นายบุญเชิดกล่าวว่า การเผาป่าทุกกรณีถือเป็นความผิดทั้งทางกฎหมายป่าไม้ กฎหมายอุทยานแห่งชาติ และประมวลกฎหมายอาญา มีโทษจำคุกสูงสุด 15 ปี และปรับสูงสุดถึง 1 แสนบาท นอกจากนี้ยังเป็นความผิดตามพ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติพ.ศ.2535 ผู้กระทำผิดต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่รัฐตามมูลค่าทั้งหมดของทรัพยากรที่ถูกทำลายแต่ในทางปฏิบัติแล้วอยากให้ราษฎรเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันมากกว่าจะใช้กฎหมายบังคับเพราะหากเกิดปัญหาขึ้นจะส่งผลกระทบต่อประชาชน ขณะเดียวกันได้ขอให้ผู้บริหารและสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และสารวัตรกำนันให้ถือเป็นหน้าที่ต้องสอดส่องดูแลและปฏิบัติตามประกาศเพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงของปัญหาหมอกควันไฟป่าขึ้นในพื้นที่

          พื้นที่จังหวัดลำปางจัดอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าสูงในจำนวน 27 จังหวัดทั่วประเทศ จากการคาดการณ์สถานการณ์ไฟป่าปี 2555 และจากข้อมูลสภาพภูมิอากาศและเชื้อเพลิงที่สะสมเป็นปริมาณมากกว่าปีที่ผ่านมา จะทำให้การเกิดไฟป่าแต่ละครั้งมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น และจากความผันผวนของสภาพภูมิอากาศอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หากมีความกดอากาศสูงแผ่ลงมาปกคลุมพื้นที่เป็นเช่นเดียวกับเดือนมีนาคม 2552 และปี 2553 ก็จะมีการกักควันและไออากาศร้อนจนไม่สามารถลอยขึ้นไปสู่บรรยากาศที่สูงได้ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดปัญหาหมอกควันรุนแรงและยาวนาน