Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ [ วันที่ 12/12/2556 ]
ชาวพัทลุงซาบซึ้งเดลินิวส์ซับน้ำตา
เฝ้าระวัง ลมตะวันตกพม่าเคลื่อนปกคลุม เหนือ-กลางตอนบน ทำเย็นยะเยือกลดอีก 6 องศาฯ กรมอุตุฯ เตือน "ลูกเห็บ" พัดถล่ม 12-16 ธ.ค. อาจสร้างความเสียหาย ด้านนักท่องเที่ยวเชียงใหม่ หนีคนแน่นตามแหล่งเที่ยวยอดฮิตหาจุดอบอุ่นพักผ่อนแทน ส่วนชาวบ้านนครพนมร่วมผิงไฟปะทังหนาวเหน็บ เช่นเดียวกับ สธ. หนองบัวลำภู แนะออกกำลังวันละ 30 นาที สร้างภูมิต้านโรคได้ ส่วนน้ำท่วมภาคใต้เริ่มคลี่คลาย ปัตตานีนราฯ ใกล้ปกติ "มูลนิธิแสง-ไซ้กี เหตระกูล" หอบถุงยังชีพซับน้ำตาชาวพัทลุง บรรเทาทุกข์ความเดือดร้อน
          เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้มีอากาศหนาวเย็นและมีหมอกในตอนเช้าโดยมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย สำหรับภาคใต้มีฝนลดน้อยลงแล้ว ซึ่งช่วงวันที่ 12-16 ธ.ค. คลื่นกระแสลมตะวันตกจะเคลื่อนจากประเทศเมียนมาร์เข้ามาปกคลุมภาคเหนือ และภาคกลางตอนบน ของประเทศไทย ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรง ซึ่งอุณหภูมิจะลดลงอีก 6-8 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะบางแห่งต้องเฝ้าระวังในเรื่องลูกเห็บที่จะตกลงมาจนสร้างความเสียหายด้วย
          ด้าน สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหวภาคเหนือ รายงานอีกว่า เมื่อเวลา 01.49 น.ที่ผ่านมา ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.8 ริคเตอร์ มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ประเทศเมียนมาร์ ห่างจาก อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน 80 กม. ทำให้ชาวบ้านแค่รู้สึกถึงได้เท่านั้น ไม่ได้สร้างความเสียหาย ส่วนผลกระทบทางการเกษตรนั้น ในระยะนี้ไม่ควรตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้ง เพราะอาจโดนน้ำค้างและหมอกจนเปียกชื้นเสียหาย ขณะที่สัตว์เลี้ยงก็ต้องนำแผงกำบังมาติดตั้งเพื่อป้องกันไม่ให้ลมหนาวพัดพาเข้ามาจนสัตว์ป่วยเป็นโรค
          ส่วนที่ จ.เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังอุณหภูมิลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักท่องเที่ยวจากภาคอื่นที่ต้องการสัมผัสลมหนาวและดูธรรมชาติสวยงาม ต่างแห่แหนจับจองสถานที่พัก เพื่อพาครอบครัวและคนรู้ใจมาซึมซับบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก อาทิ ดอยอินทนนท์ ดอยอ่างขาง จนคิวจองห้องยาวเหยียด แต่นักท่องเที่ยวชาวเชียงใหม่ส่วนใหญ่กลับหันเหไปพักผ่อนตามแหล่งที่เพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกายมากกว่า โดยเฉพาะน้ำพุร้อนสันกำแพง เนื่องจากรู้สึกชินกับสภาพอากาศหนาวเย็นอยู่แล้ว จึงต้องการอากาศที่อุ่นร้อน
          เช่นเดียวกับ จ.นครพนม ที่มีความหนาวเย็นต่อเนื่อง อุณหภูมิล่าสุดอยู่ที่ 13-15 องศาฯ ส่งผลให้ชาวบ้านทั้งจังหวัด โดยเฉพาะบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงต้องก่อไฟประทังความหนาว ซึ่งนายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ผวจ.นครพนม ได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือภัยหนาวแล้ว เพื่อประสานผู้มีจิตศรัทธานำเครื่องนุ่งห่มและเสื้อกันหนาวมาบรรเทาทุกข์ ส่วน นพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล นพ.สาธารณสุขจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวว่า ขณะนี้เข้าสู่ฤดูหนาวแบบเต็มตัวแล้ว ทำให้เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยจากอากาศเปลี่ยนแปลง เพราะฉะนั้นจำเป็นต้องเพิ่มความอบอุ่นตามศีรษะ ลำคอ และหน้าอก รวมทั้งออกกำลังกายให้ได้เหงื่อวันละ 30 นาที จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรคภัยเบื้องต้นได้ ด้านนักท่องเที่ยวที่นิยมกางเต็นท์นอน ขอเตือนว่าห้ามจุดเทียนหรือตะเกียงในเต็นท์เด็ดขาด เนื่องจากเสี่ยงถูกไฟคลอกและสูดดมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จนเสียชีวิตได้
          ขณะที่ สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ภาคใต้นั้น ที่ศาลาอเนกประสงค์บ้านอาพัด ต.จองถนน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง มูลนิธิแสงไซ้กี เหตระกูล นสพ.เดลินิวส์ ได้ลำเลียงถุงยังชีพ 1,360 ชุด มามอบให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่ อ.เมือง อ.ควนขนุน อ.เขาชัยสน และอ.ป่าบอน เพื่อช่วยซับน้ำตาแบ่งเบาความเดือดร้อน หลังต้องประสบอุทกภัยมานานนับเดือน อีกทั้งเป็นการคืนกำไรให้แก่สังคม โดยมี นายเสรี ศรีหะไตร ผวจ.พัทลุง นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล หน.ศูนย์ข่าวเดลินิวส์ภาคใต้ ตอนล่าง และตชด.434 พัทลุง คอยอำนวย ความสะดวก
          นายเสรี เปิดเผยว่า ขอขอบคุณมูลนิธิแสง-ไซ้กี เหตระกูล ที่เห็นปัญหาและให้ความสำคัญกับชาวบ้านในพื้นที่ประสบภัย เนื่องจากส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นคงช่วยเหลือได้ไม่ทั่วถึง เพราะอุทกภัยครั้งนี้ จ.พัทลุง โดนน้ำท่วมขังรวมถึง 11 อำเภอ อย่างไรก็ตามขณะนี้ถือว่าสถานการณ์คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นแล้วหลังน้ำลดระดับลงต่อเนื่อง อีกไม่กี่วันก็เข้าสู่ภาวะปกติ
          ด้าน จ.ปัตตานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังน้ำท่วมขังลดลงจนเกือบเป็นปกติ ชาวบ้านหลายอำเภอเริ่มทยอยกลับเข้าบ้านพักของตัวเองแล้ว รวมทั้งทำการปัดกวาดเช็ดถูซากสิ่งสกปรกที่พัดมากับน้ำออกจากตัวบ้าน เพราะส่งกลิ่นเหม็นเน่าฟุ้งกระจาย นอกจากนี้ถนนสายหลักก็เปิดเส้นทางสัญจรไปมาเรียบร้อยแล้ว แต่อย่างไรก็ตามทางผู้น้ำท้องถิ่นยังแจ้งให้เฝ้าระวังเรื่องน้ำป่าท่วมฉับพลันตลอดเวลา เช่นเดียวกับ จ.นราธิวาส นายไพโรจน์ จริตงาม นอภ.สุไหงปาดี พร้อมด้วยผู้ที่เกี่ยวข้องนำถุงยังชีพจำนวนหนึ่งไปมอบให้กับชาวบ้าน ต.สากอ หลังจากน้ำที่เคยสูงถึง 2 เมตร ได้ลดฮวบลงจนใกล้เหมือนเดิมแล้ว.
 pageview  1205831    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved