Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก [ วันที่ 10/10/2560 ]
ดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อนสานต่อความดีที่พ่อทำ

 ถ้าให้พูดถึงเรื่องราวดีๆ ที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงทำเพื่อให้ราษฎรชาวไทยได้อยู่ดีกินดี ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บและใช้ชีวิตสุขสงบและปลอดภัย ให้เล่ากันทั้งปีก็คง ไม่จบ แต่มีเหตุการณ์หนึ่งที่คนไทยทั่วประเทศยังจดจำ ความรัก ความห่วงใย ที่พระองค์ทรงมีต่อประชาชนไทยไม่รู้ลืม ย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2498 สมัยนั้นการแพทย์ไทยยังไม่ก้าวหน้าและประชาชนยังเข้าไม่ถึงระบบการสาธารณสุขได้ดีพอ มีผู้ป่วยโรคเรื้อนมากมายที่ไม่ได้รับการรักษาที่ดี เป็นที่รังเกียจและโดนกีดกันจากสังคม พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงทรงรับงานด้านการรักษาป้องกันโรคเรื้อนให้เป็นโครงการในพระราชดำริ ให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งรัดงานปราบโรคเรื้อน ทำให้เกิดโครงการควบคุมโรคเรื้อนแบบใหม่ และดำเนินการให้การรักษาที่บ้าน  เพื่อลดผลกระทบทางครอบครัว ของผู้ป่วย นอกจากนี้พระองค์ท่านยังพระราชทานพระราชทรัพย์จากทุนอานันทมหิดล ก่อสร้างอาคารวิจัยและฝึกอบรมวิชาการสร้างเป็นสถาบันราชประชาสมาสัย ขึ้นที่ โรงพยาบาลพระประแดงเดิม เมื่อปี พ.ศ.2503
          "น้องพีท" อรณ ยนตรรักษ์ประธานกลุ่มจิตอาสา The Lionheart Society จากโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ กล่าวว่า จากสิ่งดีๆ ที่พระองค์ท่านทำ เพื่อประชาชนคนไทยทั่วประเทศ พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างในการทำความดีโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เปรียบเสมือนการปิดทองหลังพระ ตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่พระองค์ท่านไม่อยู่ ผมและเพื่อนๆ สมาชิกกลุ่มจิตอาสาได้ร่วมกันทำความดี เพื่อระลึกถึงคำสอนของพระองค์ท่าน
          "พวกเราไปช่วยดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อนที่ราชประชาสมาสัย จ.สมุทรปราการ เนื่องจากผู้ป่วยสูงอายุเหล่านี้แม้จะหายจากโรคเรื้อนแล้ว แต่ผลจากโรคก็ทำให้เกิดความพิการถาวร เช่น นิ้วมือนิ้วเท้า มือ เท้า แขนขากุด ระบบประสาทการรับฟังและการมองเห็นถูกทำลาย ผู้ป่วยไม่สามารถดูแลตัวเองได้ มิหนำซ้ำยังถูกลูกหลานและครอบครัวทอดทิ้ง ถูกสังคมละเลย และรังเกียจ เพราะความเข้าใจผิดกลัวจะติดโรคเรื้อนจากผู้ป่วย ซึ่งในความเป็นจริงแล้วโรคเรื้อนเป็นโรคที่ติดต่อได้ยากมาก ถ้าเรามีภูมิคุ้มกันแข็งแรงปกติ แม้กระทั่งบุคคลในครอบครัวที่อาศัยกับพ่อแม่ที่ป่วยเป็นโรคเรื้อนโอกาสติดยังยากมาก และปัจจุบันผู้ป่วยโรคเรื้อนที่โรงพยาบาลราชประชาสมาสัยก็เป็นผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจนเชื้อหมดไปแล้ว เหลือแต่ความพิการถาวรจากโรคเท่านั้น ผู้ป่วยเหล่านี้จะดีใจมากเวลามีคนไปเยี่ยม นอกจากนี้ เรายังนำข้าวของที่จำเป็นไปมอบให้ และที่สำคัญคือการหาเงินทุนมามอบสมทบทุนให้แก่โรงพยาบาล เพื่อนำไปรักษาและพาผู้ป่วยสูงอายุไปทัศนศึกษานอกสถานที่ ปีละ 3-4 ครั้ง ซึ่งเราตั้งใจว่าจะทำต่อเนื่องไปเรื่อยๆ" ประธานกลุ่มจิตอาสากล่าว

 pageview  1205007    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved