"หมาบ้า"เพ่นพ่านทั่วกรุง ตรวจไม่ถึงเดือนเจอติดเชื้อ 6 ตัว ชี้หลังน้ำลดหมาจรจัดเพิ่ม เร่งฉีดวัคซีนย่านปากน้ำ

          เมื่อวันที่ 31 มกราคม นพ.พรเทพ ศิริวนา รังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบรายงานการตรวจหาเชื้อพิษสุนัขบ้าในหัวสุนัขที่ส่งตรวจที่สถานเสาวภา ในช่วงระหว่างวันที่ 4-23 มกราคม 2555 พบว่าหัวสุนัขจำนวน 6 หัวที่ส่งตรวจมีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า จึงได้ประสานข้อมูลกับสำนักควบคุมป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ กรมปศุสัตว์ ได้รายละเอียดว่า หัวสุนัขที่มีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าทั้ง 6 หัว เป็นสุนัขที่ถูกส่งมาจากหลายพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานคร โดยหัวสุนัขที่ส่งตรวจ เมื่อวันที่ 4 มกราคม ถูกส่งมาจากแขวงคลองตัน เหนือ เขตวัฒนา และแขวงทับยาว เขตลาดกระบัง วันที่ 6 มกราคม ส่งมาจากซอยลาซาล 52 เขตบางนา โดยหัวสุนัขรายนี้พบว่าเป็นสุนัขไม่มีเจ้าของอยู่ในอู่ซ่อมรถ และอู่ซ่อมรถดังกล่าวมีสุนัขแม่ลูกอ่อน 3 ครอก รวมแล้วประมาณ 20 ตัว

          หลังเกิดเหตุพบว่า สุนัขมีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า เจ้าของอู่ซ่อมรถได้นำสุนัขทั้งหมดไปปล่อยที่วัดคลองปลัดเปรียง ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของ จ.สมุทรปราการ แต่ยังไม่มีรายงานว่ามีสุนัขป่วยหรือตายเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม คงต้องมีการประสานกับกรมปศุสัตว์เพื่อเข้าไปฉีดวัคซีนให้แก่สุนัขและแมวรวมทั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ ในพื้นที่ต่อไป ส่วนหัวหมาอีก 3 หัวที่พบเชื้อส่งมาเมื่อวันที่ 10 และ 12 มกราคม จากแขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง และวันที่ 23 มกราคม ส่งมาจาก แขวงบางมด เขตทุ่งครุ

          นพ.พรเทพ กล่าวอีกว่า จากข้อมูลดังกล่าว จึงขอเตือนประชาชนในพื้นที่ที่พบสุนัขมีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า และพื้นที่ใกล้เคียง ให้สำรวจตรวจสอบว่ามีสัตว์เลี้ยง เด็ก หรือคนในบ้าน เคยคลุกคลีกับสุนัขในย่านนั้นหรือไม่ และถ้ามีสัตว์เลี้ยงไม่ว่าจะเป็นสุนัขหรือแมวในระยะนี้ไม่ควรปล่อยสัตว์เลี้ยงออกนอกบ้าน รวมทั้งควรเฝ้าระวังว่ามีสุนัขแปลกหน้า หรือมีอาการน่าสงสัยในย่านนั้นหรือไม่ ในกรณีที่รู้ตัวว่าเคยคลุกคลีหรือสัมผัสกับสัตว์ในพื้นที่ที่กล่าวมาแล้ว ควรไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเพื่อความปลอดภัยไว้ก่อน

          อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวด้วยว่า คนทั่วไปมักมีความเชื่อผิดๆ ว่า ลูกสุนัขจะไม่เป็น โรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งไม่เป็นความจริง หากลูกสุนัขคลุกคลีกับสุนัขที่มีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าก็อาจจะรับเชื้อมาได้ เช่นเดียวกัน ล่าสุดได้รับรายงานจากสำนักงานควบคุมโรคที่ 10 จ.เชียงใหม่ว่ามีสตรีท่านหนึ่ง บ้านอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ แต่มาปฏิบัติธรรมที่ฝั่งธนบุรี และไปฟังเทศน์ที่วัดใหม่เทพนิมิตร ซอยภัคคินีนาถ สะพานกรุงธนเห็นเด็กกำลังพยายามป้อนนมให้ลูกสุนัขพันธุ์บางแก้วอายุไม่เกิน 7 วัน ที่ยังไม่ลืมตา โดยรับทราบจากเด็กว่า แม่ของลูกหมาตัวดังกล่าวตายไปแล้ว จึงมีใจเมตตาเก็บสุนัขใส่ตะกร้ากลับไปเลี้ยงที่ จ.เชียงใหม่ ในช่วงระยะเวลาประมาณ 20 วัน ลูกสุนัขมีอาการซึม กินอาหารน้อยลง และอีก 2-3 วันต่อมา เริ่มกัดเจ้าของ จึงนำลูกสุนัขไปรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์ใน จ.เชียงใหม่

          ต่อมาอีก 4 วันลูกสุนัขตายหลังจากมีอาการทางประสาท เดินวน และถ่ายเป็นเลือด โรงพยาบาลสัตว์ได้ตัดหัวลูกสุนัขส่งตรวจ พบเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้าน อสม.รวมทั้งเชิญทั้งเจ้าของสุนัข คนในบ้าน ให้มาฉีดวัคซีนขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามเด็กนักเรียน 2 คนที่นำแมวซึ่งเคยเลี้ยงไว้ในกรงกับลูกสุนัขตัวดังกล่าวมาอุ้มเล่น และไปขอรับการฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ แต่ถูกปฏิเสธ โดยโรงพยาบาลอ้างว่าเด็กไม่ได้ถูกแมวกัดหรือข่วน ซึ่งกรณีนี้เป็นเรื่องที่เข้าใจผิดอย่างมาก เพราะแม้จะไม่ได้ถูกกัดหรือข่วนแต่หากเคยสัมผัสน้ำลายหรือสารคัดหลั่งของสัตว์ที่มีเชื้อพิษสุนัขบ้าก็อาจจะติดเชื้อได้

          ด้านนายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังรับทราบสถานการณ์ว่า หัวสุนัขที่ส่งมาตรวจและพบเชื้อพิษสุนัขบ้า ถูกส่งมาจากหลายพื้นที่ในเขต กทม. จึงได้สั่งการให้กรมควบคุมโรคเร่งประสานกรุงเทพมหานครในการเข้าไปตรวจสอบ และควบคุมโรคในพื้นที่ โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่ประสบอุทกภัยภายหลังน้ำลดด้วย เพราะได้รับรายงานว่ามีสัตว์พลัดหลงและจรจัดเพิ่มมากขึ้น

          อนึ่ง เมื่อวันที่ 30 มกราคม มีรายงานจากสำนักควบคุมป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ กรมปศุสัตว์ว่า พบสุนัขมีเชื้อโรคพิษสุนับบ้า ที่ ต.หัวโพธิ์ จ.สุพรรณบุรี ขณะนี้สำนักสุขศาสตร์สัตว์และสุขอนามัยที่ 1 กรมปุศสัตว์กำลังอยู่ระหว่างการควบคุมโรค