Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ [ วันที่ 13/02/2555 ]
ดีเอสไอสอบบิ๊กรพ.วชิระพบมูลทุจริตซื้อเครื่องซัก

          ดีเอสไอขออนุมัติสอบสวนข้อร้องเรียนผู้บริหารระดับสูงวชิรพยาบาลแล้ว ส่อฮั้วประมูลซื้อเครื่องซักอบผ้า หลังตรวจข้อเท็จจริงเบื้องต้นพบบริษัทที่ชนะการประมูลขาดคุณสมบัติรับงาน ทั้งทุนจดทะเบียนบริษัทที่น้อยเกินไป และพบข้อมูลการปลอมแปลงเอกสาร -คุณสมบัติของบริษัท อ้างเป็นเอเย่นต์ บ.ต่างประเทศ
          เมื่อวันที่ 11 ก.พ.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากกรณีกลุ่มแพทย์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยกรุงเทพมหานคร ได้ยื่นขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของผู้บริหารระดับสูงของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล กรณีความไม่โปร่งใสในการประมูลโครงการต่าง ๆ ภายใน รพ.วชิระฯ ซึ่งก่อนหน้านี้นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอได้มอบหมายให้ตั้งคณะทำงานขึ้นสืบสวนข้อเท็จจริงเบื้องต้น และมีการเรียกสอบปากคำพยานไปแล้ว 11 ปาก อาทิ นพ.อนันต์ มโนมัยพิบูลย์ นพ.ทวีพงษ์ จุลกมนตรี นพ.อนวัช เสริมสรรค์ ปรากฏว่าชุดสืบสวนได้ขออนุมัติทำการสอบสวนหนึ่งในประเด็นที่มีการร้องขอให้ตรวจสอบ เนื่องจากพบว่าอาจเข้าข่ายความผิดว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ (ฮั้วประมูล) คือกรณีการจัดซื้อเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า โดยพบว่าบริษัท เครน มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ชนะประกวดราคาครั้งนั้นไม่น่าจะมีคุณสมบัติเป็นผู้แทนจำหน่ายเครื่องซักผ้าอุปกรณ์ ซัก อบ รีด รายใหญ่กับหน่วยงานราชการ ซึ่งมีวงเงินมากถึง 34 ล้านบาทได้ ส่วนประเด็นอื่น ๆ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนหาข้อเท็จจริง เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ให้รับเป็นคดีพิเศษต่อไป
          ส่วนประเด็นการตรวจสอบกรณีเก็บค่าเช่าจากร้านค้าภายใน รพ.นั้น ปรากฏข้อเท็จจริงว่าร้านค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพ และยาขององค์การเภสัชกรรม ได้นำรายได้ส่งให้กับมูลนิธิวชิรพยาบาล ทั้งที่ปกติจะต้องส่งค่าเช่าพื้นที่ให้กับ รพ.เพราะถือเป็นค่าบำรุงตามระเบียบของ กทม. ปี 2552 เรื่องดังกล่าวถือว่าขัดกับระเบียบ กทม.นอกจากนี้ยังพบว่ามูลนิธิวชิรพยาบาลยังมีรายได้จากการบริจาคของธนาคาร 5 แห่ง รวมเป็นเงินกว่า 2 ล้านบาท เพื่อให้ธนาคารเข้ามาตั้งตู้กดเงินอัตโนมัติ (เอทีเอ็ม) ภายใน รพ. ส่วนประเด็นการอนุมัติใช้เงินไม่เหมาะสมกรณีซื้อเครื่องซักผ้านั้น เมื่อปี 2548 รพ.ได้ประกาศการประกวดราคาจัดซื้อเครื่องจักร 1 ระบบ แต่ไม่ใช้คำว่า "จัดซื้อเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า และเครื่องกำเนิดไอน้ำ 1 ระบบ" ทำให้หลายบริษัทเข้าใจผิดจนไม่เข้าร่วมประกวดราคา ส่วนบริษัทที่เข้าคัดเลือกก็ไม่มีคุณสมบัติเหมาะสมเพราะมีทุนจดทะเบียนเพียง 1 ล้านบาท ซึ่งดีเอสไอยังตรวจสอบพบว่ามีการปลอมแปลงเอกสาร และคุณสมบัติของบริษัทผู้ชนะการประกวดราคา โดยอ้างว่าเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าของบริษัทในต่างประเทศทั้งที่ไม่เป็นความจริง
          ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ส่วนประเด็นการแบ่งซื้อแบ่งจ้างพบว่ามีการลดวงเงินจัดซื้อจัดจ้างไม่ให้เกินครั้งละ 1 แสนบาท เพื่อใช้วิธีตกลงราคาแทนการเปิดซองแข่งขันราคา โดยบริษัทที่ได้รับงานคือผู้ประกอบการที่เป็นเครือข่ายของคณบดีจำนวน 4-5 ราย เมื่อตรวจสอบกลับพบว่าบริษัททั้ง 4 แห่ง ใช้บ้านพักอาศัยในการจดทะเบียน ไม่มีการติดป้ายห้างหุ้นส่วน และไม่ได้จดทะเบียนประกอบกิจการในทะเบียนธุรกิจ ประเด็นการจัดซื้อเครื่องเอกซเรย์สวนหัวใจ พบว่าช่วงปี 2547 รพ.ได้รับงบประมาณ 50 ล้านบาท ในการจัดซื้อเครื่องเอกซเรย์หัวใจซึ่งต้องจัดซื้อให้เสร็จสิ้นในปี 2548 แต่กลับมีการจัดซื้อในเดือน พ.ย. 2549 โดยไม่มีการประมูล ทั้งนี้ บริษัทที่ชนะการประกวดราคาคือ บริษัท ซีเมนส์ จำกัด ได้รับการทำสัญญากับ รพ. 49 ล้านบาท แต่เมื่อนำมาเทียบกับการจัดซื้อเครื่องเอกซเรย์หัวใจรุ่นเดียวกันสเปกเดียวกันจาก รพ.พระปกเกล้าจันทบุรี พบว่ามีราคาต่างกันกว่า 20 ล้านบาท โดย รพ.พระปกเกล้าจันทบุรีจัดซื้อไปในราคาเพียง 28.9 ล้านบาทเท่านั้น
          นอกจากนี้ประเด็นการเบิกเงินค่าเวรทีมแพทย์กู้ชีวิต ซึ่งผู้บริหารคนดังกล่าว จะทำเรื่องเบิกเวรเดือนละกว่า 10 เวร ได้รับเงินตอบแทนทุกเดือน เดือนละประมาณ 25,000-30,000 บาท แต่ข้อเท็จจริงน่าเชื่อว่าผู้บริหารคนดังกล่าวไม่น่าจะเข้าปฏิบัติงานตามหน้าที่ ส่วนประเด็นที่ นพ.อนันต์ มโนมัยพิบูลย์ คณะแพทยศาสตร์ วชิรพยาบาล ร้องว่าถูกข่มขู่คุกคาม ชุดสืบสวนได้ติดตามไปยังบริษัทนักสืบ คือ บริษัท ดรีม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และบริษัท กรุงเทพนักสืบ จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์หมายเลขทะเบียน ภศ 8566 กรุงเทพมหานคร ซึ่งใช้ติดตามนพ.อนันต์ จริงตามที่มีผู้ว่าจ้างให้ติดตาม ส่วนการตรวจสอบสถานที่บริเวณ รพ.พบว่ามีการก่อสร้างซ่อมแซมหลายจุดในส่วนของวิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานคร ซึ่งราคาก่อสร้างสูงกว่าปกติ นอกจากนี้พบว่ามูลนิธิอนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้ามาใช้สถานที่ รพ.เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ แต่ประเด็นการทุจริตต้องตรวจสอบต่อไป.

 pageview  1205008    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved