Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์ข่าวสด [ วันที่ 22/12/2557 ]
'อีสุกอีใส'เป็นแล้วป่วยอีกได้ เตือนระวังระบาดหน้าหนาว
 ในช่วงฤดูหนาว อากาศจะเริ่มเปลี่ยนแปลงไป ทำให้ร่างกายของเราต้องสร้างภูมิคุ้ม กันขึ้นมาเพื่อป้องกันโรค โดยเฉพาะโรคที่มาจากเชื้อไวรัส
          ดร.นพ.สุวิช ธรรมปาโล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ในปี 2557 นี้ ตั้งแต่เดือนม.ค.-22 พ.ย.2557 ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค พบมีผู้ป่วยโรคอีสุกอีใสทั่วประเทศ จำนวน 79,301 ราย เฉลี่ยวันละ 244 ราย เสียชีวิต 1 ราย ซึ่งมี ผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2556 จึงต้องเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในหน้าหนาว เนื่องจากโรคอีสุกอีใสเกิดจากเชื้อไวรัส
          ติดต่อโดยการหายใจเอาละอองเสมหะ น้ำมูก และน้ำลายของผู้ป่วยเข้าไป เช่นเดียวกับไข้หวัด การใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้ป่วย หรือการสัมผัสน้ำเหลืองจากตุ่มพองใสที่ผิวหนังของผู้ป่วย และเนื่องจากปัจจุบันมีไวรัสโรคอีสุกอีใสสายพันธุ์ใหม่ ที่ค่อนข้างรุนแรงกว่าเดิม ผู้ที่เคยป่วยแล้วจึงสามารถกลับมาป่วยเป็นอีสุกอีใสได้อีก โดยเฉพาะในผู้ใหญ่ เนื่องจากเป็นเชื้อไวรัสคนละตัวกันจากที่เคยทำให้เกิดโรคในอดีต
          โรคอีสุกอีใสมักเกิดในเด็ก อาการเริ่มด้วยไข้ต่ำๆ ต่อมามีผื่นขึ้นที่หนังศีรษะ หน้า ตามตัว โดยเริ่มเป็นผื่นแดง ตุ่มนูน แล้วเปลี่ยนเป็นตุ่มพองใสในวันที่ 2-3 นับตั้งแต่เริ่มมีไข้ เริ่มแห้งตกสะเก็ดและร่วงในเวลา 5-20 วัน ผื่นอาจขึ้นในคอ ตา และในปากด้วย
          ผู้ป่วยควรพักผ่อนให้เพียงพอ และทำ ให้ร่างกายอบอุ่นอยู่เสมอ หากมีไข้ควรรับประทานยาลดไข้ ประเภทพาราเซตา มอล หากเจ็บคอ หรือไอควรปรึกษาแพทย์ เด็กนักเรียนที่ป่วย ควรให้หยุดเรียน 1 สัปดาห์    ผู้ป่วยที่มีอาการคันมากอาจใช้ยาทา โดยปรึกษาแพทย์ก่อน และควรรักษาผิวหนังให้สะอาด ไม่แกะตุ่มหนอง จะทำให้อักเสบ และควรตัดเล็บให้สั้น สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง เมื่อต้องปฏิบัติงานและคลุกคลีกับผู้อื่น หากเป็นไปได้ควรหยุดอยู่บ้าน 3-7 วัน หรือจนกว่าจะหาย
          ดร.นพ.สุวิชอธิบายเพิ่มว่า การป้องกันโรคอีสุกอีใสโดยทั่วไป เหมือนกับโรคไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัด และโรคหัด โดยการหมั่นดูแลสุขภาพให้แข็งแรง โดยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่คลุกคลีกับผู้ป่วย ไม่ใช้แก้วน้ำ ช้อน ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดมือ ร่วมกับผู้ป่วย และใช้ผ้าเช็ดหน้า ปิดปาก ปิดจมูกทุกครั้ง เวลาไอ จาม
          ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่หรือใช้แอลกอ ฮอล์เจล ทำ ความสะอาดมือ เช็ดทำความสะอาดพื้นผิวและสิ่งของที่มีคนสัมผัสบ่อยๆ เพื่อช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ หลีกเลี่ยงสถานที่มีคนพลุกพล่าน อากาศถ่ายเทไม่สะดวก เช่น ห้างสรรพสินค้า สวนสนุก เป็นต้น และหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการป้องกันโรคอีสุกอีใสสามารถสอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
 pageview  1205153    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved