แม้ขณะนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขจะพยายามรณรงค์เรื่องการมีบุตรช่วยชาติ แต่ก็ยังคงมีหลายปัจจัยที่ทำให้คนไทยยังไม่สามารถมีบุตรได้ เช่นปัจจัยที่ว่า ผู้หญิงไทยแต่งงานช้าขึ้น ทำงานนอกบ้านมากขึ้น พอแต่งงานช้าอายุที่เริ่มต้นที่จะมีลูกก็ช้าขึ้น
          อายุช่วงวัยที่เหมาะสมแก่การมีลูกคือเป็นวัยเจริญพันธุ์คือช่วงอายุ 20-30 ปี ดังนั้นเมื่อแต่งงานอายุ 30 ปี โอกาสที่จะมีลูกยากก็จะเยอะขึ้น
          พญ.ปวริศา ยิ้มแย้ม สูตินรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องมีบุตรยาก กล่าวว่า ตอนนี้เทคโนโลยีที่ช่วยในเรื่องการมีบุตรในประเทศไทยของเรา มีวิธียอดฮิตอยู่หลักๆ 3 วิธี โดยจะเริ่มต้นจากดูว่า หลังจากแต่งงานมา 1 ปี และมีเพศสัมพันธ์กันสม่ำเสมอคือ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ มาเป็นเวลา 1 ปี จึงจะถือว่า มีบุตรยาก แพทย์จะตรวจร่างกายเพื่อดูว่ามีความผิดปกติอะไรหรือไม่ หากไม่มีจะเริ่มใช้วิธีการ กินยากระตุ้นไข่ นับวัน วิธีนี้จะได้ผลสำเร็จอยู่ที่ประมาณ 10%
          พญ.ปวริศากล่าวต่อว่า หากไม่สำเร็จภายใน 2-3 ครั้ง ก็จะเริ่มเข้าสู่วิธีที่สองคือการทำ IUI คือการ กระตุ้นไข่ วันที่ไข่ตกก็จะนัดให้แพทย์ฉีดเชื้อ โดยนำเชื้ออสุจิของผู้ชายมาปั่นเลือกตัวที่แข็งแรง แล้วฉีดเชื้อเข้าไปในโพรงมดลูก เป็นวิธีที่ทำกันมากสุดเพราะเป็นวิธีที่ง่าย ใกล้เคียงธรรมชาติ ที่สำคัญราคาไม่แพง จะได้ผลสำเร็จประมาณ 25% ในกรณีนี้หากฝ่ายหญิงอายุมากกว่า 37 โอกาสติดนั้นจะมีไม่ถึง 5%
          สำหรับวิธีนี้มักจะทำกันไม่เกิน 2-3 รอบ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 6,000-25,000 บาท แล้วแต่โรงพยาบาลรัฐหรือเอกชน
          หากยังไม่สำเร็จแพทย์ก็จะแนะนำให้ใช้การ ทำ In Vitro Fertilization หรือ IVF หรือที่เรียกอีกอย่างว่าเด็กหลอดแก้ว วิธีคือ เป็นการนำไข่และอสุจิมาผสมกันให้เกิดการปฏิสนธิภายนอกร่างกายในห้องปฏิบัติการเป็นเวลา 5 วัน จากนั้นจึงจะนำไข่ที่ได้รับการผสมแล้ว ย้ายกลับเข้าไปในมดลูกของฝ่ายหญิงยิ่งทำอายุน้อยโอกาสที่จะสำเร็จก็มากขึ้น
          ยิ่งทำก่อน 35 ปี โอกาสสำเร็จกว่า 60-80% หากอายุมากกว่า 35 หรืออายุ 35 ปีก็จะสำเร็จกว่า 40% โอกาสจะลดน้อยลงเรื่อยๆตามอายุ โอกาสติดน้อยลง วิธีนี้จะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง อยู่ที่ประมาณ 120,000 - 300,000 บาท ขึ้นอยู่กับว่าเป็นโรงพยาบาลรัฐหรือเอกชนเช่นกัน
          พญ.ปวริศายังเล่าอีกว่า วิธีการที่ช่วยเรื่องการมีบุตรในบ้านเราก็ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ใหม่มาก ถือว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าเรื่องเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก เช่นวิธีที่โครโมโซมก่อนฝังตัวอ่อนเพื่อดูว่าเด็กผิดปกติหรือไม่ และวิธีนี้จะสามารถรู้เพศได้ก่อนที่จะฝัง ที่ประเทศไทยก็สามารถทำได้
          ที่จริงแล้วตามกฎหมายบ้านเราถือว่าผิดหากจะเลือกเพศ แต่ทางการแพทย์นั้นถือว่า เราตรวจให้ทราบเพื่อวินิจฉัย เนื่องจากพ่อแม่บางคู่เป็นธาลัสซีเมีย โรคเลือดจาง ถ้ามาปฏิสนธิกันลูกมีโอกาสเป็นโรคเลือดจางอย่างรุนแรงได้ ก็สามารถตรวจโครโมโซมพวกนี้ก่อนฝังได้ บางคู่ถ้าไม่มีไข่ก็สามารถใช้ไข่ของญาติพี่น้องที่บริจาคมาได้ ซึ่งตามกฎหมายในประเทศไทยนั้นต้องเป็นญาติพี่น้อง ไม่สามารถใช้ไข่จากคนอื่นได้
          ที่ผ่านมาหลายครอบครัวมักจะไม่ได้เตรียมความพร้อมด้านการที่จะมีลูก และอาจใช้วิธีที่ผิดหลักวิทยาศาสตร์และไม่ได้ช่วยอะไรอย่างแท้จริง เช่น การกินยาจีน หรือการทำวิธีตามความเชื่อต่างๆ ซึ่งหนทางที่ดีที่สุดทั้งควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์โดยตรงจะดีกว่าเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เพราะเมื่อเริ่มกรรมวิธีที่ถูกต้องช้า ปล่อยอายุล่วงเลยไปก็จะยิ่งมีบุตรได้ยากขึ้น
          หากยังไม่แน่ใจว่าจะใช้วิธีใดช่วยในการมีบุตร พญ.ปวริศา ได้เชิญชวนให้ครอบครัวที่วางแผนจะมีบุตรเข้าร่วมสัมมนา "อยากมีลูกเราช่วยคุณได้" ที่โรงแรมศรีอู่ทองแกรนด์ จ.สุพรรณบุรี ติดต่อสอบถามได้ที่ เบอร์ 09-2215-6188 หรือ www.facebook.com/pawarisaclinic