอโกบล อาจารย์ประจำภาควิชาพันธุศาสตร์ และ ดร.ปราโมทย์ ชำนาญปืน อาจารย์ประจำภาควิชาสัตววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ อาสาไขความลับของเมือกหอยทาก โดย ดร.ธีรศักดิ์ เผยว่า หอยทากที่นิยมนำมาสกัดเป็นส่วนผสมทางเวชสำอาง มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า "Helix aspersa" หรือ "หอยทากเอสคาโก" มีถิ่นกำเนิดจากทวีปยุโรป แต่ปัจจุบันฟาร์มเลี้ยงหอยทากถูกขยายไปยังประเทศต่าง ๆ เช่น ชิลี, เกาหลี และญี่ปุ่น เนื่องจากประเทศเหล่านี้มีสภาพอากาศที่เหมาะสม ไม่หนาวจัดหรือร้อนจัด
ดร.ธีรศักดิ์ กล่าวถึงแนวคิดการบำรุงรักษาผิวพรรณด้วยเมือกหอยทากว่า ถูกค้นพบโดยบังเอิญของคนงานในฟาร์มเลี้ยงหอยทากเพื่อส่งให้ร้านอาหารฝรั่งเศส เนื่องจากต้องสัมผัสกับหอยทากและเมือกอยู่เป็นประจำ จึงสังเกตพบว่ารอยแผลบริเวณมือที่เกิดขึ้นระหว่างการทำงานหายได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีผิวพรรณที่ดูกระชับและเนียนนุ่มขึ้น เป็นเหตุนำไปสู่ข้อสงสัยและเกิดเป็นงานวิจัยสรรพคุณของสารในเมือกหอยทากในเวลาต่อมา จากรายงานผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ พิสูจน์ให้เห็นว่าเมือกในหอยทากอุดมไปด้วยสารชีวโมเลกุลที่มีประโยชน์ เช่น โปรตีนที่มีคุณสมบัติในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ต่าง ๆ รวมทั้งแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว และยังมีสารโอลิโกไฮยาลูรอนิค แอซิด ช่วยลดเลือนริ้วรอยและเพิ่มความเต่งตึงของผิว
ด้าน ดร.ปราโมทย์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการผลิตเมือกของหอยทากว่า พบมากบริเวณใต้เท้าที่ใช้ในการเคลื่อนที่ โดยเมือกชนิดนี้ถูกหลั่งออกมาเพื่อช่วยลดการเสียดสีและอันตรายจากการสัมผัสกับพื้นผิวต่าง ๆ ป้องกันเชื้อจุลินทรีย์และสภาวะที่เสี่ยงต่ออันตราย และบริเวณโดยรอบของลำตัว เนื่อง จากสัตว์กลุ่มนี้มีลำตัวที่บอบบางและไม่มีชั้นผิวหนังที่กักเก็บน้ำไว้ได้ดีเหมือนสัตว์ประเภทอื่น ๆ จึงต้องขับเมือกออกมาปกคลุมร่างกายเอาไว้ เพื่อประโยชน์ในการป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้น
แม้เมือกหอยทากมีข้อดีแต่ก็มีข้อควรระวังเช่นกัน ดร.ปราโมทย์ แนะสิ่งที่ต้องระวังว่า หอยทากที่นำมาใช้ในกระบวนการผลิต ควรมาจากฟาร์มที่มีมาตรฐาน สะอาดปราศจากเชื้อก่อโรคและหนอนพยาธิ ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าพบอาการแพ้ในกลุ่มผู้ใช้ผลิตภัณฑ์จากเมือกหอยทากแต่ไม่ควรนิ่งนอนใจ หากมีการนำหอยทากมาใช้ผิดวิธีอย่างการทำสปาผิวหน้า โดยนำหอยทากที่จับจากแหล่งธรรมชาติมาเดินบนใบหน้าตัวเอง หรือโดยสถานเสริมความงามที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อ การแพ้ และการอักเสบของผิวหน้า ก่อนตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ควรทดสอบผลิตภัณฑ์กับผิวหนังบริเวณหลังใบหูก่อนนำไปใช้จริงกับผิวหน้า เพราะสภาพผิวมีความอ่อนโยนใกล้เคียงกัน หากเกิดอาการแพ้จะไม่ทิ้งร่องรอยให้เสียโฉม
ประโยชน์ของเมือกหอยทากยังไม่หมดเท่านี้ สาว ๆ ที่อยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมแนะนำไปฟังในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่จาก "สเนลไวท์" ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของเมือกหอยทากจากประเทศเกาหลี ในวันจันทร์ที่ 29 ก.ย. นี้ เวลา 18.30 น. ณ แฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน.
